‘ซาร่า’ สะอื้นลูกโดนลดคุณภาพชีวิต ถูกบีบให้ออกจากคอนโดหรูย้ายไปอยู่ห้องเช่าเดือนละ 4,000

‘ซาร่า’ สะอื้นลูกโดนลดคุณภาพชีวิต ถูกบีบให้ออกจากคอนโดหรูย้ายไปอยู่ห้องเช่าเดือนละ 4,000

หลังจากที่เป็นประเด็นร้อนในโลกโซเชียล จน ไมค์ พิรัชต์ ต้องลุกขึ้นมาชี้แจงเรื่องราวในมุมของตัวเอง หลังยื่นศาลขอใช้อำนาจปกครองลูกชาย เพราะถูกกีดกันไปแล้วนั้น ล่าสุด ซาร่า คาซิงกินี พร้อมด้วย ทนายวนิดา แซ่ก๊วย ก็ได้มาเปิดใจในรายการ โหนกระแส โดยได้บอกเล่าถึงปมสาเหตุที่เกิดขึ้นว่า

แยกย้ายกับไมค์มากี่ปีแล้ว?
“ถ้าตอนนี้น้อง 6 ปีค่ะ ถ้ารวมท้องด้วยก็ 6 ปีกว่าๆ ค่ะ”

6 ปีมานี้ไมค์ดูแลมาตลอดไหม?
“มันก็มีบางช่วงค่ะ ช่วงแรก ๆที่เรามีปัญหากัน ทุกอย่างมันยังคุยกันไม่ลงตัวแต่พอหลังจากนั้น คุยกันลงตัวก็เป็นการช่วยเหลือดูแลกันมาตลอดค่ะ”

ปัจจุบันนี้ทางน้องกับซาร่าอยู่กรุงเทพหรือเปล่า?
“อยู่ภูเก็ตค่ะ บ้านซาร่าอยู่ภูเก็ตค่ะ”

Advertisement

ก่อนหน้านี้ที่อยู่กรุงเทพล่ะ?
“ก่อนหน้านี้อยู่ภูเก็ตค่ะ แต่ว่าเราตัดสินใจที่จะมาอยู่กรุงเทพเพื่อความสะดวก คือตัวซาร่าอยากให้แมกซ์กับไมค์เจอกันบ่อยๆ ก็เลยคุยกันว่าคงต้องมาใช้ชีวิตอยู่กรุงเทพเพื่อเขาจะได้เจอกันง่ายๆ อำนวยความสะดวกค่ะ”

ลูกก็เลยมาเรียนอยู่ที่นี่
“ใช่ค่ะ”

ล่าสุดไมค์มีการประกาศออกมาว่า ต้องการที่จะร้องต่อศาลเพื่อขอเป็นพ่อโดยถูกต้องตามกฏหมาย อันนี้ทำไมติดขัดอะไรถึงไม่ได้?
“จริงๆ เรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่เราไม่เคยคุยกันเลย ไม่เคยมีการพูดถึงเรื่องการรับรองบุตรกันเกิดขึ้นมันมีแต่สื่อข่าวต่างๆ ที่ออกมา ถ้าลองย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว เราเคยมีปัญหาเรื่องนี้ผ่านสื่อกัน ซึ่งเป็นหนึ่งปีเต็มๆ ที่ทางฝั่งคุณพ่อเขาพูดว่ารับรองแล้ว เรียบร้อยแล้ว แล้วมันจะมีปัญหากันช่วงนึงค่ะ ที่ทำให้ทุกคนได้รู้ว่ามันไม่ได้มีการรับรองเกิดขึ้น แต่ตัวซาร่าเองก้ไม่ได้เรียกร้องอะไร”

Advertisement

เขาเคยขอไหม?
“ไม่เคยค่ะ เราไม่เคยคุยกันเรื่องนี้เลย”

แล้ววันนี้ที่เขาขอแล้วไปร้องต่อศาล ทำไมเราถึงไม่อนุญาตเขา?
“คือเขาควรคุยกับเราดีๆ ก็ได้ ไม่ใช่ว่า ด้วยความที่เราอยู่บ้านแล้วแม่เราก็เดินมาพร้อมหมายศาล”

ในมุมของไมค์ที่ทราบมาคือไม่เจอลูกมา 5-6 เดือนแล้ว?
“ไม่จริงค่ะ เพราะวันเกิดลูก กรกฏาที่ผ่านมา ในไอจีเขาก็ลงเขามาหาลูกที่คอนโด เขาบอกว่าจะมาเซอร์ไพรส์วันเกิดลูก ใส่ชุดสไปเดอร์แมน ถ่ายรูปลงไอจี”

เห็นว่าก่อนเจอคือยากลำบากมากกว่าจะได้เจอลูก?
“ไม่อ่ะค่ะ ที่ผ่านมา 6 ปี เราเอื้ออำนวยความสะดวกให้คุณพ่อเขาตลอด คืออยากเจอเมื่อไหร่เราแสตนบายให้ตลอด แต่มันก็มีบางครั้งที่เราไม่ว่างนะ เราทำกิจกรรมกันอยู่นะก็แจ้งพ่อเขา ที่ผ่านมาเขาก็เข้าใจ แต่พอมาวันนี้คำตอบของเราคือวันนี้เราไม่ว่าง เขาก็ไม่ว่างในวันที่เราอยากให้เขา เราก็พูดว่าโอเคนะไม่เป็นไรแค่คน 2 คนว่างไม่ตรงกันเราก็นัดกันใหม่ได้”

ถามถึงเรื่องวันเกิดที่ไมค์จะไปหาลูก เท่าที่ทราบมาวันนั้นคุณพาลูกหนีด้วย คุณบอกไมค์ว่าจะพาลูกกลับภูเก็ตแล้วไปแจ้งเที่ยวบินเขาผิด เขาไปนั่งรอที่สนามบินกับปู่แต่ไม่เจอ อันนี้จริงหรือเปล่า?
“ไม่จริงค่ะ คือถ้าติดตามซาร่ามาตลอด 6 ปี ทุกๆวันเกิดของน้องแมกซ์เวลล์จะอยู่ภูเก็ตอยู่แล้วค่ะ แล้วเราจะมีการจัดงานวันเกิดที่กรุงเทพก่อนหน้านั้น แต่ไมค์เขาพูดว่าปีนี้เขาไม่สะดวกด้วยโควิด ด้วยอะไร เลยไม่อยากจัดงานวันเกิดลูก เราก็โอเคไม่เป็นไร เขาก็เลยขอเราว่าขอพาลูกไปฉลอง ซึ่งเราก็ให้ แค่ขอก่อนที่เราจะพาลูกกลับภูเก็ตนะ ซึ่งแม่ซาร่าเป็นคนเดินทางกับน้องค่ะ แล้วเรายังไม่มีวันชัดเจน เราบอกแค่ว่าเราจะกลับภายในอาทิตย์นี้”

ยืนยันว่าไม่ได้พาลูกหนี?
“ไม่ค่ะ จะหนีทำไมคะ แค่ภูเก็ตเขาบินไปหาก็ได้”

การที่ไมค์ไปร้องขอเพื่อที่จะรับรองบุตรอย่างถูกต้องตามกฏหมาย ทำไมถึงไม่ให้เขา เขาไม่ดีตรงไหน?
“ไม่ใช่ว่าเขาไม่ดีค่ะ ด้วยความเราอยู่กับลูกมาตลอด 6 ปี แล้วรับรองบุตรเนี่ยเขายื่นมาหลังจากที่เขาขอลดคุณภาพชีวิตลูก ทุกอย่างค่ะ ที่อยู่อาศัย โรงเรียนลูก ซึ่งเรารู้สึกว่าเรายอมไม่ได้ที่จะให้คุณภาพชีวิตลูกลดลง เราเลยคิดว่าถ้าเขามีสิทธิ์ในการปกครองลูกแล้วคุณภาพชีวิตลูกต้องลดในแบบที่เรารู้สึกว่ามันไม่โอเคกับลูก เราขอปกครองแต่เพียงผู้เดียว เพราะเรายังอยากให้คุณภาพชีวิตลูกเป็นแบบนี้”

คุณไมค์ดูแลคุณกับลูกชายตลอด มีส่งเสียอย่างไรบ้าง?
“มีตามที่เขาแจงไว้ใช่ไหมคะ”

ก็จะมีตามนี้เลย ค่าใช้จ่ายของแมกซ์เวลล์ ค่าเทอม ค่าชีวิตความเป็นอยู่เลี้ยงดู มีค่าคนขับรถ ค่าคนเลี้ยง ค่าจิปาถะต่างๆ เฉลี่ยตกปีนึงเป็นล้าน ค่าเทอม 8 แสน อันนี้เขาดูแลตั้งแต่แรก?
“คือทั้งหมดที่เขาแจกแจงมาส่วนนึงคือใช่ ส่วนนึงไม่ใช่ ส่วนที่ไม่จริงคือรายละเอียดตัวเลขมันเยอะมาก อย่างเช่นค่าเทอมน้องไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ”

เท่าไหร่?
“ปีแรก 500,000 ปีที่ 2 600,000 ปีที่ 3 700,000 ค่ะ”

เท่าที่ทราบมาไมค์เองอย่างที่คุณบอกเขาอาจจะหย่อยยานลดคุณภาพชีวิตลูก อย่างเช่นเรื่องโรงเรียน ที่อยู่ เขาลดคุณภาพยังไง?
“ด้วยความที่บ้านซาร่าอยู่ภูเก็ต เราไม่ได้มีที่อยู่ที่กรุงเทพ ด้วยความที่เขาอยากให้เราและลูกอยู่กรุงเทพ เขาก็เลยออฟเฟอร์ที่อยู่เรามาให้ มาอยู่ที่นี่นะ เขาพร้อมที่จะดูแล แต่วันนึงเขาบอกว่าเขาไม่ไหวแล้วที่จะจ่ายตรงนี้ เขาจะล้มละลาย ช่วงโควิดด้วย เราก็คุยกัน งั้นเรามาคุยกันนะมีปัญหาเรื่องเงินอะไรก็มาคุยกัน อะไรที่ต้องช่วยเหลือกัน แต่ทุกอย่างที่เขาลดเรารู้สึกว่าเรากลับบ้านไปอยู่ที่ภูเก็ตดีกว่า อย่างเสนอมาว่าให้ไปอยู่ห้องเช่า เดือนละ 4,000 (เสียงเครือ) ห้อง 22 ตารางเมตร ซึ่งเราสงสารลูกเรามีบ้านที่ภูเก็ตที่มันกว้างให้ลูกได้วิ่งเล่น ทำไมเราต้องลดคุณภาพชีวิตลูกไปอยู่ในห้องแค่นั้น เราก็เลยคิดว่า โอเคคุยกันไม่รู้เรื่องปัญหาหลักๆ คือมันไม่ใช่เรื่องเงินเพราะว่าซาร่าไม่เคยเรียกร้องอะไรเลย อะไรที่เขายินดีจะให้ลูกซาร่ามองว่าทุกอย่างมันเป็นหน้าที่ ซาร่าไม่เคยออกมาพูดไม่เคยมานั่งแจกแจงรายละเอียดต่างๆว่าขนม 5 บาทนะค่าขนมในเซเว่น 10 บาท เราให้ด้วยความเต็มใจเราไม่ได้มานั่งจดยิบย่อย”

ที่พักที่อยู่ในตอนแรก?
“ตอนแรกเขาบอกว่าเป็นของเขา สักพักบอกว่าเป็นของพี่เขา สักพักนึงเค้าก็บอกว่าเป็นของคนอื่นซึ่งเราไม่ทราบอันนี้เราก็อ้างอิงจากที่เขาบอกเรา”

เป็นไปได้ไหมที่คอนโดที่คุณกับลูกอยู่ในตอนแรกคือเขาออฟเฟอร์ให้อยู่ไปก่อน เพราะมีแมกซ์เวลล์แล้วเขาอยากเจอลูกเอาคอนโดของคุณแซน พี่ชายของเขาให้คุณอยู่ ที่ทราบมาคือคุณแซนเขาจะขายคอนโดเขา คุณทราบใช่ไหมเรื่องนี้?
“ค่ะ เขาพูดค่ะ (เขาเลยอยากจะย้ายคุณกับลูกออกมาอีกที่นึง) ค่ะ หมายถึงว่าเขาให้ไปอยู่ในที่ที่เขาเสนอมาซึ่งเรามองว่ามันไม่โอเค แล้วเราก็ไม่ได้เรียกร้องอะไร เราเลยบอกเขาว่างั้นเราขอกลับไปใช้ชีวิตอยู่ที่ภูเก็ตนะ”

เรื่องของโรงเรียนลดคุณภาพชีวิตลูกยังไง?
“เขาเสนอให้เราเหลือปีละแสนค่ะ คือทุกอย่างที่ไมค์เสนอมาเราไม่โอเคกับคุณภาพชีวิตลูกที่มันต้องลดลง เราก็เลยคิดว่าถ้าเขาไม่สามารถที่จะช่วยเหลือตรงนี้ได้ไม่เป็นไร เราจัดการชีวิตคุณภาพลูกให้มันเหมือนเดิมเพราะเราก็มีกำลังที่อยากให้ลูกได้เรียนที่ดีๆ อยู่ในที่ดีๆ”

เข้าใจได้ไหมในมุมที่บอกว่าปีนี้ไมค์มีในเรื่องของโควิดเข้ามาแล้วฐานการแสดงของเขาอยู่ที่จีน แน่นอนว่าเขาเข้าจีนไม่ได้อาจจะมีการลดระดับความเป็นอยู่ ส่วนหนึ่งก็อาจจะเรื่องของลูกที่อาจจะต้องวันนี้เคยเรียนในระดับ 700,000 แต่ต้องไปอยู่ในอีกโรงเรียนนึงที่เกรดเท่ากันแต่ค่าเทอมถูกกว่าย้ายได้ไหม?
“ได้ค่ะไม่ได้มีปัญหาอะไรเลยเรื่องพวกนี้ค่ะ คือเราคุยกันแล้วค่ะ ซาร่ามองว่าไมค์มีสิทธิ์ที่จะให้ลูกแล้วถ้าวันนึงเขาไม่ไหวหรือเขาไม่อยากจะให้ต่อก็เป็นสิทธิ์ของเขา แต่เรายังอยากคงคุณภาพชีวิตของลูกซึ่งเราก็พร้อมเต็มที่ร้อยเปอร์เซ็นต์ของเราค่ะ”

คุณจะให้ลูกเรียนที่นี่ต่อ?
“เปล่าค่ะ ตอนนี้ลูกได้ย้ายไปที่ภูเก็ตแล้วค่ะ”

ค่าเรียนเท่ากันไหม?
“เท่ากันค่ะ (ใครเป็นคนจ่าย?) ซาร่าค่ะ”

ไม่ได้คุยกับไมค์มานานหรือยัง?
“ตั้งแต่หมายศาลถึงบ้านน่ะค่ะประมาณเดือนกรกฎาได้ค่ะ”

ถามทนายทำไมไมค์ถึงไม่สมควรไปขอสิทธิ์รับรองบุตร?
ทนายวนิดา : “ด้วยหลักกฎหมายประมวลแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1546 บัญญัติไว้ว่าบุตรที่ไม่ได้มีการสมรสกับฝ่ายชาย บุตรนั้นย่อมเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายของฝ่ายหญิงเพียงผู้เดียว แต่ในกรณีของไมค์ ทนายรู้สึกยินดีกับซาร่าด้วยที่บิดาออกมายืดอกรับผิดชอบว่าเป็นบุตรด้วยกฎหมาย เป็นการยอมรับว่า ด.ช. แม็กซ์เวลล์ เป็นลูกของคุณไมค์ แต่ที่ไม่ดีใจเพราะไม่ได้ปรึกษา แล้วมีเรื่องของการขออำนาจการปกครองร่วม ตรงนี้จะมีปัญหา การมีอำนาจการปกครองร่วมครึ่งนึงต้องเป็นการตัดสินใจของพ่อด้วย ถ้าพ่อไม่ยิมยอมให้ไปโรงเรียนอีกโรงเรียนนึง เขามีสิทธิ์คัดค้าน แล้วก็มีสิทธิ์ไม่เซ็น ตรงนี้แม่มีปัญหาแน่นอน ลูกมีปัญหาแน่นอน”

เขาแค่ขอร่วมตัดสินใจในเรื่องต่างๆของลูก ไม่ได้ต้องการเอาลูกมาอยู่กับเขา ถ้าจะเอาลูกไปต่างประเทศ ต้องผ่านเขาด้วย?
ทนายวนิดา : “ในกรณีที่ซาร่ามีบุตรคือน้อง แม็กซ์เวลล์ พ่อที่ชอบด้วยกฎหมายจริงๆแล้วจะพาลูกไปไหนซาร่าไม่เคยหวงเลย ให้ความยินยอม พาไปทุกครั้ง แต่ที่ไม่พอใจเป็นเพราะว่าอยู่ๆมีหมายศาลมาถึงบ้าน ทำไมไม่ปรึกษากัน”

เขาบอกติดต่อซาร่าไม่ได้?
ทนายวนิดา : “โทรศัพท์มี ไลน์มีติดต่อกันได้”

เขาบอกว่าโทรศัพท์ติดต่อคุณซาร่าไม่ได้ส่งไลน์ไปไม่เคยอ่านเลยอันนี้จริงไหม?
“หลังจากหมายศาลค่ะถ้าหลังจากหมายศาลจริงค่ะแต่ก่อนหน้านั้นไม่ใช่ อาจจะมีไม่ตอบบ้างตอบช้าบ้าง เพราะมันมีรายละเอียดหลายอย่างที่เราคุยกันเรารู้สึกเครียดค่ะ คือเขาถามอะไรเรื่องเดิมๆ ที่เราตอบไปแล้วแล้วยังถามอีกก็เลยทำให้เรารู้สึกว่าไม่ค่อยอยากจะคุยค่ะ”

เราสามารถคุยกันหลังบ้านได้ไหม?
“ต้นเรื่องคือเขาเป็นคนฟ้องร้องมาค่ะ”

เป็นได้ไหมว่า คุยกันว่าถ้าจะให้เขาเซ็นรับรองเลย?
“ซาร่าให้สิทธิ์ของการเป็นพ่อมาตลอด 6 ปี เขามีสิทธิ์ในการเป็นพ่อค่ะ แต่สิทธิ์การปกครองให้ไม่ได้จริงๆ เพราะมันมีเหตุผลหลายๆอย่าง เราไม่ได้เป็นสามีภรรยาอยู่บ้านเดียวกันเขาอยู่จีนเป็นหลัก เวลาเราจะทำเอกสารต่างๆ ต้องมารอพ่อเซ็นยินยอม เขาเองก็ไม่ได้ว่างตลอดเวลา ชีวิตลูกจะมีปัญหา ระบบชีวิตลูกจะรวน ที่ผ่านมาเราตัดสินใจร่วมมาตลอด ไมได้ตัดสินใจคนเดียว เราโอเพ่นเรื่องนี้กับไมค์มาก ความเป็นพ่อเป็นอยู่ที่การกระทำไม่ใช่แค่กระดาษ เขามีสิทธิ์เต็มที่ร้อยเปอร์เซ็นต์มาตลอด 6 ปี เขาจะทำอะไรให้ลูกรักเขาก็ได้ ลูกจะรักเขาไม่ใช่ที่กระดาษ มันคือการกระทำ”

ไมค์ต้องการไปร้องในสิทธิ์ที่ต้องการดูแลลูก ไม่ได้เอาลูกมาจากซาร่า?
“ตามหมายศาลถูกต้องค่ะ”

ทนายคัดค้านยังไง?
ทนายวนิดา : “เรื่องของหลักกฎหมาย ที่ฝ่ายไมค์ยื่นมาดูเหมือนธรรมดา เขาขอยื่นคำร้องให้บุตรชาย เป็นบุตรชอบโดยกฎหมาย ตอนสุดท้ายเขียนว่า ขอมีอำนาจการปกครองร่วม นี่คือสำคัญค่ะ เพราะถ้าการทำนิติกรรมต่างๆ ถ้าซาร่าจะพาลูกไปที่ต่างประเทศจะมีปัญหาแน่นอน เผื่อในกรณีที่การปกครองร่วม สมมติว่าซาร่าจะพาลูกไปหาคุณตาที่ต่างประเทศ ไปไมได้ ถ้าไมค์ไม่ยอม แล้วจะทำยังไง (ต้องฟ้อง?) ฟ้องกันไม่ได้หรือกค่ะ เพราะถ้าลงนามให้เป็นผู้มีอำนาจปกครองร่วม จะขออะไรก็ต้องขอผ่านทางไมค์ด้วย นี่คือปัญหาหลักของเรา แล้วกรณีที่ไปเรียนที่ภูเก็ต ถ้าคุณไมค์มีอำนาจปกครองร่วมแล้ว ถ้าไม่อยากให้เรียน ก็มีสิทธิ์ที่จะไม่ให้เรียนได้ ทางทนายคัดค้านในหลักกฎหมายเช่นกัน ถามว่าไม่สมควรไหม ถ้าโดยหลักของกฎหมายเราก็ต้องค้านว่าไม่สมควร”

ไมค์เป็นคนยังไง?
“เป็นพ่อที่ดีค่ะ”
ทนายวนิดา : “อันนี้ขอให้อยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาของศาล ทางเราอยากให้คุณไมค์รับผิดชอบในการเรียน ปัจจุบันนี้ซาร่าชำระโรงเรียนที่โรงเรียนนานาชาติที่ภูเก็ตไปแล้ว และมีค่าใช้จ่ายเรื่องการเดินทาง ค่าใช้จ่ายของพี่เลี้ยง”

คือไมค์ต้องจ่าย แต่ไม่สามารถเซ็นรับรองร่วมได้เหรอ?
“ไม่ค่ะ เขาสามารถทำหน้าที่พ่อได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ให้โอกาสเขามาตลอด แต่หนูมองว่าเขาจะจ่ายหรือไม่จ่ายเป็นสิทธิ์ของเขา”

แต่เขาเลือกที่จะจ่าย โดยที่เราไม่ได้ร้องขอใช่ไหม?
“ใช่ค่ะ ใน ณ วันนี้ เขาไม่ไหวที่จะจ่ายแล้ว มันก็เป็นสิทธิ์ของเขา แต่ยังไงหนูก็ต้องดูแลลูกของหนูให้คงความเดิม ให้หนูต้องมานั่งเปลี่ยนชีวิตลูก 3 ปีนี้พ่อเขาไหว 2 ปีพ่อเขาไมไหว มันไม่ใช่เรื่องสนุก ไม่อยากให้ลูกสับสน ย้ายโรงเรียนไปๆมาๆ ไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ในชีวิตลูก มันคือผลประโยชน์ที่สุดของลูก”

ทำไมต้องตรวจ DNA?
“ผู้ใหญ่ฝั่งไมค์ของมา (เพราะอะไร มีเบื้องลึกเลื้องหลังเหรอ?) อันนี้ให้สังคมตัดสินเองค่ะ”

มีภาพหลุดออกมา คล้ายคุณตั้งครรภ์?
“จริงๆซาร่าไม่ได้มีเรื่องปิดบัง แต่ ณ วันนี้ซาร่ามาเพื่อชี้แจงเรื่องของแม็กซ์เวลล์ เรื่องอื่นจะมีผลต่อรูปคดี เอาเป็นว่าถ้าอะไรชัดเจนแล้วจะออกมาพูดความจริงทั้งหมด (เป็นรูปเราใช่ไหม?) รอให้ทุกอย่างชัดเจนกว่านี้แล้วกันค่ะ ซาร่าจะได้ออกมาตอบทีเดียวให้มันเคลียร์ค่ะ”

เรื่องนี้จะจบลงตรงไหน?
“อยากให้จบลงเป็นผลดีที่สุดของลูก เพราะเรื่องนี้เป็นของลูกเป็นหลัก ไม่ใช่เรื่องของพ่อแม่ คือเรื่องนี้ซาร่ากับไมค์มีปัญหามาเป็นปี ไม่อยากให้ลูกรู้เลยเลือกที่จะเงียบ แต่วันนี้ทางฝั่งพ่อเขาเลือกที่จะให้เป็นข่าว ซาร่ามองว่าคนที่กระทบที่สุดคือลูก เราไม่อยากออกมานั่งตรงนี้เพื่อตีแผ่เรื่องในครอบครัว ค่อนข้างละเอียดอ่อน อีกไม่กี่ปีน้องต้องโตมาแล้วเจอว่าพ่อแม่มีปัญหากัน (เสียงสั่นเครือ) คนที่จะต้องเจ็บปวดที่สุดก็คือลูก อยากให้เป็นเรื่องในครอบครัว แต่ ณ วันนี้ ทุกคนน่าจะรู้ว่ามันเป็นข่าว บางอย่างซาร่าต้องออกมาพูด และปกป้องสิทธิต่างๆของลูก”

จากกรณีรูปเมื่อสักครู่ที่ซาร่าบอกมีผลต่อคดี เกี่ยวไหมกับเรื่องนี้?
ทนายวนิดา : “ไม่เกี่ยวค่ะ คดีนี้บุตรเป็นบุตรชอบโดยกฎหมายของแม่เพียงฝ่ายเดียว คุณไมค์ไม่เคยอ้าแข นยือดอกยอมรับรับว่าซาร่าเป็นภรรยาแต่ต้น ดังนั้นไม่ว่าคุณซาร่าจะเป็นอย่างไร บุตรชายย่อมเป็นบุตรชายของคุณซาร่า”

สมมติมีลูกกับสามีใหม่ ไมค์ก็มีสิทธิ์ที่อยากจะครอบครองดูแลลูกคนนี้ของเรารึเปล่า จะได้ไม่มีปัญหาเรื่องของพ่อทางนี้กับพ่อทางนี้?
ทนายวนิดา : “คุณซาร่าดูแลลูกเป็นอย่างดี ไม่เคยบกพร่องในเรื่องการเป็นมารดาของบุตรเลย แม้กระทั้งไปไหน ทุกระยะ ทุกวัน ลูกอยู่กับอ้อมอกของแม่ตลอดเวลา ลุกไม่เคยทิ้งแม่ แม่ไม่เคยทิ้งลูก”

ประเด็นตรงนั้นไม่เกี่ยวข้องละกัน เป็นเรื่องของส่วนบุคคล แยกกันไป?
ทนายวนิดา : “ใช่ค่ะ”

มีข่าวว่าถูกตัดน้ำตัดไฟจนต้องออกจากคอนโดจริงรึเปล่า เผื่อบีบให้คุณออกจากคอนโด เรื่องจริงไหม?
“ใครเป็นคนปล่อยค่ะ จริงค่ะ ตามที่ว่าเลยค่ะ เจ้าของห้องค่ะ (เขาตัดเพื่อ?) เพื่อให้เราออกจากคอนโด (เพื่อให้ไปอยู่ที่อื่น?) ใช่ค่ะ”

เป็นไปได้ไหมว่า เขาต้องการจะขายที่นั้น เป็นของคุณแซนต์ ไม่ใช่ของไมค์?
“เราไม่ได้ยืนยันว่า พอเขาบอกว่า อยู่ไม่ได้นะ เราต้องออกนะ เราก็โอเค เข้าใจ เราก็ออก ไม่ได้ไปยึดยื้อ เราก็กลับบ้านของเราไงค่ะ

จริงรึเปล่าที่ออกจากคอนโดนั้นนานแล้ว แต่ให้คนอื่นไปอยู่แทน?
“ไม่จริงค่ะ เป็นคนขนค่ะ เพราะว่าเราต้องเอาของออกจากคอนโด เป็นคนครอบครัว คนในบ้าน ไม่ได้ไปอยู่ เขาไปขนของค่ะ วันนั้นก็แจ้งแล้วว่าไปขนของ ก็บอกว่าเข้าไปในห้องมั้ย จะไปดูอะไรมั้ย เพราะเขาขนของกันอยู่ แต่เขาไม่เข้าไปเอง”

เรื่องนี้ลำบากใจในการพูด ขอโทษคุณเองมีชายหนุ่มไหม?
“เป็นปกติอยู่แล้วค่ะ ซิงเกิ้ลมัมก็ต้องฮอต (ยิ้ม)”

ให้โอกาสไหม?
“ซาร่ามองว่าทุกอย่างเป็นเรื่อยๆค่ะ ซาร่าอยากมีครอบครัวใหม่ อยากให้ครอบครัวให้สมบูรณ์ ด้วยความที่เราเป็นซิงเกิ้ลมัม เป็นเรื่องปกติที่เราอยากมีครอบครัวใหม่ที่สมบูรณ์ ทุกอย่างต้องอิงจากความรู้สึกลูกด้วย (ตอนนี้ลูกเป็นยังไง?) ตอนนี้ลูกแฮปปี้ดีค่ะ เราไม่เอาเรื่องต่างๆให้ลูกรับรู้ เขาอยู่ในวัยที่ยังไม่ควรจะรับรู้อะไรขนาดนั้น”

ตอนนี้ให้ลูกเรียนที่ภูเก็ต โดยที่เราหาเลี้ยงเอง ในระดับค่าเทอมที่อยู่ที่กทม.?
“มันไม่ได้อยู่ที่ตัวเลขค่ะ เราหาโรงเรียนตอบโจทย์กับความชอบของลูก โรงเรียนที่ไมค์หามา เราก็คุยกันกันเรื่องโรงเรียน ซึ่งเราคุยกันช่วงโควิด พอโควิดหาย ก็พาลูกไปดูโรงเรียนทุกที่เลย ให้เขาไปเห็นสภาพแวดล้อม ระบบการศึกษา เราต้องการปฏิกริยาน้องว่าลูกไปดูด้วยว่าเขาโอเคมากน้อยแค่ไหน เขาต้องปรับตัวในการย้ายโรงเรียน”

ตอนนี้ซาร่าทำงานอะไรบ้าง?
“งานในวงการและธุรกิจส่วนตัว”

วันนี้ไมค์จะแถลงข่าว กลัวไหมว่าเรื่องอะไรจะหลุดมาอีกมุมนึง?
“ไม่กลัวค่ะ ไม่ได้ชนนะคะ แต่เราอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง ถามว่าไมได้คุยกันเลยไหม คือหมายศาลมาถึงบ้าน แล้วมีประโยคที่ว่า เราไม่ต้องคุยกันอีกแล้ว หนูจำคำนั้น แล้วก็ไม่คุยกันอีกเลย”

ถ้ามารายการพร้อมกันกล้าไหม?
“ถ้าเขากล้ามา หนูก็กล้ามาค่ะ”

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image