เปิดทาง ‘ไมค์–แม็กซ์เวลล์‘ เจอหน้าวันพ่อ ‘ซาร่า‘ ปัดตอบความสัมพันธ์ ‘วาดิม‘
หลังจากที่ ไมค์ พิรัชต์ ได้ตอบคำถามแฟนคลับในไอจีสตอรี่ว่า หลังจากให้นาฬิกาเพื่อใช้โทรติดต่อกับลูกชาย น้องแม็กซ์เวลล์ แต่กลับติดต่อไม่ได้เกือบครึ่งเดือน จนกลายเป็นประเด็นดราม่าอีกครั้ง แถมยังมีคนอ้างว่าเป็นญาติของซาร่า คาซิงกินี ได้เข้าไปคอมเมนต์ในเพจดังถึงสาเหตุที่ไมค์ติดต่อน้องแม็กซ์เวลล์ไม่ได้ เป็นเพราะนาฬิกาถูกลืมไว้ที่กรุงเทพฯ จนกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต ล่าสุด ซาร่า พร้อมด้วย กะปุ่น ผู้จัดการส่วนตัว ได้ออกมาเปิดใจถึงเรื่องดังกล่าวในงานประกวด มิโมซ่า ควีนไทยแลนด์ 2020 ที่โรงละคร คิงเพาเวอร์
เรื่องแม็กซ์เวลล์ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง
ซาร่า “จริงๆ คุยกันค่ะ“
เขาบอกว่าติดต่อลูกไม่ได้
ซาร่า “อ่อ น่าจะเป็นช่วงที่น้องอยู่ภูเก็ต แล้วตัวซาร่าอยุ่กรุงเทพ เขาทำที่ชาร์จแบตหายแล้วทางที่บ้านก็ช่วยกันหาแล้วก็เจอ ก็ให้น้องชาร์จ“
ระยะเวลามันนานแค่ไหน
ซาร่า “จริงๆ ซาร่าไม่ได้นับ ประมาณอาทิตย์ เหมือนตอนเขาทักมาหาเราเขาบอกว่า 8 วันค่ะ มองว่ามันไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่โตอะไรแค่น้องทำที่ชาร์จหายเจอแล้วก็ชาร์จ“
ตกใจไหมตอนที่เขาออกมาตอบว่าไม่ได้คุยมาครึ่งเดือนแล้ว
ซาร่า “ไม่ตกใจ เพราะว่าจริงๆ เราก็คุยกันอยู่ไม่ใช่ไม่ได้คุยกัน เหมือนตัวนาฬิกาที่คุณพ่อน้องให้มามันก็น่าจะแจ้งเตือนอยู่ตลอด เพราะไม่ได้ชาร์จแบตเขาก็บอกเราว่านาฬิกาลูกไม่ได้ชาร์จแบต คุยกับลูกล่าสุดเห็นลูกบอกว่าอยู่กรุงเทพยังไงฝากบอกที่บ้านช่วยดูให้หน่อย“
มีคนอ้างว่าเป็นญาติบอกว่าน้องลืมไว้ที่กรุงเทพ
ซาร่า “เอาเป็นว่าซาร่าอยากให้ข่าวทุกข่าวที่มันออกมามันสื่อสารจากซาร่าโดยตรงดีกว่า เพราะข่าวมันมาจากหลายทิศหลายทาง ถ้ามันไม่ได้ออกมาจากซาร่าโดยตรงก็รอคำตอบจากเราน่าจะดีกว่า“
คนก็ตีความไปเรารู้สึกยังไงบ้าง
ซาร่า “มันเป็นเรื่องเล็กน้อยเพราะเราคุยกันในครอบครัว พอมันมีข่าวออกมาซาร่ามองว่าบางสิ่งบางอย่างซาร่าไม่ต้องมานั่งชี้แจงตลอดเวลา มันเป็นเรื่องแค่ที่ชาร์จแบตลูกหาย เป็นเรื่องที่ทุกข้านน่าจะเกิดปัญหาลูกลืมของตรงนั้นตรงนี้“
คนที่มาเม้นต์เขาบอกว่ารู้จักกับซาร่า
ซาร่า “จริงๆ ตั้งแต่มีข่าวมาคนสนิทค่อนข้างเยอะ (หัวเราะ)”
กะปุ่น “จริงๆ หลายๆ ข่าวที่ออกมาไม่ได้ออกมาจากตัวน้องเลย บอกว่าเป็นคนรอบข้างตลอด เพราะฉะนั้นเวลาที่มีข่าวอะไรออกไปอยากให้เป็นสิ่งที่น้องได้สื่อสารเองมากกว่า อยากให้เชื่อข่าวที่ออกมาจากตัวของน้องมากกว่า“
การออกตัวแรงของคนรอบตัวทำให้เราเสื่อมเสียยังไงบ้าง
ซาร่า “ซาร่าไม่ได้ซีเรียสเลย ไมค์เป็นพ่อ ซาร่าเป็นแม่ แม็กซ์เวลล์เป็นลูก สื่อสารกันในครอบครัวเรารู้เรื่อง ข้างนอกมันก็แค่ข่าวค่ะ“
แอบโกรธบ้างไหม
ซาร่า “ไม่โกรธๆ เราชิวๆ เราโฟกัสทำงานเลี้ยงลูก เพราะว่ามันเป็นเรื่องเล็ก สำหรับซาร่ามองคือก่อนหน้านี้เรามีข่าวค่อนข้างเยอะมาก เรื่องมันใหญ่มาก พอเป็นเรื่องนี้ซาร่ามองว่ามันเล็กน้อยไม่ได้เอามานั่งคิดมากอะไร“
ซาร่ามาทำงานกรุงเทพ แล้วแม็กซ์เวลล์อยู่กับใคร
ซาร่า “ครอบครัวซาร่าที่ภูเก็ตค่ะ“
แล้วเขารู้ไหมว่าแบตนาฬิกาหมด
ซาร่า “อันนี้ไม่ทราบค่ะ เราไม่ได้คุยกันละเอียดขนาดนั้น แต่เราทราบตอนที่พ่อน้องทักมาหาว่าแบตหมดเช็คให้หน่อยเราก็ถามที่บ้านว่าแม็กซ์เวลล์ไม่ได้ชาร์จแบตนาฬิกาหรอค่ะ“
เราก็ใส่ใจในการติดต่อกับทางไมค์
ซาร่า “ติดต่อค่ะ เราก็พูดคุยกันเป็นเรื่องปกติ“
ตอนนี้ไมค์ได้คุยกับแม็กซ์เวลล์หรือยัง
ซาร่า “คุยค่ะ (คุยเมื่อไหร่หลังจากเป็นข่าว)น่าจะประมาณ 2-3 วันค่ะ“
ก่อนหน้านั้นที่ไมค์โพสต์แล้วคนทองว่ากีดกัด กลัวจะมีผลต่อรูปคดีไหม
ซาร่า “คือหลักฐานในชั้นศาลกับสื่อมันแตกต่างกัน คือผู้พิพากษาเขาพิจารณาจากหลักฐานข้อเท็จจริง ซึ่งมันไม่มีหลักฐานกีดกันค่ะ เพราะฉะนั้นการกีดกันมันไม่ใช่ความจริง“
คนยังมองว่ากีดกัน
ซาร่า “ซาร่ามองว่าในศาลยุติธรรมที่สุด ศาลให้ความยุติธรรมทั้งไมค์ ซาร่า และแม็กซ์เวลล์ที่สุด เรื่องนี้มันถึงกระบวนการศาลแล้ว คนที่จะตัดสินก็คือผู้พิพากษาเขาจะต้องเห็นผลประโยชน์ของลูกเราทั้งคู่“
แสดงว่าวันที่ 24 ธ.ค. จะแฮปปี้เอนดิ้ง
ซาร่า “อันนี้ตอบไม่ได้ค่ะ เพราะว่าเรายังไม่เคยเจรจากันเลยสักครั้ง ซาร่าก็เลยไม่รู้ว่ามันจะเป็นรูปแบบไหน แต่ส่วนตัวซาร่าอยากให้ทุกอย่างจบลงด้วยดี”
ทนายบอกว่าก่อนวันที่ 24 เรามีสิทธิ์ไกล่เกลี่ยพูดคุยกันนอกรอบ เราได้คุยกันไหม
ซาร่า “ทางทนายฝั่งคุณไมค์เขาไม่ได้ติดต่อมาค่ะ เราก็รอ จริงๆทางเราก็มีติดต่อไปหลายๆครั้งแต่ว่าไม่ได้คำตอบ เราก็โอเคไม่เป็นไร”
ทางฝั่งเรายืดหยุ่นหรือยอมได้แค่ไหนกับสิ่งที่เขาขอมา
ซาร่า “ทุกอย่างที่เป็นผลประโยชน์ของแม็กซ์เวลล์ ซาร่ายอมอยู่แล้วค่ะ”
เราให้พื้นที่แค่ไหนกับการที่เขาได้มาเจอ พูดคุยกับลูก
ซาร่า “ซาร่าโอเพ่นเรื่องนี้ตลอดกับ 6 ปีที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นวันพ่อ วันคริสต์มาส ปีใหม่ทุกเทศกาลหรือไม่ต้องเทศกาล ทุกครั้งที่ไมค์เขาอยู่กรุงเทพฯ ซาร่าพยายามที่จะจัดตารางทุกอย่างให้กับพ่อกับลูกอยู่แล้ว อย่างเช่นวันพ่อที่จะถึงนี้เราก็ล็อกคิวล็อกตารางแล้วว่ามันเป็นวันพ่อ มันเป็นวันของเขายังไงเราก็ต้องให้ลูกกับเขาได้ทำกิจกรรมร่วมกันเหมือนทุกปีที่ผ่านมา”
ทำกิจกรรมวันพ่อที่ภูเก็ตหรือที่กรุงเทพฯ
ซาร่า “กรุงเทพฯค่ะ (แม็กซ์เวลล์กับพ่อจะได้มาเจอกันเร็วๆนี้) ใช่ค่ะ”
กะปุ่น “ช่วงนั้นน้องซาร่าน่าจะมีงานค่ะ จริงๆน้องซาร่าจะพาน้องแม็กซ์เวลล์มาเรียนพิเศษที่กรุงเทพฯอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว ก็คือจะต้องบินไปบินมาค่ะ เพราะฉะนั้นจะต้องมีการสลับสับเปลี่ยนกันว่า ถ้ามาเจอกรุงเทพฯสะดวกมั้ย หรือเจอภูเก็ตสะดวกกว่า ก็ต้องอยู่ในการตัดสินใจของน้องซาร่าและครอบครัว”
แสดงว่าทุกวันนี้ยังไม่ได้กำหนดเวลาว่าจะให้เจออาทิตย์ละกี่วันยังไงบ้าง
ซาร่า “ด้วยความที่น้องเรียนอยู่ค่ะ ก็ต้องเอาตารางน้องเป็นหลัก”
ใช้คำว่า ซาร่าถอยให้กับเขาได้ไหม
ซาร่า “ซาร่าก็ไม่เคยสู้กับใครนะ ซาร่าก็อยู่เหมือนเดิมมาตั้งแต่แรกค่ะ”
ทุกวันนี้เรายังคุยกับไมค์โดยตรงหรือมีคนกลางช่วยคุย
ซาร่า “คุยกันเองค่ะ มันเป็นเรื่องในครอบครัว คิดว่ามันเป็นเรื่องที่พ่อแม่สามารถคุยกันได้เสมอเพื่อลูกค่ะ”
แสดงว่าคุยกันมากขึ้น
ซาร่า “จริงๆก็คุยกันตลอดค่ะ แค่มันจะมีช่วงหนึ่งช่วงที่ เรามีปัญหากันโควิดช่วงนั้นอาจจะตึงๆไม่พอใจกันก็เป็นเรื่องปกติทุกๆบ้านต่อให้คุณไม่ได้แยกทางกัน เป็นสามีภรรยาอยู่ในบ้านกันมันก็ต้องมีตึงกันบ้างในบางครั้ง อย่างตอนนี้มันดีขึ้นแล้ว”
ผลลัพธ์จากการที่เราได้คุยกันมันดีขึ้นยังไง ผ่อนคลายมากกว่าช่วงที่ผ่านมาไหม
ซาร่า “เราคุยกันแค่เรื่องลูกเหมือนทุกๆครั้งค่ะ เราก็ไม่ได้รู้สึกอะไร รู้สึกปกติค่ะ”
อย่างครั้งต่อไปจะให้ไมค์ได้เจอน้องเมื่อไหร่
ซาร่า “วันพ่อค่ะ เพราะว่าเป็นวันของคุณไมค์ด้วย ก็เคลียร์ตารางให้พ่อกับลูกแล้วค่ะ”
ตอนนี้ยังมีสิ่งที่ซาร่าอยากได้จากไมค์เพิ่มเติมอยู่ไหม
ซาร่า “ซาร่าก็ไม่เคยเรียกร้องนะ ทุกอย่างมันอยู่ภายใต้กฎหมาย ผู้พิพากษาเป็นคนตัดสินและมองถึงประโยชน์ของบุตรเราทั้งคู่”
กะปุ่น “ในฐานะผู้อยู่ข้างเคียงน้องซาร่า อยากจะบอกว่าตัวน้องเองตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา น้องทำงานหนักมาก ถ่ายหนังบางทีโหนสลิงเองนะคะ ตึก3ชั้น เหมือนในครั้งนี้เหมือนกัน ธุรกิจก็เตรียมเซ็ตดิ้งของเขามาเกือบ 2 ปีแล้วเหมือนกันที่เราวางแพลนกัน”
ซาร่า “เราก็มาเป็นตัวแทน CEO ของเรา เป็นผลิตภัณฑ์ Cheryl (เชอริล) วันนี้เราก็มามอบรางวัลให้ผู้ประกวดด้วย”
เป็นธุรกิจหนึ่งที่หารายได้ให้กับครอบครัว
ซาร่า “มันเป็นธุรกิจที่เราสตาร์ทอัพกับพี่ปุ่น ผู้จัดการของเรา เตรียมตัวมา 2 ปีแล้ว ตอนแรกเราจะเปิดตัวช่วงก่อนโควิดแล้วพอมีโควิดทุกอย่างก็ถูกเลื่อนไป”
หลังจากการเซ็นรับรองบุตรแล้ว เงื่อนไขอื่นๆอย่างค่าเลี้ยงดู ค่าใช้จ่ายต่างๆ เรามีการคิดวางแผนบ้างหรือยัง
ซาร่า “อันนี้ต้องให้ผู้พิพากษา ทนาย ตัดสินไกล่เกลี่ย”
จะมีข้อเรียกร้องมากกว่า 4 ข้อ ที่เราเคยเรียกร้องไปไหม
ซาร่า “มันเรียกว่าข้อเรียกร้องไม่ได้ค่ะ มันเป็นเหตุและผลที่เราเสนอต่อศาล เพราะไม่ว่าทนายทั้งสองฝั่งจะเขียนอะไรไป สุดท้ายแล้วมันไม่ใช่คำสั่งตายตัวว่ามันต้องเป็นแบบนี้ สุดท้ายแล้วผู้พิพากษาก็ต้องมาดูเหตุและผลข้อเท็จจริงว่าอันนี้มันได้มั้ย ไม่ว่าจะเป็นไมค์หรือซาร่าเราไม่สิทธิ์ที่แบบจะเอาอันนั้นอันนี้ สุดท้ายแล้วมันอยู่ที่ดุลยพินิจของศาลของศาลว่าอันไหนที่มันเหมาะสมต่อบุตรของเรา”
วันที่ 24 คิดว่ามันจะจบลงยังไง
ซาร่า “อยากให้ทุกอย่างจบลงด้วยดี”
จะมีการเซ็นรับรองบุตรกันในวันนั้นเลยไหม
ซาร่า “รับรองบุตรมันเกิดขึ้นอยู่แล้วค่ะ เพราะว่าไมค์เขาเป็นคุณพ่อน้องตั้งแต่วันที่ซาร่าให้คุณไมค์เขาเซ็นใบเกิดตั้งแต่วันที่น้องเกิด เพราะฉะนั้นความเป็นพ่อมันเกิดขึ้นตั้งแต่วันนั้นแล้วค่ะ”
เรืองวาดิมตอนนี้ เรามีการตัดขาดกับเขาไปแล้วหรือว่ายังไง
ซาร่า “เรื่องนี้ซาร่าไม่ขอพูดถึงแล้วกันนะคะ“
ตอนนี้ทำหน้าที่แม่เต็มที่
ซาร่า “เต็มที่ค่ะ (ใช้คำว่าแม่เลี้ยงเดี่ยวได้ไหม) ซาร่าไม่ขอใช้คำนี้แล้วละกันเพราะซาร่าไม่เข้าใจนิยามของแม่เลี้ยงเดี่ยวที่แท้จริงว่ามันคืออะไร ก่อนหน้านี้ทุกคนให้คำนิยามซาร่าว่าแม่เลี้ยงเดี่ยว เราก็ติดว่า อ๋อ แม่เลี้ยงเดี่ยว แต่ ณ วันนี้ด้วยอะไรหลายๆ อย่างทำให้เรายังไม่เข้าใจในคำนี้จริงๆ“
กะปุ่น “คือเรารู้สึกว่าไม่ว่าจะแม่เลี้ยงเดี่ยวหรือว่าแม่ คำว่าแม่มีความหมายมากๆ นะคะ ไม่ว่าจะแม่แบบไหน วันนี้น้องซาร่าทำหน้าที่แม่ได้อย่างสมบูรณ์กับลูกทั้ง 2 คน ปุ่นมองว่าแล้วแต่คนจะให้คำนิยามน้องเลย“
วาดิมเขามีส่งเสียเลี้ยงดูหรือส่งเงินมาช่วยเหลือยังไงบ้างไหม
ซาร่า “ขอไม่พูดเรื่องวาดิมละกันค่ะ เพราะว่าเขาไม่ใช่คนในวงการซาร่า ไม่อยากเอาเรื่องส่วนตัวของเขามาพูด“
รู้สึกว่าเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นมันหนักเกินไปไหมสำหรับผู้หญิงคนหนึ่ง
“ก็หนักนะคะ ถ้าจะบอกว่าไม่หนักมันก็คงโกหกเกินไป แต่รับมือได้ รับมือไหว“
ลูกคนเล็กอยู่กับเราที่กรุงเทพหรอหรือว่าอยู่ที่ภูเก็ต
“เราเลี้ยงลูกเองอะค่ะไม่ว่าเราอยู่ตรงไหน เหมือนตอนที่เลี้ยงแม็กซ์เวลล์เราก็ไปด้วยกัน ทุกที่เพราะว่าน้องยังกินนมจากอกค่ะ เราจะห่างกับลูกได้ก็ตอนที่เขาเข้าโรงเรียน หย่านมค่ะ“