แอน มรกต ลั่นให้โอกาสสุดท้ายแม่นางงามก่อนดำเนินคดี เผยอาการป่วยต่อมหมวกไต

แอน มรกต ลั่นให้โอกาสสุดท้ายแม่นางงามก่อนดำเนินคดี เผยอาการป่วยต่อมหมวกไต

หายหน้าหายตาไปจากหน้าจอนานเลยทีเดียว สำหรับ อดีตเซ็กซี่สตาร์ แอน มรกต มณีฉาย ที่ล่าสุดได้มาเปิดหลังร่วมรายการ คุยแซ่บShow ที่ตอนนี้เจอปัญหากับแม่ของอดีตนางงามคนนึงที่ติดต่อให้ร่วมธุรกิจ แต่ก็ไม่ได้รับทั้งเงินทุนและส่วนปันผลคืน โดยเจ้าตัวได้เล่าถึงจุดเริ่มต้นในการร่วมลงทุนธุรกิจด้วยกันง่า

จริงๆ แล้วเรารู้จักกันมาก่อน เคยไปเจอกันตามงาน แล้วก็ไปออกกำลังกายก็เจอกันรู้จักกัน รู้จักกันประมาณ 2-3 ปีได้ค่ะ

ที่ไว้ใจเพราะว่าหนึ่งเป็นคนวงการเดียวกัน สองลูกสาวเขาก็มีเชื่อเสียงอยู่แล้ว มีงานในวงการอยู่ เราก็คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา

โดยก่อนหน้านั้นคู่กรณีได้ทักมาเล่าให้ฟังว่าทำเกี่ยวกับโมเดลลิ่งและถามว่าสนใจไหม ถ้าสนใจก็มาคุยกัน หลังจากนั้นก็นัดคุยกัน

Advertisement

เขาบอกว่าเงินเขาจมตรงนั้น เขาบอกว่าถ้ามีทุนตรงนี้เขาจะได้รับอีกหลายจ๊อบเลย 3-4 จ๊อบก็ฟื้นแล้ว เราฟังตรงนั้นหนึ่งเราก็อยากให้โอกาสเขา สองเราก็อยากร่วมงานอยากทำงานใหม่ๆ เราก็สนใจธุรกิจตรงนี้

คืองานในวงการบันเทิงเราก็เคยทำมา ดิวงานอีเวนต์เราก็เคยทำ เราพอจะเข้าใจในเรื่องของธุรกิจตรงนี้อยู่ เราก็เลยคิดว่าทำไม่ยาก สำหรับคนที่รู้จักกันอยู่แล้วก็ร่วมงานกันไม่ยากก็เลยตัดสินใจมานั่งคุยกันแล้วก็ลองทำดู เราก็เลยลองจ็อบแรกๆ สัก 3-4 จ๊อบก่อน ก็เลยดิวกันเป็นจ็อบๆ ไป

ซึ่งในงานแรกๆ ก็จะต้องลงเงินหลักหมื่นและได้เงินคืนกลับมาบ้าง จนทำให้มั่นใจ และหลังจากนั้นก็เริ่มเพิ่มจำนวนเงินขึ้นเรื่อยๆ

Advertisement

ทีนี้พอหลายๆ จ็อบมันก็ทบกัน แล้วส่วนใหญ่จ็อบที่รับจะให้เครดิตลูกค้า 30-40 วัน พอถึงเวลาครบดิวเราก็จะทวงถามเขาว่าเงินเข้าบัญชีหรือยัง เช็คผ่านไหม ถ้าผ่านเรียบร้อยแล้วพี่อย่าลืมโอนมาให้แอนนะ เราจะคุยกันอย่างนี้ตลอด แล้วก็ได้รับการผลัดผ่อนตลอดทุกวันเลย เดี๋ยวจัดการให้ เดี๋ยวพี่เคลียร์ให้ แล้วก็ไม่เคลียร์ เป็นระยะเวลาเดือนกว่าแล้ว

ทั้งนี้ก็ทำมห้ตนเริ่มเอะใจว่าถึงกำหนดที่ต้องจ่ายเงินแล้ว แต่ก็ยังไม่มีการโอนเงินคืนมา ก็เล่ยตัดสินใจเช็คข้อมูลว่ามีใครลงทุนในจ็อบตรงนี้ด้วย

ก็มาเจอคนที่ร่วมลงทุนด้วยหลายคนทีเดียว พอได้คุยกันก็ปรากฏว่าเรามาเช็คดูว่าจ็อบที่เขาเคยขายงานให้เรามันเป็นจ็อบที่เคยทำผ่านไปแล้ว แล้วในปัจจุบันไม่ได้ทำแล้ว เราเลยเพิ่งรู้ว่าจ็อบที่เอามาขายเรามันไม่มีอยู่จริง เราเลยแปลกใจว่าการที่เขาชวนเราไปลงทุนในธุรกิจนี้ แล้วไม่ได้เอาเงินไปทำธุรกิจตรงนี้จริงๆ แล้วคุณเอาไปทำอะไร

มูลค่าที่ค้างตอนนี้กับแอน มรกต นั้นก็แสนกว่าบาทค่ะ

แต่ถ้ารวมๆ ก็หลายล้านค่ะ คือตัวเลขที่แน่นอนแอนไม่ทราบนะคะ เพราะคุยเฉพาะบางคน แล้วก็อาจจะมีหลายๆ ไม่ได้เข้ามาร่วมกลุ่ม ผู้เสียหายก็หลักสิบคนค่ะ

ยอมรับตกใจที่มีผู้เสียหายเยอะ และสงสัยว่าเอาเงินจำนวนเยอะขนาดนี้ไปทำอะไร

เราก็พยายามคุยกับเขาตลอดว่าพี่เคลียร์ให้แอนก่อนได้ไหมเพราะเงินแอนก็ไม่ได้เยอะเท่าไหร่ ในเรื่องของกำไรเราไม่เอา เราขอแค่เงินทุนเราคืนอย่างเดียวก็พอ ถ้าพี่ไม่มีเงินก้อนทยอยคืนให้เป็นรายเดือนก็ได้ ผ่อนเอาก็ได้ คือเราก็พูดกับเขาทุกอย่างแล้ว เขาก็ไม่เป็นไรโอเค เดี๋ยวพี่จัดการให้พี่ขอเวลา ทีนี้เราก็กำหนดเวลาให้กัน พอถึงเวลาก็ไม่เคลียร์ จนล่าสุดบอกว่าขอหลังวันที่ 23 เดี๋ยวพี่เคลียร์ให้ จนตอนนี้เขาก็ยังไม่ได้ให้ เขาก็ขอเวลาตลอดก็ไม่รู้ว่าอีกเมื่อไหร่เขาจะให้เรา

ในส่วนของแนวทางการดำเนินการต่อไปนั้น เธอก็ว่าให้โอกาสครั้งสุดท้าย ก่อนจะตัดสินใจดำเนินการตามกฏหมายต่อไป

ที่ผ่านมาเราให้โอกาสเขา และยืดเวลามาเป็นเดือนแล้ว ก็ยังไม่เห็นเขาจัดการอะไร จนวันนี้เราออกมาพูด เราก็ยังให้โอกาสเขาอยู่นะคะ ภายในอาทิตย์นึงเราก็อยากให้มาเคลียร์กันเอง แต่ถ้าไม่เคลียร์จริงๆ ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายนะคะ เพราะมันก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ กฎหมายมันมี

เราก็อยากให้เขากลับมารับผิดชอบตรงนี้ คือไม่ได้มีใครอยากขึ้นศาล ไม่มีใครอยากขึ้นสน. ไม่มีใครอยากจับใครติดคุก สิ่งที่ต้องการที่สุดคือเราต้องการเงินคืนและคนอื่นที่เขาเดือดร้อนก็ต้องการเงินคืนเหมือนกัน

หลักฐานต่างๆ เรามีพร้อมใช่มั้ย

ของแอนมีสัญญาครบค่ะ แต่ส่วนคนอื่นๆ แอนไม่แน่ใจ แต่หลักฐานโดยรวมมันก็ชัดเจนค่ะ

วันนี้เรามีโอกาสพูด เราก็อยากจะพูดให้สังคมได้รับรู้ อยากจะให้เขากลับมามอง กลับมาฟังในสิ่งที่เราพูดด้วยนะคะว่าอยากให้เขาเห็นใจคนที่เดือดร้อน ที่แอนออกมาวันนี้อยากจะบอกว่าเงินนั่นไม่ใช่เงินของคุณ แต่เป็นเงินของเรา คุณเอามาคุณต้องคืนเขา คุณต้องมีความรับผิดชอบ อยากให้รู้ว่าคนอื่นเดือดร้อนจริงๆ

ก่อนจะเผยถึงอาการป่วยให้ฟังต่อว่าเราก็มีปัญหาในเรื่องต่อมหมวกไต และเรื่องของระดับฮอร์โมน ก็คือต้องทานยาควบคู่กัน เพื่อปรับระดับฮอร์โมนและกระตุ้นการทำงานของต่อมหมวกไตให้กลับมาเป็นปกติมากขึ้น และเรามีปัญหาเรื่องผมร่วงด้วย เรื่องระบบประจำเดือนอะไรต่างๆ มันก็เลยส่งผลในเรื่องสุขภาพ เราต้องไปเช็คทุกเดือน คุณหมอก็ให้รับประทานพวกวิตามินเสริม ต้องทานทุกวัน

ค่ารักษาสูงค่ะ เฉพาะปีนี้ก็ 4-5 แสนแล้ว ฉะนั้นเราจำเป็นต้องใช้เงิน ไม่ว่าจะเป็นค่ารักษาหรือค่าใช้จ่ายต่างๆ รายเดือนของเราก็มี เรายังมีภาระผ่อนนั่นนี่อีก

เครียดมั้ย เพราะเราก็มีปัญหาสุขภาพด้วย เงินก็ไม่ได้คืน

ก็เครียดส่วนนึง คือทุกคนคาดหวังอยู่แล้วว่าอยากจะได้เงินคืน เราลงทุนธุรกิจเราก็คาดหวังที่จะได้กำไร คาดหวังที่จะได้ต่อยอดในการทำงานต่อไปในอนาคตเรื่อยๆ แต่พอมาถึงวันนี้ทุกอย่างมันไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด เงินเราก็อยากได้คืน สุขภาพเราก็ไม่ดี ความเครียดมันก็มี แต่เราก็พยายามปล่อยวางให้มากที่สุดค่ะ

อาการป่วยของเรามีโอกาสหายมั้ยก็รักษาเรื่อยๆ นะคะ

ก็รักษามา 1 ปีแล้ว บางเดือนเราก็ลองลดการทานยาลงไป เช็คเลือด เช็คระบบต่างๆ แต่พอช่วงที่ลดยาลงไประดับฮอร์โมนมันก็กลับมาต่ำเหมือนเดิม หมวกไตมันก็กลับมานิ่ง คือไม่ทำงานเหมือนเดิม เราก็เริ่มต้นกลับมาทำงานใหม่ ก็คงยังต้องทานยาไปเรื่อยๆ และตรวจเช็คไปเรื่อยๆ จนกว่าร่างกายจะกลับมาทำงานได้ปกติ


QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image