ผู้เขียน | [email protected] |
---|
กำลังมีผลงานภาพยนตร์เรื่อง ‘Suicide Squad’ ออกฉาย วิล สมิธ พระเอกผิวสีรุ่นใหญ่ของฮอลลีวู้ดจึงมีภารกิจต้องเดินสาย ไปปรากฏตัวเพื่อโปรโมตภาพยนตร์ตามที่ต่างๆ รวมทั้งในรายการ The Late Show with Stephen Colbert ทางสถานีโทรทัศน์ ซีบีเอส เมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งพระเอกดังวัย 47 ได้เปิดใจให้สัมภาษณ์ สตีเฟน คอลเบิร์ต หลายเรื่อง ทั้งปัญหาเรื่องการเหยียดสีผิวในสหรัฐอเมริกา, ภาพยนตร์เรื่องใหม่เกี่ยวกับชีวประวัติของ ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ที่เขาจะสวมบทบาทเป็นประธานาธิบดีโอบามา รวมทั้งเหตุผลที่ทำให้เขา ‘ล้มเลิก’ ความคิดที่จะเล่นการเมือง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ‘ว้อนท์(Want)’ มาก!!!
ทั้งนี้จากข่าวเล่าว่า ขณะที่ราวปลายเดือนสิงหาคมนี้จะมีภาพยนตร์เรื่อง ‘Southside with You’ ที่ถ่ายทอดเรื่องราวความรักในวัยแรกรุ่นของบารัค โอบามา กับมิเชล ลงโรงฉาย ซึ่งสมิธได้ให้สัมภาษณ์ว่า เขาเองก็มีโครงการจะทำภาพยนตร์เกี่ยวกับชีวประวัติของประธานาธิบดีโอบามา และได้คุยกับประธานาธิบดีโอบามามาแล้ว 2-3 ครั้ง ถึงเรื่องที่เขาจะรับหน้าที่ถ่ายทอดบทบาทนั้นสู่จอภาพยนตร์
“เราเคยคุยเรื่องนี้กันมา 2-3 ครั้ง และเขา (ประธานาธิบดีโอบามา) ก็พูดหยอกผมว่า มีสิ่งหนึ่งที่เขามั่นใจว่า ผมเหมือนเขาเป๊ะ ก็คือหูทั้งสองข้างของผม”
ระหว่างให้สัมภาษณ์ สมิธยังเล่าถึงความคิด ความฝันที่ทำให้เขาเคยคิดอยากลงเล่นการเมืองว่า
“ผมเคยคิดนะ แต่คุณรู้ป่ะ เมื่อผมได้นั่งมองดูโอบามามา 8 ปี ผมรู้เลยว่า มันเป็นงานที่หนักมาก”
“ตอนนั้น ผมรู้สึกคันไม้คันมือจริงๆ มีความคิด มีไอเดียเยอะแยะมาก และบางครั้ง เมื่อผมได้ยินคนมาพูดนั่นพูดนี่ออกทีวี ผมก็รู้สึกอยากตอบโต้ อยากออกไปคว่ำพวกคนเหล่านั้น แต่ผมก็กลับมานั่งคิดทบทวนว่า นี่ไม่ใช่สิ่งที่ผมมีพรสวรรค์”
สมิธยังเล่าว่า จาดา พินเก็ต สมิธ ภรรยาของเขาก็ไม่สนับสนุนที่เขาคิดจะลงเล่นการเมือง
“ภรรยาผมเคยพูดบ่อยมากว่า นรก, ไม่เด็ดขาด ผมก็ไม่รู้หรอกว่า เธอหมายถึงอะไร แต่นั่นคือสิ่งที่เธอพูด”
พระเอกรุ่นใหญ่ยังเปิดใจพูดถึงปัญหาเรื่องการเหยียดสีผิวในสหรัฐอเมริกาบ้านเกิด โดยเปรียบเทียบกับ ‘ชีวิตคู่’ ว่าเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยความพยายาม
“มันต้องมีความมืด ก่อนจะมีแสงสว่างเสมอ มันยากตรงนี้แหละ ผมคิดว่าปัญหาเรื่องการเหยียดสีผิวไม่ได้เลวร้ายขึ้น มันกำลังถูกถ่ายทอดออกไปให้คนได้เห็น และผมก็รู้ว่ามันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่ผมก็คิดว่าตอนนี้ปัญหาถูกนำขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะแล้ว และมันก็มีโอกาสมากกว่าที่เคยผ่านมามากมาย สำหรับระดับความเข้าใจของผู้คน”
“ที่เราไม่เคยมีมาก่อน”