ผู้เขียน | เจ๊กาก |
---|
ฮ้ายยยยยยย…
วันนี้ไม่อยากเกริ่นอะไรมาก แต่ฝากไปถึง เจมส์ – จิรายุ ตั้งศรีสุข ที #บอกเค้าไปว่าชั้นชอบเค้า คริคริ
คือแบบติด ‘ปดิวรัดา’ หนักมาก ถึงขนาดเร่งวันเร่งคืนให้ถึง 20.20 น. วันพุธ – พฤหัสฯ ไวๆ เพื่อจะได้เฝ้ารอหน้าจอช่อง 3 แถมว่างเป็นไม่ได้ต้องไปไล่อ่านบทโทรทัศน์ตามเว็บไซต์ เพราะอยากรู้ว่าตอนหน้าเป็นยังไง ทั้งๆ ที่ตอนฟิตติ้งสารภาพว่า เจ๊นี่ล่ะเป็นหนึ่งในผู้หัวเราะเยาะหนวดกากๆ ของนุ้งเจมส์
ก็แหม, ขุ่นปลัดหน้าอ่อนจนไม่เข้ากับหนวดที่เหมือนเอาดินสอเขียนคิ้วแม่มาวาดเล่นซะขนาดนั้นอ่ะแกรรร
ไม่เชื่อดู…
แต่ด้วยความที่เชื่อมือขุ่นพี่คิง – สมจริง ศรีสุภาพ แห่ง ค่ายกู๊ด ฟีลลิ่ง ผู้เคยฝาก ‘สุภาพบุรุษจุฑาเทพ’ ตอน ‘คุณชายปวรรุจ’ ไว้ในอ้อมใจ รวมถึงชอบเคมีคู่เจมส์ จิ กับเบลล่า – ราณี แคมเปน เป็นทุนเดิมเลยยอมเปิดใจดู สุดท้ายจึงติดหนึบอย่างที่เห็นนั่นล่ะฮะทั่นผู้ชม
ส่วนใครไม่เคยดูมามะ กาก ระพี จะเล่าให้ฟัง….
“ปดิวรัดา (ปะ – ดิ – วะ – รัด – ดา) หมายถึง ภรรยาผู้ซื่อสัตย์และภักดีต่อสามี” (ระหว่างอ่านประโยคนี้กรุณาทำเสียงแบบเบลล่าตอนเปิดเรื่อง) ซึ่ง ‘พี่เก่า’ พี่ชายผู้เชี่ยวชาญทางประวัติศาสตร์ตั้งข้อสังเกตว่าชื่อเรื่องน่าจะมาจากสร้อยพระนาม ‘พระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิยมหาราชปดิวรัดา’
โดยหนังสือ ‘ลูกแก้วเมียขวัญ’ ของ ศันสนีย์ วีระศิลป์ชัย เล่าไว้ว่า “ทรงเป็นพระมเหสีที่รัชกาลที่ 5 ทรงสนิทเสน่หาและมีพระเมตตาเป็นพิเศษ อันน่าจะมาแต่การที่ทรงมีพระราชนิยมต้องกัน รวมทั้งการที่มีฝีพระหัตถ์ในการปรุงอาหารคาวหวาน”
“ในบั้นปลายพระชนม์ชีพทรงเลือกที่จะประทับ ณ วังสวนสุนันทา ตามพระราชประสงค์ในรัชกาลที่ 5 ก่อนเสด็จสวรรคต ซึ่งพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงตระหนักถึงพระอัธยาศัยและพระจริยวัตร ตลอดจนความจงรักภักดีต่อรัชกาลที่ 5 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าเลื่อนพระอิสริยยศเป็นพระวิมาดาเธอ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ถวายสร้อยพระนามว่า ปิยมหาราชปดิวรัดา อันมีความหมายว่า ทรงเป็นพระมเหสีที่ซื่อสัตย์ จงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระปิยมหาราชเป็นอย่างยิ่ง”
จากความไพเราะและความหมายกินใจของสร้อยพระนามดังกล่าว สราญจิตต์ นักเขียนชั้นครูจึงได้หยิบมาถ่ายทอดเป็นนิยายผ่านเรื่องราวของ ‘ริน ระพี (เบลล่า)’ หญิงสาวกำพร้าที่ตอบแทนพระคุณผู้เลี้ยงมาด้วยการยอมปลอมเป็น ‘บราลี’ ลูกสาวคนโตของครอบครัวเพื่อไปแต่งงานกับลูกผู้ดีตกยากอย่าง ‘ปลัดศรัณย์ (เจมส์ จิ)’ ตามสัญญาที่พวกผู้ใหญ่เคยให้กันไว้ แถมยังต้องย้ายตามเขาลงไปปราบโจรที่ปักษ์ใต้อีกต่างหาก
แม้เรื่องราวจะน้ำเน่าหนักมาก แถมตีพิมพ์ครั้งแรกปี 2496 นู่นนน แต่ในเนื้อหากลับมีความละเมียดละไม มิหนำซ้ำคติสอนใจซึ่งแทรกอยู่ในทุกตอนก็ไม่ได้เก่าไปตามยุค ทำให้ผู้ชมอย่างเจ๊พอจะเข้าใจนะว่าทำไมคนรุ่นเก่าๆ ที่ถูกคลุมถุงชนถึงครองคู่อยู่ยั้งยืนยงกันมากๆ
ที่สำคัญคือต้องปรบมือดังๆ ให้ขุ่นพี่บ๊วย – นันทวรรณ รุ่งวงศ์พาณิชย์ คนเขียนบทโทรทัศน์ ผู้ทำให้ละครสนุกทุกเบรก ครบทั้งโรแมนติก ตลก แอ็คชั่นในคราวเดียวจนเจ๊นี่เดี๋ยวหัวเราะ เดี๋ยวเขิน เดี๋ยวลุ้นประหนึ่งเป็นไบโพล่าร์
แล้วยิ่งกับหลายๆ ฉากที่ขุ่นปลัดออกปราบโจร พร้อมกับปลุกระดมลูกน้องและชาวบ้านให้เชื่อในศรัทธาของความดี ศรัทธาของการทำเพื่อแผ่นดินที่จะชนะได้ทุกอย่างแม้แต่คุณไสยเวทมนตร์ นี่คือดีงามจนอยากจะให้เหล่าข้าราชการไทยได้ดูเรื่องนี้กันมากๆ เผื่อชีวิตชาวบ้านตาดำๆ อย่างเจ๊จะดีขึ้น อุ๊บส์!
นอกจากนี้ความพิถีพิถันของผู้จัดที่ให้รายละเอียดกับทุกสิ่งอัน ยิ่งทำให้ฟินลืมมมม
#อะไรคือการดูเบลล่าทำน้ำพริกลงเรือแล้วหิวข้าวตอน 4 ทุ่ม #อะไรคือเห็นเจมส์จิดมเสื้อผ้าอบบุหงารำไปแล้วรู้สึกหอมอบอวลไปด้วย
ส่วนคนที่ตั้งแง่ว่าพอคู่จิ้นมาเจอกันมันต้องเอะอะล้ม เอะอะจ้องตาเพื่อเอาใจเอฟซี บอกเลยค่ะว่า “ผิด!!!” เพราะเรื่องนี้มีความหลากหลายมากในฉากชวนเขิน เช่น ฉากคุณปลัดแกล้งหอมหมอนริน (จงอ่านอย่างระวัง) ฉากทั้งคู่ช่วยกันเก็บเมล็ดทานตะวัน ฯลฯ
ขณะที่นักแสดงทั้งตัวสมทบ ตัวหลักก็เล่นดีมีคุณภาพอีกแล้วครับทั่น รวมถึงพระนางที่แรกๆ ถูกวิจารณ์หนักเรื่องรูปลักษณ์ คุณสมบัติผิดจากบทประพันธ์ไปมาก แต่สุดท้ายก็พิสูจน์แล้วว่าของยังงี้มันอยู่ที่ฝีมือ โดยเฉพาะเจมส์ จิ ที่ไม่เคยเป็นหนุ่มในสเป็คของเจ๊ แต่พอมาเจอฮีในบทบาทปลัดศรัณย์ ผู้ดุเด็ดเผ็ดมันส์จริงจังทั้งเรื่องรัก เรื่องงาน
เจ๊บอกตรงๆ กับหญิงไทยทั้งประเทศเลยว่า “ขอได้ไหม ไหว้ล่ะ _/\_”
ยิ่งเจอช็อตนี้จากไอจี ‘padi_waradda’ เข้าไป บอกเลย “ตูตายว่ะ”
บัยย์