ยังไม่ลงตัว ‘ไมค์-ซาร่า’ เจรจาเครียด ‘อำนาจปกครองบุตร’ ศาลนัดไกล่เกลี่ยรอบ 3

ยังไม่ลงตัว ‘ไมค์-ซาร่า’ เจรจาเครียด ‘อำนาจปกครองบุตร’ ศาลนัดไกล่เกลี่ยรอบ 3

เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม ที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ไมค์ พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล พร้อมด้วย ทนายเจมส์ นิติธร แก้วโต และทนายสนิท ปัจจายา ทนายความส่วนตัว และคู่กรณี ซาร่า คาซิงกินี พร้อมด้วย ทนายกิ่ง ศิริญญ์รดา เลืองวัฒนะวณิช และทนายธากฤช สิทธิประเสริฐ ได้เดินทางมาเพื่อไกล่เกลี่ยครั้งที่ 2 ตามคำสั่งศาล จากกรณีที่นักร้องหนุ่มได้ยื่นถอนคำร้องขอเป็นพ่อโดยชอบธรรมและสิทธิปกครองบุตร นับว่าเป็นการเจอหน้ากันครั้งแรกที่หน้าบัลลังก์ศาลของไมค์และซาร่า

หลังจากที่ใช้เวลากว่า 8 ชั่วโมง ในการพูดคุยไกล่เกลี่ย ทางด้านของทนายกิ่ง และทนายธากฤช ทนายความของซาร่าก็ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนถึงการไกล่เกลี่ยครั้งนี้ว่า

ทนายธากฤช : วันนี้ก็มีประเด็นทางคดีแหละเนอะ เรื่องการรับรองบุตร อำนาจปกครองจะเป็นยังไง จริงๆ ทั้งสองฝ่ายก็ยังอยากดูแลลูกอยู่แล้วทั้งสองฝ่าย เพียงแต่ว่าพอต่างฝ่ายยังอยากดูแลอยู่ก็ต้องมาคุยรายละเอียด อำนาจตัดสินใจจะเป็นยังไง ซึ่งวันนี้มันก็ยังมีรายละเอียดบางจุด หลายจุดอยู่ ที่มันยังไม่ค่อยตรงกัน ทนายก็เลยกลับไปคุยกับลูกความแต่ละฝ่ายแล้วเดี๋ยวนัดหน้าจะมาคุย รายละเอียดมันเยอะ เรื่องมันละเอียดอ่อน ลูกต้องอยู่กับอีกฝ่ายหนึ่ง อีกฝ่ายหนึ่งจะเงื่อนไขเป็นอย่างไร มันเยอะครับ

มีแนวโน้มจะลงตัวมั้ย?
ทนายธากฤช : ก็ดีอยู่นะ เพราะว่าก่อนหน้านี้เขาไม่เคยคุยกันตรงๆ มาก่อน คราวนี้เหมือนเป็นเวทีที่ดีเหมือนให้ทั้ง 2 ฝ่ายได้มาเจอกัน ท่านผู้ประนอม ผู้พิพากษาก็ได้ช่วยเหลือด้วย

Advertisement

หลักๆ เป็นเรื่องที่ลูกต้องอยู่กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งใช่มั้ย?
ทนายธากฤช : อันนั้นก็เป็นส่วนหนึ่งประเด็นหลักครับ แล้วก็อีกฝ่ายจะติดต่อกันแบบไหน อะไรยังไง มันก็เยอะอะเนอะ

แต่น้องยังต้องอยู่กับซาร่าเหมือนเดิมใช่มั้ย?
ทนายธากฤช : เบื้องต้นที่คุยกันวันนี้ก็แนวๆ นั้น เพราะทางไมค์ก็ไม่ได้ติดใจ แต่ว่าก็ไม่ได้ปิดประเด็นที่ว่าไมค์อยากรับไปดูหรือเปล่า ก็มีการพูดขึ้นบ้าง แต่ประเด็นนี้มันพูดนิดหน่อย

ทางเรายังย้ำข้อเสนอ 4 ข้อที่เคยพูดไปแล้วหรือเปล่า?
ทนายกิ่ง : อย่างที่เคยแจ้ง 4 ข้อนั้นมันไม่ใช่ข้อเสนอ มันเป็นข้อความเห็นของเราว่าทำไมน้องควรอยู่กับเรา กระบวนการไกล่เกลี่ยมันไม่ใช่กระบวนการของศาล ความจริงเราต้องถอยคนละก้าว แล้วเราก็หันหน้าเข้าหากัน เพราะฉะนั้นเราไม่ยึดติดกับสิ่งที่เราเคยพูดไปแล้ว หรือไม่ยึดติดกับสิ่งที่มันอยู่บนกระดาษ เราเปิดโอเพน สามารถคุยกันได้ทุกเรื่อง

Advertisement

วันนี้มีการยื่นข้อเสนออะไรออกไปมั้ย?
ทนายธากฤช : มันไม่มีการยื่นข้อเสนอกันไปเป็นข้อๆ หรอก เหมือนกับว่า ณ วันนี้สถานะของลูกเป็นแบบไหน แล้วเพื่อให้ลูกของเรา ประโยชน์สูงสุดของเด็กเป็นอย่างไร ถ้าเราเอาเรื่องเก่ามาพูด มันไม่จบไม่สิ้น ท่านผู้พิพากษาก็บอกอยู่ว่าปัจจุบันเป็นอย่างไร แล้ว 2 ฝ่ายในเมื่อได้มาคุยกันแล้ว จะตกลงดูแลบุตรร่วมกันอย่างไรมากกว่า

ความต้องการของซาร่าที่เขาต้องการล่ะ?
ทนายกิ่ง : ฝั่งซาร่าต้องถาม คือไม่ใช่ว่าเราต้องการ ถามว่าฝั่งนู้นเขาจะซัพพอร์ตให้น้องมากแค่ไหนมากกว่า มันเป็นประเด็นอย่างนั้นมากกว่า

หมายถึงในเรื่องค่าใช้จ่ายเหรอในเรื่องการซัพพอร์ต?
ทนายกิ่ง : ก็ทุกอย่างค่ะ ทุกอย่างในคดีครอบครัวมันจะมีหลายๆ ส่วน ไม่ว่าจะเป็นการอุปการะเลี้ยงดู น้องจะอยู่กับใคร อำนาจปกครอง การเยี่ยมเยียน คือต้องมานั่งคุยกันทุกอย่าง ถ้าถามว่าซาร่าต้องการอะไร มันคืออะไรเหรอคะ มันก็คือคุณอยากจะให้ลูกของคุณแบบไหน มีชีวิตแบบไหน เรียนที่ไหนมากกว่า

การไกล่เกลี่ยวันนี้อะไรเซ็นซิทีฟที่สุด?
ทนายกิ่ง : ทุกเรื่องค่ะ (หัวเราะ)

วันนี้ความคืบหน้ามันเป็นอย่างไรบ้าง มีเรื่องไหนที่สามารถสรุปได้แล้ว?
ทนายกิ่ง : เรื่องของการรับรองบุตร ที่ไม่ได้ติดใจทั้งสองฝ่าย

สรุปไมค์ได้เซ็นรับรองบุตร?
ทนายกิ่ง : ยังไม่มีค่ะ ยังเซ็นกันไม่ได้ ยังเหมือนเดิม

ข้อเสนออื่นต้องคุยกันให้ได้ก่อน แล้วค่อยมาเซ็นรับรองบุตร?
ทนายกิ่ง : ถ้ากระบวนการมันไปเรื่อยๆ สามารถตกลงกันตามรายละเอียดได้ ก็อาจจะมีคำพิพากษาของศาลแทนการแสดงเจตนาของเด็ก เพื่อจะให้ทางฝ่ายพ่อไปจดทะเบียน เป็นไปได้ ต้องมารอดูสรุปว่าทั้งสองคนจะดูแลลูกอย่างไร

ถอยเพื่อประโยชน์ของลูกเป็นหลัก?
ทนายกิ่ง : คือทั้ง 2 ฝ่ายก็ต้องถอยแหละ แต่ว่าคำถามสูงสุดอย่างที่แจ้ง มันคือผลประโยชน์ของลูก คุณอยากให้ลูกเรียนที่ไหน ชีวิตเป็นแบบไหน ก็ต้องมานั่งคุยกัน อยู่ที่ไหน
ทนายธากฤช : เราไม่อยากจะลงรายละเอียดว่าใครเสนออะไร ยังไง มันยังมีคุยกันอีกนัดหนึ่ง มันยังไม่ยุติ ถ้ามันไปได้ดีมันก็จบ ซึ่งมันก็ดีกับครอบครัวเขา แต่ถ้าพูดโดยรวมมันก็มีแนวโน้มที่ดีขึ้นนะ

นัดหน้าวันที่เท่าไหร่​?
ทนายธากฤช : วันที่ 12 เดือนมกราคม 2564 เวลาเดิม

ยังมีระยะเวลาปรึกษากันอยู่ใช่มั้ย?
ทนายธากฤช : ใช่ๆ ต่างฝ่ายก็ต้องไปทำการบ้านกันมา

มีการโต้เถียงกันมั้ย?
ทนายธากฤช : ก็ไม่นะครับ ก็พยายามคุมสถานการณ์ให้มันดี

ทางซาร่ามีเครียดมั้ย?
ทนายธากฤช : ก็มีเครียดบ้างทั้ง 2 ฝ่าย
ทนายกิ่ง : เครียดทั้ง 2 ฝ่าย เครียดค่อนข้างเยอะ เพราะกระทบต่อการใช้ชีวิตและความเป็นอยู่ทั้งสองฝ่ายค่อนข้างเยอะ

ทางด้านของ ไมค์ พิรัชต์ ก็ได้ให้สัมภาษณ์พร้อมทนายเจมส์ และทนายสนิท ถึงกรณีดังกล่าว โดยทนายเจมส์ได้เผยถึงการไกล่เกลี่ยในวันนี้ว่า

ทนายเจมส์ : บรรยากาศวันนี้ก็ไปในทิศทางที่ดีครับ และรับฟังเหตุผลกันมากขึ้นทั้งสองฝ่ายครับ

ที่ยังไม่ลงตัวคืออะไร
ทนายเจมส์ : ที่ยังไม่ลงตัวก็มีอยู่หลายประเด็น ประเด็นหลักๆ คือเรื่องของการรับรองบุตรเนี่ยน้องไมค์ไม่ติด แต่เรื่องที่ยังไม่ลงตัวก็คือเรื่องอำนาจปกครองบุตร เรื่องค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตร เรื่องค่าเทอมอะไรอย่างเนี้ยครับ ซึ่งมันเป็นรายละเอียดของเด็กคนนึง ถ้าเกิดมันมีอะไรที่เปลี่ยนแปลงก็ค่อนข้างที่จะศึกษารายละเอียดเยอะมาก เพราะเด็กคนนึงเนอะอาจจะต้องดูรายละเอียดให้มันชัดเจนนะครับ

ทางนั้นเรียกร้องเยอะเกินไปหรือเปล่า
ทนายเจมส์ : ถามว่าทางนั้นเรียกเยอะเกินไปมั้ย ถ้าเรื่องของตัวเลขมันมีรายละเอียดอยู่ในสำนวนครับ ทางท่านขอเอาไว้ว่าอยากจะให้เกิดความชัดเจนก่อนแล้วค่อยคุยอีกทีนึงครับ แต่ถามว่าเป็นส่วนนึงมั้ยที่ตกลงไม่ได้ จริงๆ มันมีหลายประเด็นครับ ไม่ใช่แค่เรื่องเงินอย่างเดียวครับ

เห็นว่าทางเรามีข้อเรียกร้องเพิ่มขึ้น
ทนายเจมส์ : อันนี้ไม่น่าจะมีนะครับ ฝั่งน้องไมค์ไม่มีสิทธิเรียกร้องอะไรอยู่แล้ว (หัวเราะ)

ทางเขามีเรียกร้องอะไรเพิ่มเติมมั้ย
ทนายเจมส์ : ก็เป็นประเด็นเดิมๆ ที่รู้ๆ กันอยู่ครับ แต่มันก็เกี่ยวข้องกับเด็กนั่นแหละ ก็เข้าใจฝั่งเขาว่าเขาก็ต้องการให้เด็กอยากมีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดครับ แต่ทางฝั่งของน้องไมค์ก็ดูตามศักยภาพครับ

เราจะต้องกลับไปทำการบ้านเรื่องอะไรบ้าง
ทนายเจมส์ : อันนี้มันลึกแล้วครับ เป็นเรื่องในสำนวน เดี๋ยวมาบอกอีกทีนึง

ไมค์สภาพจิตใจตอนนี้เป็นยังไงบ้าง
ไมค์ : ก็โอเคครับ

การเผชิญหน้ากันครั้งนี้มีการพูดคุยกันมากขึ้นมั้ย
ไมค์ : จริงๆ เอาตรงๆ ผมไม่อยากตอบอะไรมากครับ ผมไม่รู้นะว่าใครจะรู้สึกอะไรยังไง แต่เอาตรงๆ ผมเบื่อกับเรื่องนี้แล้ว ไม่รู้ว่าสังคมจะคิดยังไงตอนนี้ แต่อยากให้เรื่องนี้รีบๆ จบแค่นั้นเลยครับที่ผมรู้สึกตอนนี้

เรามีความคิดจะถอนฟ้อง อย่างที่บอกว่าจะเก็บเงินไว้ให้ลูกทีเดียวมั้ย
ไมค์ : มันก็เป็นรายละเอียดของสำนวนครับ ผมไม่สามารถพูดได้

ถ้าจะถอนฟ้องเหมือนที่แจ้งครั้งที่แล้วจะทำได้มั้ย
ทนายเจมส์ : มันต้องได้รับความยินยอมจากอีกฝ่ายนึงครับ และพูดถึงเคสทั่วไปนะครับ ท่านก็จะมองดูประโยชน์ของเด็กเป็นหลักว่าจะให้ถอนหรือไม่ให้ถอนครับ

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image