‘หมอช้าง ทศพร’ เผยเส้นทางชีวิตจากลูกคุณหนู สู่จุดเปลี่ยนมาเป็นหมอดู พร้อมเล่าเรื่องความรัก

‘หมอช้าง ทศพร’ เผยเส้นทางชีวิตจากลูกคุณหนู สู่จุดเปลี่ยนมาเป็นหมอดู พร้อมเล่าเรื่องความรัก

เปิดดวงชะตาให้กับคนมานับไม่ถ้วน แต่ล่าสุดหมอช้าง ทศพร ศรีตุลา มาเป็นแขกรับเชิญคนพิเศษ ในรายการ Club Friday Show ผลิตโดย CHANGE2561 ได้มาเปิดชีวิตของตัวเองครั้งแรกแบบหมดเปลือกเล่าจากชีวิตพลิกข้ามคืนจากที่เคยรวย สุขสบายมีเงินมากมาย นั่งรถหรู แต่เพียงข้ามคืนชีวิตพลิกกลับมานั่งรถเมล์ พร้อมทั้งยังได้เปิดใจเรื่องความรัก 15 ปีที่ไม่สามารถเล่าได้ และไม่เคยเปิดเผยที่ไหน ยอมรับที่มาเปิดที่นี่เพราะเหมือนมานั่งเล่าสู่กันฟังไม่ได้มานั่งออกรายการทีวี

“เคยเกิดวิกฤตหนักที่สุดในชีวิตคือ วิกฤตครอบครัว วิกฤตคุณพ่อเสีย คือข่วงนั้นเป็นช่วงที่แย่มากของชีวิต แล้วคุณแม่ไปตรวจสุขภาพแล้วตรวจเจอว่าเป็นโรคหัวใจ แล้วทุกคนก็ไปดูคุณแม่กันหมดแล้วไม่มีใครอยู่ที่บ้านกับคุณพ่อ แล้วท่านก็เครียดเรื่องที่คุณแม่ป่วยคือ ท่านเส้นเลือดในสมองแตก แล้วอาจจะเพราะหลายชั่วโมงเกินไป คือ ตอนนั้นคิดอย่างเดียวคือ ทำยังไงให้เราเข้มแข็งที่สุด ถามว่าเสียใจไหมแน่นอนแต่เราต้องผ่านเรื่องนี้ไปให้ได้ เราก็บอกพี่สาวว่าอย่าเพิ่งบอกคุณแม่เรื่องคุณพ่อนะ เพราะท่านกำลังจะผ่าตัดหัวใจก็เป็นเรื่องที่ปิดไว้ ซึ่งโชคดีที่มีพี่ๆแล้วก็คนในครอบครัวช่วยเหลือกัน ซึ่งพอคุณแม่แข็งแรงก็บอกว่าคุณพ่อท่านไปแล้วนะ ซึ่งคุณแม่ก็เป็นคนที่เข้มแข็งมาก เขาก็แบบเสียใจแต่ท่านก็มีวิธีคิดที่ทำให้ผ่านตรงนั้นมาได้”

แล้วในช่วงของชีวิตเรารู้ชะตาชีวิตของเราล่วงหน้าไหม
“เรารู้ครับ คือ ดวงเราอาจจะไม่เท่าไหร่ เราไปดูดวงของพี่สาวเขามีปัญหาหลายๆอย่างเกิดขึ้นเราก็ระวังนะ”

Advertisement

เห็นว่าไม่เคยคิดว่าเลยว่าตัวเองจะมาเป็นหมอดู แล้วมาอยู่ตรงจุดนี้ได้ยังไง แล้วก่อนหน้านี้ทำอาชีพอะไร
“อาชีพที่ไม่ใช่หมอดูคือ อาชีพตกงาน เป็นผู้ว่างงานเลยเพราะผมเรียนจบในยุค IMF คือ จริงๆผมเรียนจบวิศวกร เพียงแต่ว่าใครที่อยู่ในยุคนั้น IMF เป็นวิกฤตหนักของบ้านเมืองธุรกิจที่พังก่อนอย่างแรกคือ อุตสาหกรรม อสังหา ก่อสร้าง ผมดันเรียนตรงสายเลยตรงเป๊ะ กับอันที่กำลังเจ๊งกันอยู่ก็เลยไม่มีงานทำ จริงๆมันมีเรื่องมากกว่านั้น จริงๆเรียนวิศวกรเรียนเพราะคุณพ่อ เพราะท่านเป็นวิศวกร แล้วคุณพ่อทำโรงงานอุตสาหกรรม ผลิตพวกผลิตภัณฑ์คอนกรีต เสาไฟ เราก็ถูกวางไว้แล้วเพราะเราเป็นลูกชายคนเดียวของบ้าน เพราะเรามีแต่พี่สาวทั้งหมดสามคน เราก็ตั้งใจเรียนเพื่อที่จะมาดูโรงงานต่อไม่ได้ตั้งใจที่จะไปทำอาชีพอื่นเลย

แต่ว่าเรื่องดวง คุณพ่อ ของผมเองท่านก็เป็นคนที่ชอบในเรื่องนี้ ท่านก็ศึกษาเรื่องพวกนี้อยู่แล้วท่านก็รู้จักอาจารย์เยอะ ท่านก็พาเราไปฝากที่เราไปเรียนคือ เราอยากได้เงินเพิ่มเพื่อมาซื้อขนม และผมเองก็ไม่ได้มีสัมผัสพิเศษอะไรเลย จะบอกพี่ฉอด ว่าเด็กๆเป็นคนขี้อายด้วยไม่กล้าพูดด้วย และจริงๆที่ไปเรียนเพื่อให้พ่อสบายใจแล้วก็ไม่คิดว่าจะมาเป็นอาชีพ แต่มีวันหนึ่งผมไปเจออาจารย์ที่เป็นพระท่านก็บอกว่าต่อไปเราจะเป็นหมอดูดัง เราก็แบบไม่ได้ เราเรียนวิศวกร เรียนจบมาเราต้องไปดูโรงงานเราก็คิดว่าไม่จริงหรอก คือ ต้องเข้าใจนะครับ ในยุคนั้น หมอดู ดังนะ แต่จะดังได้คือต้องมีวัยวุฒิ คุณถึงจะเป็นหมอดูได้ ซึ่งเราก็คิดว่าไม่มีทาง แล้วตอนเด็กๆคือ บ้านเรามีเงิน มีฐานะสบาย จบไปก็ไปทำงานที่โรงงานเพราะตั้ง 2 โรงงาน คนทำงาน 300-400 คน สบายอยู่แล้วมีชีวิตแบบลูกคุณหนู คือผมโชคดีตอนที่ผมเกิดมา พี่สาวสามคนที่เกิดมาก่อนยังลำบากอยู่เพราะว่าต้องบอกไว้ก่อนว่าคุณพ่อของผมเป็นเด็กไว้มาก่อนแล้วมาเรียนในกรุงเทพแล้วท่านก็สู้ชีวิตมา พอเราโตธุรกิจเราก็เริ่มขยาย เลยทำให้วันนั้นเราไม่เคยคิดเลยว่าเราจะมาเป็นอาจารย์ช้าง

Advertisement

คิดว่าเราต้องไปเป็นนายช่าง ดูแลโรงงาน นั่นคือสิ่งที่ตั้งใจไว้ แต่เพราะ IMF มันทำให้หลายธุรกิจ รวมถึงธุรกิจในบ้านไปไม่รอด ทำให้จากที่เราเคยมีๆค่อยๆหายไป รถที่เคยมีช้ชีวิตสบาย ต้องมาขึ้นรถเมล์เพราะมันโดนยึดเพราะไม่มีเงินจ่าย หมดเกลี้ยงเลยอะไรที่เป็นทรัพย์สมบัติเขาก็มายึดไป เรียกว่าล้มละลาย คือ ทุกอย่างหายไปในข้ามคืน จากนั่งรถเบนซ์อยู่ตื่นมาต้องมานั่งรถเมล์ แต่ผมเป็นคนแปลกคนเห็นหนึ่ง ผมมองอะไรให้มันเป็นเรื่องฮา เพราะคุณพ่อ เป็นเด็กต่างจังหวัด เป็นเด็กวัด เวลาท่านสอนเราคือ ไม่ให้รวยแล้วลืมตัว เพราะค่าขนมผม คือ ให้พี่สาวทั้งสามคนมาลงขัน เพราะท่านจะให้เราได้มีความสำนึกว่าที่เราเรียนจบมาเพราะพี่สาวลงขันกัน แต่พอเรากลับมาช่วงที่เราลำบากก็ลำบากขึ้น แต่ว่าเราถูกสอนในเรื่องราวเหล่านี้ ในช่วงที่เราสบายมาพอสมควร ตอนนั้นล้มละลาย คือ ผมเรียนจบเรียบร้อยแล้ว อายุประมาณ 20 ต้นๆเป็นเรื่องที่ คือ จบปุ๊บก็ IMF ทันที แต่เราเห็นที่บ้านเดือดร้อนแล้วเราก็คิดว่าเราอย่าไปสร้างอะไรให้ที่บ้านเดือดร้อนอีกเลย ก็ไม่ขอเงิน ตั้งแต่เรียนจบผมก็ไม่เคยขอเงินคุณพ่อคุณแม่เลยสักบาทเดียว มันเป็นเหตุผลที่ทำให้เรามาเริ่มอาชีพนี้”

และอีกอย่างที่จะไม่ถามไม่ได้เลย คือ เรื่องของความรักเพราะเป็นคนที่ดวงจะพลัดพรากจากคนรักแล้วตอนนี้คบกับแฟน ซึ่งเป็นภรรยาแล้ว ทำไมไม่มีคนทราบเรื่องนี้ ไม่มีแม้จะออกสื่อ หรือไม่แม้กกระทั่งเห็นในโซเชียลเลย
“คือผมเป็นคนเปิดเผยเรื่องคู่นะ แต่ไม่ได้ปิด แต่คือโซเชียลอย่าว่าแต่แฟนเลยรูปของผมเองยังไม่ได้ลงเลย เพราะเราเคยลงรูปตัวเองไปแล้วยอดไลท์น้อยมาก แล้วทุกครั้งที่ไลฟ์ประโยคที่เข้ามา ดิฉันเกิดวันนี้เท่านี้ แล้วพอรูปเราลงแล้งยอดตกแล้วแฟนเราเขาก็ไม่ได้ซีเรียส หรือมีความทุกข์กับเรื่องอะไรพวกนี้ มันถึงอยู่กันมานานขนาดนี้ คือ ลำบากเราก็ลำบากด้วยกัน ตอนมีก็มีด้วยกัน ชีวิตวันนี้ ก็มีเป้าหมายหลายอย่างต่อไปก็อยากจะมีลูกกับเขาบ้างบางทีเราทำงานจนลืม จนลืมมีลูก คือ เราคิดว่าต้องมีลูกเพราะว่าพี่ๆทั้งสามคนไม่มีใครมีเลยเพราะเขาก็ทำงานหนัก เราก็วางแผนไว้แต่เราก็เป็นคนที่มีลูกยาก ที่เราดูดวงตัวเองต้องอาศัยวิทยาศาสตร์ และไสยศาสตร์ควบคู่กันไปแต่ว่าไม่ได้คาดหวังอะไรนะคือ มีก็มี ไม่มีก็ไม่มี”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image