‘หนุ่ม ศรราม’ วางแผนชีวิต ‘น้องวีจิ‘ อยู่อย่างเรียบง่าย เผยเฝ้ารอคำว่ารักจากปากลูก
ทุ่มเต็มที่กับการเลี้ยงลูกสาวหัวแก้วหัวแหวน อย่าง น้องวีจิ วัย 1 ขวบครึ่ง ที่งานนี้คุณพ่อพระเอกดัง หนุ่ม ศรราม เทพพิทักษ์ ได้เปิดใจในรายการ ต้มยำอมรินทร์ ถึงบทบาทการทำหน้าที่พ่อที่เฝ้ารอคำว่า รัก คำนี้จากปากลูกสาวน้อง วีจิคนที่ทำให้รู้ถึงเป้าหมายในชีวิตนี้จะทำอะไรเพื่อใคร
“ตอนนี้เราก็ตั้งใจทำงานเลี้ยงดูลูกให้ดีที่สุด“
“อย่างในช่วงเช้าพาลูกใส่บาตรพอใส่เสร็จก็จะเล่นกับเขาแล้วก็ทานข้าวกับลูกก่อนไปทำงาน หรือ“
“ถ้าวันไหนเราถ่ายน้อยแค่ 2 – 3 ฉากเราก็จะพาลูกไปกองด้วย พาไปโลเคชั่นที่สบายๆ พอเราถ่ายเสร็จเราก็พาเขากับคุณแม่ไปทานข้าวนอกบ้าน ให้เขาได้เจอสิ่งแวดล้อมอื่นๆบ้าง“
ถ้าถามถึงการเลี้ยงลูกคนเดียว ศรรามก็ว่า “ไม่เหนื่อยเลยครับ เพราะเราก็มีพี่เลี้ยงอยู่แล้วครับ ทั้งคุณแม่ และ วีจิ“
“ผมรู้สึกว่ามนุษย์เราต้องมีพลังบวกก่อน ถ้าตัวเราเองไม่มีพลังบวกคนรอบข้าง คนใกล้ชิดเราก็จะไม่มีพลังบวก“
ซึ่งนั่นก็หมายถึงต้องหาเวลาว่างให้ตัวเองด้วย
“ผมเป็นปกติ ปุถุชน คนธรรมดาคนหนึ่งถ้าวันนี้ผมเลิกงานเร็ว ผมอยากจะแวะกินลาบเป็ดข้างทางทำให้ผมมีความสุขผมก็แวะ เราก็ต้องมีเวลาให้กับตัวเองด้วย“
ทั้งนี้กับปัญหาคอมเมนต์ในอินสตาแกรมที่มีทั้งบวกและลบ พระเอกหนุ่มก็ว่า เข้าใจสำหรับคนที่หวังดีและเข้ามาแนะนำวิธีการเลี้ยงลูก
“แต่ความเป็นจริงแล้วแต่ละบ้านมีวิธีการเลี้ยงลูกไม่เหมือนกัน“
“ส่วนคอมเมนต์อะไรที่มันไม่ดีบางทีก็ละไว้ในฐานที่เข้าใจ หรือ ว่าบ้างครั้งมันกวนใจมากมีอวตารมาตอบโต้ต้องมาทะเลาะกันแบบนี้ผมก็ลบแล้วก็บล็อกครับ“
กับเรื่องนี้นั้นไม่มีผลกระทบต่อจิตใจแต่อย่างใด เพียงแต่เลือกจะลบและบล็อกเพราะไม่อยากให้ใครมาทะเลาะกันในรูปน่ารักๆ ของลูก
“เราไม่ต้องการให้ใครมาทะเลาะกันในรูปนั้นของเขา ทุกวันนี้เรายังนั่งกดหัวใจให้คนที่เขาชมลูกเราเลยทั้งๆที่เราไม่เคยทำ เพราะเราแบบโลวเทคโนยีมาก (หัวเราะ) เรายังมาจิ้มหัวใจขอบคุณพี่ๆที่เขาเอ็นดูวีจิ“
เปิดใจตรงๆ กับคำที่เฝ้ารอจากลูกสาว
“ผมพูดตรงๆนะ ผมรอคำว่า รัก จากผู้หญิงที่ชื่อ วีจิ เพียงแค่คำเดียวจากผู้หญิงคนนี้จะได้มีแรงเยอะๆ“
รับพอมีลูกเป้าหมายในชีวิตเปลี่ยนไปจากเดิมและมีความชัดเจนมากขึ้น
“พี่มอส พูดกับผมว่าตอน หนุ่ม ยังไม่ได้แต่งงานเหมือนขับรถออกไปทุกวันแต่ไม่รู้ว่าไปไหน แต่พอมี วีจิ หนุ่มมันรู้เลยว่ามันขับรถแล้วมันไปไหน คือ ชัดเจนมาขึ้นว่าเรารู้ว่าเราจะทำอะไรเพื่อใคร เพื่ออนาคตใคร“
“ผมวางแผนให้เขาใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย เพิ่งพอใจในสิ่งที่ตัวเองมีตามกำลัง มีน้อยก็ใช้น้อย มีมากก็ใช้ให้พอดี ไม่มีก็อดเอาอย่าไปยุ่งของคนอื่นเขา“