‘รักฉันที่ไม่เอาไหนที’ หนังรักมุ้งมิ้ง ดูแล้วฝันหวาน

จากการ์ตูนยอดนิยมที่พากย์เป็นอังกฤษได้สั้นๆ ว่า ‘พลีส เลิฟ มี’ (Please Love Me) หรือที่พากย์ไทยจากญี่ปุ่นยืดยาว ‘Dame na Watashi ni Koishite Kudasai’ ได้ว่า ‘ช่วยรักฉันที่ไม่เอาไหนหน่อยเถอะ’ ของอะยะ นะกะหะระ ในปี 2556 กลายเป็นหนังชุด 10 ตอนจบ ที่เพิ่งออกอากาศเรียบร้อยไปแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมานี้เอง

เป็นหนังรักสนุกสนานเฮฮา ดูแล้วซาบซึ้งหลับสบายเรื่องหนึ่ง

เคียวโกะ ฟุกะดะ ดาราสาววัย 34 ปีที่เล่นหนังเล่นละครเล่นหนังทีวีมาแล้วนับร้อย (แปลว่ามากเต็มที) สวมบทมนุษย์ป้าแสนมัศจรรย์ที่ยังไม่เคยมีเซ็กซ์ วัยต้นสามสิบ ที่คอยเสียเงินเลี้ยงต้อยเด็ก คอยตามกิจกรรมเหล่าพาวเวอร์ เรนเจอร์ ทำงานที่ไหนไม่ยืด หนี้สินล้นพ้นจนโทรหาแม่แก้ปัญหาเฉพาะหน้า แม่ยังรีบวางสาย

ตกงานสุดท้ายเพราะบริษัทล้มละลาย ถึงกับจะคว้าอาหารกระป๋องสำหรับแมวที่ตกอยู่ข้างทางกลับห้องกิน

Advertisement

ก็พอดีเจอนายเก่า หัวหน้าที่แสนโหด จนอาฆาตอยู่ในใจ พบเข้า เลยตกกระไดพลอยโจนตามไปร้านอาหารเก่า ที่นายเก่าตั้งใจจะเปิดใหม่ เพราะไม่อยากทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือน

ช่วย1

และยิ่งจับพลัดจับผลูไปอาศัยกินอยู่ประหยัดที่อยู่ที่กิน ทำงานหักหนี้ ในร้านหิมาวาริ ดอกทานตะวัน ขณะเดียวกันก็เที่ยวหางานสารพัดที่ไม่เคยมีบริษัทไหนรับ พร้อมกับสร้างหนี้ก้อนโตขึ้นอีกจากการถูกเด็กเลี้ยงต้อยหลอกเอาเงินไปอีกเป็นล้านเยน กระทั่งหัวหน้า (ทั้งอดีตและปัจจุบัน) ต้องยื่นมือเข้าช่วยไปบ่นไปชนิดอดรนทนไม่ไหว

ดีน ฟุจิวะระ นายแบบและนักแสดงหนุ่ม เป็นเจ้าของร้านเล็กๆ ที่มีโอกาสได้ทำเนื่องจากพี่ชายผู้ล่วงลับยอมทำกิจการครอบครัวแทน ผู้มีจิตใจดีอยู่เบื้องหลังถ้อยคำเสียดสีถากถาง คอยช่วยเหลือหญิงทำอะไรไม่เป็นทุกอย่าง

ช่วย3

โชเฮ มิอุระ เพื่อนพนักงานบริษัทใหม่ ที่รักจริงหวังแต่ง แต่พฤติกรรมคล้ายพวกหลอกแต่งงานในอดีตเกินไป จนไม่น่าวางใจ ก้าวเข้ามา ขณะอดีตหัวหน้าเองก็ถูกคนรักเก่า มะโฮะ โนะนะมิ บอกเลิก เพราะทิ้งงานบริษัทมาขายกาแฟ คนไม่เอาไหนจึงได้คนรักอดีตหัวหน้าเป็นที่ปรึกษาไปโดยไม่รู้ตัว เวลาเดียวกับได้รู้จักมิมุระ ภรรยาพี่ชายผู้ล่วงลับ ที่เห็นแล้วแอบคิดว่าหัวหน้าชอบ

สามหญิงจึงเกี่ยวข้องผูกพันกันโดยมีชายหนึ่งเป็นศูนย์กลางอย่างไม่รู้ตัว โดยมีหญิงไม่เอาไหนคอยเคลื่อนเหตุการณ์ไป

ระหว่างชีวิตดำเนินไปนั้นเอง เธอจึงพบว่า สิ่งที่ค่อยๆ ได้จากหัวหน้าทำให้เธอรู้จักตัวเอง ใช้ความเป็นตัวเองได้เต็มศักยภาพ แม้จะดูเหมือนถูกผู้อื่นเอาเปรียบอยู่บ้างก็ตาม ทำได้กระทั่งสร้างสรรค์อุปกรณ์ใหม่ๆ จากชีวิตประจำวัน

ความรักที่เธอพยายามไขว่คว้านักไขว่คว้าหนาในสถานการณ์หนึ่ง ก่อนจะย้ายไปอยู่กับคู่หมั้นที่แม้รับรักแต่งงานไปแล้ว เธอจึงตระหนักว่า ที่จริงหัวใจเธออยู่กับใคร

หญิงสาวจึงตัดสินใจย้ายออกจากร้านกาแฟเมื่อใกล้วันเกิดปีที่ 31 บอกให้หัวหน้าเธอสารภาพรักกับคนที่ชอบเสียที อย่ามัวขลาดอยู่ แต่เรื่องสองตอนสุดท้ายไม่ง่ายอย่างนั้น

เพราะหนังชุดญี่ปุ่นมักไม่เกินสิบตอน แต่ละตอนจึงมีเนื้อหากระชับ ตัวละครชัดเจน ยังมีอดีตแยงกี้ อีกสามคนที่ช่วยงานในร้าน เพิ่มรสชาติ โดยเฉพาะตอนหาเพื่อนไปหลอกทางบ้านว่าเป็นคู่หมั้น น่ารักน่าประทับใจที่สุด

อย่างไรก็ตาม หนังเรื่องนี้แสดงให้เห็นสถานะหญิงญี่ปุ่นชัดเจนเรื่องหนึ่ง เสียงพระเอกเรียกนางเอกว่า “โอ้ย” ทุกครั้ง คือไม่ได้เรียกชื่อ แต่เหมือนกับเรียก นี่ – นี่เธอ ทำนองนั้น เสียงโอ้ยดังอยู่แทบทุกบ้านในญี่ปุ่น

หรือกระทั่งคำเหยียดหยันความไม่เอาไหนของนางเอก ว่ายายซื่อบื้อบ้าง ยายเศษขยะบ้าง ไม่ว่าคำไทยจะแปลออกมาอย่างไร ก็เข้าใจว่าน้ำเสียงเดิมคงมิได้ล้อเลียนแบบนุ่มนวลนัก

ถึงอย่างนั้น หนังก็น่ารักอยู่ดีตั้งแต่ตอนแรกจนตอนสุดท้าย โดยเฉพาะนางเอกเล่นได้แอ๊บแบ๊วตาใสเป็นทารก พูดเสียงแก้มป่อง อมฟันในปากอื๊อๆ อ๊าๆ แย่งข้าวกินกับพระเอกน่ารักเหลือเกิน

ช่วย4

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image