‘เนชั่นทีวี’ เปิดตัว 8 ผู้ประกาศข่าวใหม่ นำทัพโดย ‘ชิบ จิตนิยม-ต๊ะ พิภู’ ดีเดย์เฟสแรก 16 ธันวาคมนี้
เนชั่นทีวี เดินหน้าสู่ทศวรรษที่ 3 อย่างยิ่งใหญ่ “ฉาย” ลั่นยืนหยัดอุดมการณ์องค์กรสื่อเพื่อ ชาติบ้านเมือง ด้านการเปลี่ยนแปลงที่ผ่านมา เปรียบดังต้นไม้ผลัดใบตามหลักธรรมชาติ
วันนี้ (15 ธันวาคม 2563) สถานีโทรทัศน์เนชั่นทีวีช่อง 22 โดย บริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) ได้จัดงาน Nation TV Open house ขึ้น เพื่อแถลงถึงทิศทางการดำเนินงานในปี 2564 รวมถึงการปรับผังรายกานครั้งใหญ่ โดยมี นายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ แม่ทัพคนใหม่ เตรียมปรับใหญ่ยกระดับระบบโต๊ะข่าวเป็น “แกนกลาง” สถานีข่าว เปิดตัวกองทัพผู้ประกาศใหม่ 8 คนข่าวมากประสบการณ์ ดีเดย์เฟสแรก 16 ธันวาคมนี้และในปีหน้าจะเต็มรูปแบบ เปิดมิติใหม่มากกว่าความเป็นสถานีข่าว ด้วย 3 โครงการใหญ่ เปิดเวทีคนรุ่นใหม่เต็มรูปแบบ Nation Sitcom ละครซีรี่ส์รูปแบบซิทคอม “ประชาธิปไตยตั้งไข่” Nation The Debate การแข่งขันโต้วาทีระดับมัธยมปลาย และ Nation Documentary สารคดีเชิงข่าวและประวัติศาสตร์ไทยสู่ตลาดโลก
โดย นายฉาย บุนนาค ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เนชั่นมัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวถึงการก้าวเข้าสู่ปีที่ 50 ของเนชั่นกรุ๊ปว่า “เนชั่นทีวีเราพร้อมเดินหน้าสู่ปีที่ 21 ด้วยความแข็งแกร่ง ทั้งด้านสถานะการเงินและผลประกอบการทางธุรกิจ ส่วนการเปลี่ยนแปลงที่ผ่านมา หากเปรียบเป็นต้นไม้ ต้นไม้นี้ก็ผ่านร้อน ผ่านหนาว ผ่านแดด ผ่านฝนมาหลายต่อหลายครั้ง แต่เราก็ยืนหยัดอยู่ได้และพร้อมผลิใบรวมถึงออกดอกผลใหม่เสมอ”
นายฉาย ยังกล่าวต่ออีกว่า “การเปลี่ยนแปลง การเปลี่ยนผ่าน ถือเป็นกฎแห่งธรรมชาติ แต่สิ่งหนึ่งที่ถือเป็นดีเอ็นเอ ขององค์กรคืออุดมการณ์ และการทำหน้าที่สื่อสารมวลชนที่ดี มีคุณธรรม มีความรับผิดชอบต่อสังคมไทยสืบไป หรือจะเปรียบก็คงเปรียบเราได้ดั่ง หมาเฝ้าบ้านและยามเฝ้าแผ่นดินที่พร้อมเสียสละเพื่อชาติบ้านเมือง และคอยดูแลปกป้อง 3 สถาบันสำคัญมาโดยตลอดและไม่มีเปลี่ยนแปลง นั่นคือสถาบันชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์”
ทางด้าน นายอดิศักดิ์ ลิมปรุงพัฒนกิจ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท เนชั้น บรอดแคสติ้ง จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวถึง เนชั่นทีวีในยุคใหม่ว่า “ในปี 2021 เนชั่นกรุ๊ปจะมีอายุครบ 50 ปี และ เนชั่นทีวีจะก้าวสู่ปีที่ 21 พวกเรากำลังมุ่งมั่นบนเส้นทาการกลับสู่ความเป็นสถาบันสื่อมืออาชีพ และมีความตั้งใจในการสร้างสรรค์งานใหญ่ในระดับนานาชาติเพื่อประกาศความเป็น “สถาบันสื่อมืออาชีพ” ในระดับภูมิภาค และเรายังเปิดกว้างในการให้ผู้บริโภคข่าวสาร สามารถร่วมแสดงความคิดเห็นได้อย่างใกล้ชิดโดยเนชั่นจะเป็นผู้ส่งผ่านข่าวสารและความรู้ไปในทุกแพลตฟอร์มของโลกดิจิทัล เพื่อให้เข้าถึงทุกภาคส่วนของสังคมไทย”
นายอดิศักดิ์ กล่าวว่าในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา กองบรรณาธิการเนชั่นทีวีและสื่อในเครือเนชั่นได้ปรับโครงสร้างฝ่ายข่าวครั้งใหญ่ สร้างระบบโต๊ะข่าวเพื่อบริหารจัดการข่าวและภาพอย่างเป็นระบบ เพื่อกลั่นกรองทุกๆคอนเทนท์ให้มั่นใจได้ว่าจะมีคุณภาพและความเชื่อถือสูงสุดก่อนนำเสนอออกไปในทุกช่องทาง เปรียบเสมือนการทำให้กองบรรณาธิการเป็นแกนกลางหรือกระดูกสันหลังของสถานีข่าวเนชั่นทีวี เพื่อสร้างความแข็งแกร่งด้วยเนื้อหามากกว่าการยึดติดตัวบุคคล กลุ่มเป้าหมายของการรายงานข่าวแต่ละประเภทข่าวให้ชัดเจนขึ้น โดยทีมเนชั่นทีวีจะเน้นการรายงานข่าวการเมือง การตรวจสอบนโยบายสรารณะ เช่น การศึกษา สาธารณสุข สิ่งแวดล้อมกระบวนการยุติธรรมและคุณภาพชีวิต ข่าวประเทศอาเซียนและการเมืองโลกส่วนข่าวเศรษฐกิจและธุรกิจจะให้ทีมข่าวกรุงเทพธุรกิกับฐานเศรษฐกิจที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจมากมายมาป้อนให้ช่องเนชั่นทีวี”
ทั้งนี้ นายอดิศักดิ์กล่าวว่าสำหรับข่าวอาชญกรรม บันเทิง ศิลปวัฒนธรรมและกีฬาจะอยู่ในทีมข่าวคมชัดลึก ที่ปัจจุบันเน้นหนักผ่านออนไลน์และโซเซียลมีเดียสำหรับการปรับสัดส่วนเนื้อหาข่าวและรายการของเนชั่นที่ในปีหน้านั้น
“เนชั่นที่วีจะปรับสัดส่วนเนื้อหาข่าวและรายการให้มีความหลากหลายและทันสมัยมากยิ่งขึ้น เพื่อขยายฐานผู้ชมไปยังทุกกลุ่มอายุ” ผังรายการใหม่ในปีหน้าจะมีข่าวและรายการเชิงสาระอย่างน้อยวันละ 14 ชั่วโมง โดยมีสัดสวนของข่าวการเมืองและการตรวจสอบนโยบายสาธารณะ 50% ซึ่งถือเป็นเนื้อหาหลักที่เข้มข้นของสถานี ที่เหลือจะเป็นการเปิดพื้นที่ให้รายการประเภทอื่นอีก 40 % อาทิ รายการด้านเศรษฐกิจ ธุรกิจ เทคโนโลยี วิถีชีวิตคนอาเชียน การเมืองโลก ชุมชนคุณภาพชีวิต ศิลปวัฒนธรรม บันเทิง และการเปิดเวทีสหนแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างเข้มข้น เพื่อหาคำตอบให้ทุกประเด็นของสังคม”
เมื่อถามถึงเรื่องการปรับแผน เนชั่นทีวี ช่อง22 ในปี2564 จะสามารถดึงฐานคนดูเดิมกลับมาได้มากน้อยแค่ไหน และ มีการคาดหวังเรตติ้งเท่าไหร่ นายอดิศักดิ์ ได้ให้คำตอบว่า
“เราหวังคนดูใหม่มากกว่าคนดูเดิม คนดูเดิมพอเราเปลี่ยนเนื้อหาไปอาจะไม่ได้กลับมาเราต้องความรับความจริง แต่เนื้อหาทั้งหมดที่เห็นเรามีเป้าหมายในการไปถึงกลุ่มคนดูที่หลากหลายขึ้น จะเห็นว่ามีข่าวเศรษฐกิจ ข่าวต่างประเทศ ข่าวด้านศิลปะวัฒนธรรม เรื่องของรายการใหม่ๆ ในรูปแบบใหม่ๆซึ่งแต่ละช่วงเวลาในผังใหม่ของเนชั่น ในช่วงเช้า ช่วงสาย ช่วงเที่ยง ช่วงค่ำ ช่วงดึก จะมีความแตกต่างกันของรูปแบบและบุคลิกภาพของพิธีกรดำเนินรายการ สิ่งที่เป็นเป้าหมายหลักของเนชั่นทีวีคือการเข้าหากลุ่มคนดูที่หลากหลายขึ้น ฐานที่ใหญ่ขึ้น นี้คือความมั่นใจว่าคนดูของเราจะมากขึ้นจากฐานเดิมที่เรามากอยู่แล้ว เรื่องเรตติ้งไม่น่าจะเป็นเรื่องปัจจัยสำคัญที่สุดเพราะว่าช่องเนชั่นถ้าอยากจะทำเรตติ้งสูงๆก็ควรเล่นข่าวลุงพลแต่เราไม่ต้องการเรตติ้งแบบนั้น เราต้องการคนดูที่มีคุณภาพ คนดูที่มีทัศนคติของการดำเนินชีวิตที่เปิดกว้าง และมีกำลังซื้อสำคัญกว่าเรตติ้งเพราะผู้ลงโฆษณาไม่จำเป็นต้องลงโฆษณาในทีวีอย่างเดียว ในยุคนี้เพราะว่าเขามีทางเลือกเยอะแยะทางออนไลน์และอื่นๆแต่สิ่งที่เนชั่นทีวีทำไม่ใช่สร้างสถานีโทรทัศน์เพื่อสร้างเรตติ้งเราทำคอนเทนต์ของเนชั่นทีวีที่ออกในทุกๆช่องทาง ทีวี ออนไลน์และทุกๆแพลตฟอร์ม อย่างที่บอกว่าเราจะเป็นโอเพ่นแพลตฟอร์มทางด้านสื่อของสังคมไทยที่ไปถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย เรตติ้งสำคัญแต่ไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด อยู่บนตารางแต่ตารางเป็นมายาเป็นเหมือนอดีต เรตติ้งเป็นเหมือนอดีตแต่เรามองอนาคตมากกว่า”
อย่างไรก็ตาม สำหรับ 8 คนข่าวมากประสบการณ์ที่จะมาเสริมทัพผู้ประกาศข่าวให้กับเนชั่นนั้น ได้แก่ พิภู พุ่มแก้วกล้า, อรการ จิวะเกียรติ, อรรินทร์ ยมกกุล, ชวัลน์ จันทร์ทรัพย์, กรองบุญ ศรีสรรพกิจ, ลลิตา มั่งสูงเนิน, ชาญชัย ประทีปวัฒนะวงศ์ และ ชิบ จิตนิยม
