สำหรับแฟนๆที่ติดตามละครเรื่อง ‘ดาวคนละดวง’ คงได้เห็นภาพและเรื่องราวต่างๆที่ปรากฏอยู่หน้าจอของช่อง 3 HD ทุกวันจันทร์และอังคาร เวลา 20.20 น. ไปชนิดที่ ‘มติชน’ คงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องบอกอะไรเพิ่ม
อย่างไรก็ดีวันนี้ 3 นักแสดงนำ คือ เกรท วรินทร ปัญหกาญจน์ , บูม สุภาพร วงษ์ถ้วยทอง และ ป๊อบ ฐากูร การทิพย์ จะมาแทคทีมเล่าถึงเบื้องหลัง สิ่งต่างๆที่ไม่ได้ปรากฏบนหน้าจอ
“เรื่องนี้เราสวยมากจริงๆ” บูม สุภาพร เริ่มต้นด้วยการคุยถึงคาแรคเตอร์ของตัวละคร ‘ชลันธร’ ที่เธอได้รับ
ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจเรื่องจะมีหนุ่มๆมาหมายปอง ทั้ง ‘ธนัท’ ที่รับบทโดยเกรท ‘วสันต์’ ที่รับบทโดยป๊อบ แต่ยังรวมถึง ‘เจ้าสัวสุนัย’ ที่เพชร ฐกฤต ตวันพงศ์ สวมบทบาท
แต่เดี๋ยวก่อน แม้จะเป็นอย่างนั้น หากเกรทยืนยันว่า ตัวเรื่องทั้งหมดน่ะออกแนวละครบู๊แอ็คชั่น “แต่เนื้อเรื่องดำเนินไปโดยมีความรักเข้ามา มีการสืบสวน สอบสวน ไขคดี”
ขณะที่ป๊อบเสิรม “ดราม่าก็เท่าๆกับบู๊เลยนะ ศึกรักไม่แพ้ศึกรบ” เขาว่า
และเพราะเป็นแนวบู๊แอ็คชั่นนั่นแหละ ที่ทำให้แต่ละคนได้แผลมาเป็นที่ระลึก ซึ่งของเกรทนั้นเบาหน่อย แค่รอยข่วน ของบูมเธอก็ว่าแม้จะปรากฏตัวอยู่ในฉากเหล่านั้นบ่อยครั้ง แต่เธอก็เป็นแค่องค์ประกอบ ประเภท ยืนมอง หรือไม่ก็ถูกยึดเป็นตัวประกัน แต่กระนั้นก็มีอยู่บ้าง จากเหตุแห่งรัก ด้วยบูมบอก ขณะที่รักแบบวสันต์เป็น ‘รักขำขัน’ รักกับธนัทเป็น ‘รักทนุถนอม’ แต่รักของเสี่ยสุนัย คือ ‘รักตบตี’ ดังนั้น “เราก็ต้องมีบู๊ มีอาบเลือดเหมือนกัน”
แต่ผู้ชนะเลิศในแคมเปญนี้ ไม่มีใครเกินป๊อบ เพราะนอกจากจะเจอตะคริวเข้าให้หลังเข้าฉากต่อยมวย ที่เจ้าตัวว่าวันนี้มีทีมไปเก็บภาพ ทำข่าว ซึ่งตอนถ่ายทุกอย่างไปได้ด้วยดี
“ผมกำลังฟิต ภาพออกมาดูดี แต่พอนักข่าวกลับไป โห..ตะคริวมันมาขาอ่ะ”
จากนั้นก็ค่อยๆลามขึ้นท้อง แล้วก็ไปทั่วตัว
นี่ขนาดดูแลร่างกายมาพักใหญ่ก่อนถ่ายทำแล้วนะ เขาโอด
และเกรทเองก็เห็นด้วย “ผมก็รู้สึกอย่างที่ป๊อบบอก มันเหนื่อยจริงๆ เราว่าเราออกกำลังกายนะ แต่มันถ่ายหลายเทค หลายคัท ถ่ายยาว แล้วก็มีแคบ ถ้าไม่เรียกความฟิตตัวเอง พอไปฉากอื่นๆ เดี๋ยวจะแย่”
“จริงๆก่อนพวกเราจะบู๊ ก็ไปเรียนนะ เรียนยิงปืน เรียนวิธีจับปืน ต่อยมวย ท่าต่งๆต้องทำให้ชิน เพื่อให้ร่างกายมันจำ”
ขณะเดียวกันก่อนแสดงก็ซักซ้อมและนัดแนะอย่างดี ซึ่งเรื่องนี้บูมบอก “เวลาอยู่ในกอง จะเห็นหนุ่มๆซ้อมทวนท่ากันตลอด เพราะถ้าคนหนึ่งพลาด ก็จะไปโดนอีกคนหนึ่ง”
หากกระนั้นป๊อบก็ยังไม่วายเจอเข้าเต็มๆ ในฉากหนึ่งที่ต้องเจอกับ ไผ่ วิศรุต หิรัญบุศย์
“นักแสดงที่เล่นกับเราเขามืออาชีพอยู่แล้ว เขาเซฟเต็มที่”
“มันไม่ใช่ความผิดของไผ่ คือเขาตัวใหญ่ หนักกว่าผม 20 โล ตอนนั้นเขาคร่อมผมอยู่ แล้วต้องต่อยใส่เต็มมาก พี่โหน่ง (กฤษณพงศ์ ราชธา) บอกให้ผมเอาหัวขึ้นมา มันจะได้เฉียดๆ แต่ว่าผมพลาด เอาหัวขึ้นมามากไป ไผ่เลยต่อเข้าปาก โพล๊ะ! แล้วมันเป็นรีแอ็คเลย คือผมจับปาก ฟันยังอยู่ไหม” ป๊อบเล่าด้วยท่าทีที่เรียกรอยยิ้มจากคนรอบข้าง
“และในไม่กี่ชั่วโมงให้หลังก็มีขวดปลอมของไผ่ต่อ ขวดปลอมผมก็ไปดูว่าแข็งไหม พี่เขาบอกไม่เจ็บๆ ขวดแรกก็ใส่น้ำมาพอควร มันก็ใช้ได้เหมือนกันนะ” บอกพลางหัวเราะ
แต่ยังไม่พอ ยังไม่ได้ เทค 2 เลยมา
คราวนี้ป๊อบบอกว่ารู้สึกเหมือนจะโดนช่วงสันขวด แล้วถ่ายเสร็จปุ๊บ เขาก็จับปั๊บ และพบว่า “มันนูนขึ้นมาทันทีเลย”
นอกจากนี้ยังมีฉากสู้กับเพชรที่ใต้ท้องเรือ ซึ่งป๊อบบอกว่าเท่าที่คุยกันคือ “เขาถีบแบบไม่โดน แต่ผมทำท่ากระเด็นออกไป”
“พอ 5 4 3 เพชรก็หันมาถีบโป๊ะ” โอเค-ผู้กำกับให้ผ่าน
ป๊อบให้รายละเอียดอีกว่า ฉากนั้นเป็นการต่อสู้ครั้งใหญ่ ตัวละครทุกคนจึงจะมีเลือดปลอมเลอะเต็มตัว ตอนเปลี่ยนเสื้อเขาเลยจัดการหาผ้ามาเช็ด ๆๆๆ จนเหลืออยู่จุดหนึ่งที่เช็ดเท่าไหร่ก็ยังเห็นรอยแดงๆติดตรึงดู
พอดูให้ชัดๆเท่านั้น ก็ถึงบางอ้อทันที ว่า” ทุกอย่างปลอมหมด ยกเว้นรอยเท้าที่เป็นของจริง”
ขณะที่ในส่วนเลิฟซีน บูมบอกว่าเธอกับเกรทกุ๊กกิ๊กกันมาก ขณะเกรทบอกว่าจริงๆควรจะใช้คำว่าเกินกว่ากุ๊กกิ๊ก
“ช่วงถ่าายเลิฟซีน เป็นคิวที่ต่างจังหวัด ไปหลายสัปดาห์ แล้วก็เลิฟซีนทุกวัน จนมีเลิฟซีนหนักหน่วงมาก แบบมองหน้ากันไม่ติดแล้ว” เล่าพลางยิ้ม
ส่วนเกรทซึ่งเรียกที่นั่นว่า ‘บ้านแห่งความทรงจำ’ บอกว่า การแสดงฉากแบบนี้เขาเองมีความเกรงใจคู่ที่เล่นด้วยอยู่แล้ว จะขอโทษกันก่อน ขณะเดียวกันก็จะคุยกับผู้กำกับว่าอยากได้ภาพแบบไหน จะได้รอบเดียวจบ แต่เอาเข้าจริงฉากนั้น ’18 ตลบ’ ได้ เขาบอก
ในฟากของบูมก็ว่าเธอเองก็ขอโทษเกรทก่อนแสดงเหมือนกัน
“จูบเยอะมากเรื่องนี้”
บูมยังบอกด้วยว่า ในส่วนตัวละครที่เธอเล่นมีความดราม่ามากพอสมควร เวลาแสดงจึงต้องใช้สมาธิอย่างสูง
“ต้องตั้งสติ เพราะมันไม่ง่ายเลย น้ำตาทุกหยดของเรามีค่ามาก เพราะมันไม่ได้มาบ่อยๆ ต้องให้เวลากันมัน ต้องค่อยๆพัฒนา”
เพราะอยากทำให้ออกมาดีที่สุด
ซึ่งเป็นความรู้สึกเดียวกับเกรทและป๊อบเช่นกัน
