เซ็กซี่ตัวแม่ กิ๊บซี่ วนิดา กับภาพจำตำนานเกิร์ลกรุ๊ปสุดแซ่บ

เซ็กซี่ตัวแม่ กิ๊บซี่ วนิดา กับภาพจำตำนานเกิร์ลกรุ๊ปสุดแซ่บ

ชื่อ วนิดา เติมธนาภรณ์ อาจส่งผลให้หลายคนรู้สึกงงๆ ว่าเธอคือใคร?

แต่ถ้าเปลี่ยนไปเป็น กิ๊บซี่ เกิร์ลลี่ เบอร์รี่ คราวนี้หลายคนคงอ๋อ….เพราะความเป็นหนึ่งในเกิร์ลกรุ๊ปสุดแซ่บยังตราตรึงในความทรงจำ

“เข้ามาตอนอายุ 14 ค่ะ” กิ๊บซี่ย้อนอดีตเล่าในรายการ ‘ต้มยำอมรินทร์’ ที่ CHANGE2561 ผลิตเพื่อออกอากาศทางช่องอมรินทร์ทีวี

บอกด้วยว่าตอนนั้นไปเดินเล่นที่สยามสแควร์ สถานที่ยอดฮิตอยู่ดีๆ แล้วก็มีโมเดลลิ่งมาติดต่อ จากนั้นก็เริ่มมีงานถ่ายแบบลงหนังสือแมกกาซีนวัยรุ่น แล้วตามมาด้วยการถ่ายโฆษณาสินค้า

Advertisement

“เป็นสแตนด์อิน” เล่าพลางหัวเราะ

“เพราะเรามีรูปร่างเท่ากับนางเอกของโฆษณาตัวนั้น เลยได้ แต่ไม่เห็นหน้าเรานะคะ เห็นแค่แขน ขา”

เล่าอีกว่า ก่อนหน้านั้นคือแต่ไหนแต่ไรมา ไม่เคยคิดเลยว่าจะเข้ามาทำงานในวงการบันเทิง แต่เมื่อได้รับข้อเสนอและเห็นว่าไม่ได้เบียดบังเวลาเรียนนักจึงตอบรับ จากนั้นงานแสดงมิวสิควิดีโอและอื่นๆก็ทยอยเข้ามาหา ส่วนงานร้องเพลงที่สร้างชื่อให้น่ะ ครั้งแรกที่ไปออดิชั่นเพื่อเป็นนักร้อง เธอไม่ผ่าน

Advertisement

“เขาฟังแล้ว เขาน่าจะตกใจ” เจ้าตัววิเคราะห์ พลางหัวเราะ

ครั้น อั๋น ภูวนาท คุนผลิน พิธีกร ถามว่าจริงๆแล้วเป็นคนร้องเพลงเพราะไหม? กิ๊บซี่บอก ตอนนี้คือพอร้องได้ “แต่ตอนแรกคือร้องไม่เป็นเลย”

“หายใจก็เพี้ยน ขนาดที่เราอัดคือแก้ทีละคำ คือเพลงหนึ่งอัดเป็นเดือน ไม่เสร็จ”

ดังนั้นพอได้รับเลือกเธอจึงต้องเข้ารับการฝึกฝนแบบ “เรียนทุกวัน ฝึกทุกวัน”

“ในวงจะมีคนที่มีพื้นฐานและแข็งแรงอยู่แล้ว เขาก็ได้รับตำแหน่งที่จะร้องนำ ร้องหลักคือเบลล์ (มนัญญา ลิ่มเสถียร) เป็นเด็กที่เรียนร้องเพลงมา ประกวดร้องเพลงมา มีพื้นฐานการเต้นมา แต่สำหรับเราไม่มีอะไรมาเลย เป็นคนที่ทั้งร้องไม่ได้และเต้นไม่ได้ ซึ่งเกิร์ลลี่เบอร์รี่อยู่ด้วยกันมา 10 ปี ตั้งแต่แรกจนถึงวันสุดท้ายที่แยกจากกัน ไม่ค่อยเต้นพร้อมกันเลย” เธอบอกพลางหัวเราะ

จากนั้นก็ว่า “ทุกคนก็หาเหตุผลที่เต้นไม่พร้อมกัน เพราะทุกคนมีไลน์เต้นที่ชัดเป็นของตัวเอง จนทีมบอกไม่เป็นไร แต่เราก็ฝึกฝนตลอดนะคะ กิ๊บร้องเพลงไม่ได้ แต่เราก็เรียนร้องเพลงตลอด จนไม่ได้เป็นนักร้องแล้วแต่ก็ยังเรียนอยู่เพราะเป็นสิ่งที่เราชอบ แต่เราไม่มีพรสวรรค์ทางนี้”

เรื่องเป็นนักร้องสายเซ็กซี่ นี่ก็มีเหตุผล โดยเธอว่าตอนแรกคือออกมาในคอนเซ็ปต์ของ J – Pop ใส่บูทสูงๆ กระโปรงลายสก๊อต แต่ไม่เกิด

เงียบหายไปเลยสองปี จนทางค่ายตัดสินใจปรับลุคอีกครั้ง

“ให้ดูเป็นสาวขึ้น ดูเซ็กซี่มากขึ้น”

ผลก็คือ ปังปุริเย่

“กางเกงขาสั้นมากในตอนนั้น”

อย่างไรก็ดี “ถ้าตอนนี้ใส่ไปเดินตลาดคือเฉยๆ”

“ถามว่าเราตกใจไหมในตอนนั้นที่เห็นชุด ตกใจมาก เพราะเมื่อก่อนเป็นสาวหวาน แต่งตัวสไตล์โบฮีเมียน เป็นคนไม่ได้เปรี้ยวอะไรเลยนะคะ แต่พอมันเกิดการหล่อหลอมด้วยงานมาเรื่อยๆ ก็กลายเป็นคนที่ติดใส่กางเกงขาสั้น แต่ตอนนี้โตขึ้นก็ใส่ขาสั้นน้อยลงนะคะ มีคนบอกว่าเราแต่งแบบอาม่าด้วย เพราะเวลาไม่ได้ไปงานหรือทำอะไรก็ใส่เสื้อยืด กางเกงยีนส์ธรรมดา ไม่แต่งหน้า มัดผมแบบบ้านๆ แล้วก็ใส่ขายาวบ่อยขึ้นด้วย เพราะชอบไปเดินตลาด ตลาดคลองเตย ซุปเปอร์มาร์เก็ตต่างๆ ไปเยาวราช ซื้อของมาทำกับข้าวเอง จัดดอกไม้ ทำความสะอาดบ้าน จนเพื่อนๆเรียกว่านางเก็บ เพราะว่าของที่บ้านคือต้องเป๊ะมาก วางให้ถูกที่ถูกทาง ให้อยู่ที่เดิม”

เรื่องเที่ยวกลางคืน กิ๊บซี่บอกแม้หน้าจะให้ แต่ในความเป็นจริงเธอชอบอยู่บ้านมากกว่า

“ชอบอยู่ที่บ้าน นัดเพื่อนมาบ้านมากกว่า ไม่ชอบไปที่เที่ยว หน้าตากิ๊บดูเป็นคนไปเที่ยวใช่ไหม แต่ไม่เที่ยว ชอบปาร์ตี้อยู่ที่บ้าน”

ข่าวที่ว่าเธอไม่ค่อยรับงาน ก็ไม่ใช่

“รับนะคะ” ยืนยันอย่างนั้น

“แต่ไม่รับละครซ้อนกัน เพราะคิดว่าทีละอันดีกว่า ถ้าซ้อนกันคือ 7 วัน หนักนะ เครียดด้วย เคยรับซ้อน จนแม่ทักว่าดูเครียดๆนะช่วงนี้ เพราะเวลาที่เราอยู่ในกอง เราต้องใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นทั้งวัน ตั้งแต่ 7 โมงจนถึงเที่ยงคืน แล้วตื่นมาเราก็มาแบบนี้อีก เลยอยากหาเวลาที่ทำให้เรามีความสุขบ้าง เช่น การไปตลาด ทำอาหาร และมีความสุขกับการร้องเพลง”

และเพราะ “สุขกับการร้องเพลง” กิ๊บซี่เลยว่าเธอยังคงคิดถึงและมีไปแจมๆร้องกับเพื่อนฝูงอยู่บ้าง “แต่ถ้าให้กลับมาเป็นวง คงไม่”

“ส่วนการแสดงก็คืองาน แต่ถ้าถามว่าชอบอะไร ชอบร้องเพลง แต่เรียนแทบตาย ก็ได้ในระดับหนึ่ง ส่วนการแสดงไม่ได้เรียน แต่ใช้คำว่า เอาตัวรอดแล้วกันนะ ไม่ได้เก่ง ไม่ได้เป็นนักแสดงมืออาชีพอะไรมาก แต่ก็เอาตัวรอดได้”

โดยเฉพาะกับบทที่ได้รับบ่อยคือ “ตบเก่งมาก ตบทุกคน”

ส่วนกับผลงานเรื่องล่าสุด ‘The Secret เกมรัก เกมลับ’ ที่เล่นคู่กับนิว วงศกร และออกอากาศให้ชมทาง LINE TV ทุกวัน พฤหัสบดี เวลา 20.30 น. กิ๊บซี่บอกว่า แม้จะมีที่ต้องตบกันบ้าง หากก็มีเรื่องอื่นเข้ามาให้น่าค้นหาด้วย

“เพราะเรื่องนี้มีผู้หญิง 5 คนแย่งชิงผู้ชายหนึ่งคน วุ่นวายที่สุด เลิฟซีนก็ที่สุด เป็นเลิฟซีนที่เราเกร็งมาก เพราะไม่ค่อยถนัดเล่นฉากนี้ คือก็ไม่ได้เขินนะ แต่แค่ไม่รู้ว่าต้องประมาณไหน ซึ่งเรื่องนี้ถึงจะเห็นแต่ละคนคือมีบทเลิฟซีนเยอะมาก แต่จริงๆแล้วมันมีความลับที่เป็นปมซ้อนอยู่ในเรื่อง”

ซึ่งอยากให้ติดตามดูกัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image