ปุ้ย พิมลวรรณ พิธีกรคนดัง เล่าว่า ช่วงปี 2563 ที่ผ่านมา เธอป่วยด้วยอาการไทรอยด์เป็นพิษ ซึ่งส่งผลกระทบต่อร่างกายหลายอย่าง ซึ่งล่าสุดเมื่อคืนนี้ (10 มกราคม) เธอได้อัพเดทผ่าน @ puipimonwan ว่า ‘ตอนนี้ค่าไทรอยด์กลับเป็นปกติได้ 1 เดือนแล้วค่ะ ซึ่งเป็นเคสที่เร็วมากคุณหมอชม ☺️และอาการข้างเคียงแต่ละอย่างค่อยๆดีขึ้นตามลำดับจนจะเป็นปกติใน 3 เดือนข้างหน้า ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ✌🏻✌🏻’ ขณะเดียวกันก็ได้นำข้อความจากเฟซบุ๊ก Hoonthongkam Pimonwan ที่เล่าถึงอาการโดยละเอียดเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม มาลงอีกครั้ง โดยหวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่คนอื่นได้บ้าง
‘บันทึกปี 2020
เป็นปีที่เข้าออกโรงพยาบาลบ่อยมากที่สุดในชีวิตเดือนละ 4 วัน(ไม่นับของคุณตา)วันเจาะเลือด และวันฟังผล สาเหตุจากไทรอยด์เป็นพิษ ซึ่งกว่าจะตรวจเจอก็ขึ้นตาขวาเป็นอันเรียบร้อย ทำให้มีอาการข้างเคียงเยอะแยะมากมายไปหมด
•หัวใจเต้นผิดจังหวะ ซึ่งในต้องตรวจละเอียดถึงขั้นอัลตราซาวด์หัวใจ เดินสายพาน ตรวจกล้ามเนื้อหัวใจ แต่ไม่ได้ตรวจเลือด วินิจฉัยตอนแรกว่าเป็นกรดไหลย้อนอยู่ตั้งเกือบ 5 เดือน
•metabolism ทำงานผิดปกติ คือเหงื่อออกมากกว่าคนปกติน่าจะ 3-4 เท่า ฝึกโยคะทีนึกว่ามีคนเอาน้ำใส่ถังมาราดตัว ระบบการเผาพลาญในร่างกายมีมากขึ้น ส่งผลให้เกิดอาการเหนื่อยง่ายเดินขึ้นบันไดก็หอบ หูอื้อ พูดออกเสียงไม่ชัด ใจสั่น มือสั่น ทำให้ผอมลงเยอะมากซึ่งผอมเนี่ยเป็นสิ่งเดียวในอาการข้างเคียงที่ชอบนะ
•ผมร่วงหนักมาก อันนี้เครียดที่สุด เพราะต้องคอยระวังอย่างที่สุด ถึงกระนั้นก็ร่วงออกมาเป็นกำๆ คำว่ากำๆนี้คือ กำหนามากๆ เก็บทิ้งเองทุกวัน ถามอาจารย์หมอตลอดเมื่อไหร่จะดีขึ้นคะๆ
•คันยิบๆทั้งตัวแบบนอนไม่ได้ต้องเอาหลังถูกกับที่นอน ทรมานหนักมากกว่าจะหลับลงในแต่ละคืน
•ประจำเดือนมาไม่ปกติ หายไปหลายเดือนจนนึกว่าไม่มาแล้ว อ้าวยังมาบ้าง สรุปยังไม่วัยทอง แต่อาการหนักกว่านะ
กว่าจะได้เจาะเลือดตรวจเจอ ภูมิคุ้มกันตัวเองก็สร้างบางสิ่งไว้หลังกระบอกตาขวา ทำให้ตาโปนออกมาจากปกติ 1 มิล.จากการตรวจพบก็ทำให้เครียดแบบซึมไปเลยหลายวันเพราะยังต้องรับผิดชอบงานที่รับไว้ทั้งงานหน้าจอ ในขณะที่งานสกินแคร์ที่รับยังค้างไว้ ไหนจะงานที่โรงพยาบาลศัลยกรรมดับเบิ้ลยู คนจะเข้าใจรึเปล่าว่าป่วยเป็นไทรอยด์ขึ้นตา รึจะคิดว่าเกิดจากศัลยกรรม เดชะบุญบุญเก่ายังมี ความที่ทำงานกับอาจารย์ศัลยแพทย์ อาจารย์พ่อ อาจารย์ศิระชัย จินดารักษ์ สังเกตุเห็นความผิดปกติทางกายภาพ ที่ต้องบอกอย่างนี้เพราะ จริงๆแล้วมีอาการตาบวมเห็นชัดตั้งแต่ ก่อน 2 พ.ค แต่คิดว่าแพ้ ตัว cleansing อะไรประมาณนั้น อาจารย์พ่อบอก “เฮ้ยนี่มันตาไทรอยด์นี่หว่า” จับตรวจเลือดหาค่าไทรอยด์ทันที เทพจริงๆ ผลออกมาโป๊ะเช๊ะ หนักเลยที่นี้ ต้องกราบขอบพระคุณผู้ใหญ่ที่เมตตา ทั้งที่ Polyplus,ที่ดับเบิ้ลยูและที่Trylagina ยังเมตตาให้ทำงานที่รับผิดชอบต่อ ขอบคุณตึกช่วยแต่งตาให้เท่ากัน จิ๋วช่วยทำผมบางร่วงเกือบหมดหัวให้ดูเยอะและสวยออกหน้าจอได้ตลอดเกือบ 6 เดือนที่ผ่านมา จนถึงวันนี้อาการ จากไทรอยด์ค่าเป็นพิษขีดสุด ตรวจรับยาทุกเดือนจาก อจ.สิระ กอไพศาลที่โรงพยาบาลรามา จนค่ากลับเป็นปกติภายใน 4 เดือน พอค่าไทรอยด์ดีเป็นปกติ ตาโปนก็เริ่มดี ทางเราก็ยังคงตื่นเช้าส่องกระจกตรวจอาการเองทุกวัน ในขณะที่อาการข้างเคียงอื่นๆเริ่มดีขึ้นตามลำดับ
กลับมาเรื่องตาโปน ทำให้เกิดความผิดปกติทางกายภาพ ตา 2 ข้างไม่เท่ากัน คือเหลือกไม่เท่ากันนั่นแหละ หลับตาข้างขวาไม่สนิท ตาแห้งต้องหยอดน้ำตาเทียม หลังเข้า CT scan ส่วนสมองคุณหมออ่านผลว่าร่างกายมันสร้างไขมันออกมาปกคลุมหลังกระบอกตา ทุกวันนี้ บางครั้งปวดหัวเป็นไมเกรน ปวดร้าวกระบอกตาจนถึงด้านหลังศรีษะซีกขวา แต่การเข้าเครื่อง CT scan มีข้อดีทำให้รู้ว่านอกจาก antibodies สร้างไขมันหลังกระบอกตาแล้วดันให้ตาดำโปนออกมาแล้ว นอกนั้นทุกอย่างออกมาดีมาก แก่ไปไม่เป็นโรคเกี่ยวกับสมองไม่เป็นอัลไซเมอร์แน่นอน
และดีในความเจ็บไข้ได้ป่วยนั้น ยังมีเรื่องราวดีดีให้น่าจดจำ การไปโรงพยาบาลรามาบ่อยๆ ทำให้ได้มีโอกาสทำบุญเพื่อผู้ป่วยยากไร้ ได้ช๊อปปิ้งของจากมูลนิธิรามา ได้พาคุณตาไปตรวจความดัน ใช้เวลากับพ่อมากขึ้น เดินวิ่งแบบไม่เคยทำมาก่อน ฝึกโยคะ ฝึกสมาธิ หัดปล่อยวาง ได้บ้างไม่ได้บ้าง ได้อยู่บ้านใช้เวลากับครอบครัวมากขึ้น ที่สำคัญได้นอนมากขึ้น มากขึ้นจริงๆ
ยังไงก็แล้วแต่เรื่องราวเหล่านี้กำลังจะผ่านไปพร้อมกับปี 2020.นี้แล้ว
ยินดีที่เข้ามานะ ไม่เคยเสียใจเลย ขอบคุณที่ทำให้เข้มแข็งอีกระดับสุด ไม่มีอะไรทำร้ายหัวใจเราได้อีกแล้วล่ะ
ขอต้อนรับเรื่องราวใหม่ๆที่กำลังจะเข้ามาในปี 2021.ที่จะถึงนี้ด้วย
* Say yes to new adventures.
* Bye Bye 2020, Welcome 2021.
2021 Goals, Be happy.
เป้าหมายในปี 2020 : มีความสุข’