‘บอมบ์ นาดาว’ เผยสาเหตุ ‘แพรวา’ ออกจากค่าย โปรเจ็กต์งานค้างยังเดินหน้าต่อ

 

‘บอมบ์ นาดาว’ เผยสาเหตุ ‘แพรวา’ ออกจากค่าย โปรเจ็กต์งานค้างยังเดินหน้าต่อ

หลังจากที่เมื่อช่วงสายของวันที่ มีนาคม รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายดูแลและพัฒนาศิลปิน บริษัท นาดาว บางกอกจำกัด บอมบ์ จงจิตต์ อินทุ่ง และทนาย ได้เข้าแจ้งความผู้ใช้สื่อโพสต์หมิ่นประมาทต่อนักแสดงในสังกัดที่ สถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ

-อ่าน ‘นาดาว’ เข้าแจ้งความชาวเน็ตโพสต์หมิ่น หาประโยชน์เชิงพาณิชย์ ‘บิวกิ้น-พีพี’ และดาราในสังกัด

-อ่าน แพรวา ณิชาภัทร หมดสัญญานาดาว เดินหน้าเป็นนักแสดงอิสระ

Advertisement

ด้านบอมบ์ก็ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อถึงกรณีที่นักแสดงสาว แพรวา ณิชาภัทร ฉัตรชัยพลรัตน์ ได้ออกจากสังกัดว่า

“เขาหมดสัญญาปลายเดือนกุมภาพันธ์ค่ะ ก็ได้มีการพูดคุยกัน จริงๆ ก่อนหน้านี้ทางคุณแม่โทรมาปรึกษาก่อน แล้วก็คุยกัน ซึ่งปกติในส่วนของนาดาวคือเราก็จะมีการพูดคุยกับน้องอยู่ตลอดเรื่อยๆ อยู่แล้ว สำหรับครั้งนี้ก็คือเหมือนคุณแม่เข้ามาคุย แล้วเราก็มีนัดทานข้าวกับน้อง ก็คุยกัน ซึ่งน้องก็มีแชร์ในส่วนของเหตุผลให้เราฟัง เราก็รับฟัง แล้วก็รู้สึกว่าจริงๆ แล้วหลักๆ มันคือเหมือนกับน้องเริ่มโตขึ้น แล้วเขารู้สึกว่าอยากรับงานที่หลากหลายมากขึ้น มากกว่าที่ค่ายมองเอาไว้ แพรวาเขาอยู่กับเรามาตั้งแต่ฮอร์โมน ตั้งแต่เขาเป็นเด็กวัยรุ่นอยู่เลย ตอนนี้เขาเริ่มเติบโตแล้ว แล้วเขาก็มีส่วนที่เขาต้องรับผิดชอบครอบครัว ก็มีหลายๆ อย่าง ที่เขารู้สึกว่าเขาอยากที่จะออกไปรับ อะไรประมาณนี้ค่ะ ก็เข้ามาคุยกัน เราก็เข้าใจถึงเหตุผลของน้อง ก็โอเคค่ะ เพราะจริงๆ แล้วทางฝั่งนาดาว พวกพี่ๆ ไม่ได้คิดว่าการที่น้องจะออกไปอยู่ที่อื่น หรือแม้กระทั่งออกไปดูแลตัวเอง มันคือเรื่องที่ไม่ดี เพราะหลักๆ แล้วเราก็ได้ร่วมงานกับน้องอีก ที่มันจะมีโปรเจ็กต์ W ที่เป็นหนังเรื่องแรกของนาดาวที่ทำกับ GDH แพรวาก็ยังคงได้ร่วมงานกันในพาร์ทนี้อยู่ ล่าสุดเราก็ยังนัดทานข้าวกันอยู่เลย เราเหมือนเป็นครอบครัวที่ดูแลเขามา จนถึงวันหนึ่งเขาออกไปเติบโต ประมาณนี้มากกว่า”

โปรเจ็กต์ทุกอย่างที่มีก่อนหน้านี้ ก็ยังเหมือนเดิมทุกอย่างใช่ไหม
“ใช่ค่ะ”

Advertisement

ก่อนหน้านี้ที่น้องมาปรึกษาว่าอยากออกไปดูแลตัวเอง เราได้ยื่นข้อเสนออะไรไหม
“คือจริงๆ ปกติแล้วเราก็จะแชร์กันค่ะ เหมือนคุยกันว่าเหตุผลคืออะไร ทำไม หลักๆ แล้วจะเป็นแบบนั้น แต่ว่ามันอาจจะไม่ใช่แค่เรื่องที่เราปรับกัน หรือคุยกันขนาดนั้น คือน้องก็จะมีเหตุผลในเรื่องของการที่เขาต้องดูแลครอบครัวด้วยอะไรต่างๆ ซึ่งการที่ออกไปดูแลตัวเอง มันอาจจะโฟลว์กว่า ซึ่งเราก็เข้าใจน้องหมดเลย”

แต่แพรวาก็เป็นเด็กที่เราปั้นมา ทั้งการร้องเพลงและการแสดง
“ก็จริงๆ เรามีความตั้งใจ ว่าเราอยากจะพัฒนาน้องทุกคนในค่ายอยู่แล้ว ให้เขามีผลงาน มีการตอบรับที่ดี อันนี้มันเป็นกับทุกๆ คน เพราะฉะนั้นเแพรวาก็คือหนึ่งในนั้น ที่ทุกคนอาจจะรู้สึกว่า เรามีผลงานให้กับน้อง เราพยายามผลักดันน้อง แต่ว่าทุกคนเราทำเหมือนกันหมดเลย”

เสียดายไหม
“เสียดายไหม จริงๆ ไม่ได้รู้สึกเสียดายขนาดนั้นค่ะ เพราะว่าสุดท้ายแล้ว มันก็คือเหมือนเราเป็นพี่น้องกัน ตอนคุยกันแพรวายังบอกเลยงั้นหนูไปเอาต์ติ้งด้วยนะ คือเราก็เอ้ย…ได้เลย แล้วก็นัดทานข้าวกัน เวลามีอะไรแม่ก็โทรมาปรึกษาตลอดค่ะ”

เป็นห่วงไหม ที่น้องต้องออกไปดูแลตัวเอง
“ถ้าพูดกันตรงๆ ก็คือเป็นห่วงแหละ ก็มีการพูดกับเขา ถ้าสมมติหนูออกไปดูแลตัวเอง ต้องทำยังไงบ้าง เราห่วงเขายังไง เขาควรพัฒนาตัวเองอย่างเต็มที่เหมือนเดิมนะ อันนี้คือส่วนที่เราก็มีการคุยกัน”

ระยะเวลาที่น้องอยู่กับเรามา เป็นอย่างไรบ้าง
“น่ารัก แล้วเขาก็เต็มที่กับการทำงานมากๆ เวลาเราตักเตือนหรือว่าแนะนำอะไร น้องก็พยายามเรียนรู้แล้วก็ปรับตัว เขาจะเต็มที่กับทุกๆ อย่างที่เขาได้รับโอกาส”

สมมุติถ้าเขาไม่ไหว จะกลับมาขอโอกาสกับเราได้ไหม
“ก็ตอนนั้นคงคุยกัน คงมาคุยกันเหมือนเดิมค่ะ ว่าแบบเออเป็นยังไงบ้าง ออกไปแล้วเจอปัญหาอะไรไหม หรือว่าให้พี่ช่วยอะไรหรือเปล่า ก็กันคุยได้”

โปรเจ็กต์เรื่องเพลงที่ปล่อยออกมา 2 เพลงแล้วยังไงต่อไป
“ของเพลงแพรวาจะมีตัวที่เป็นฟีเจอริ่งกับศิลปินนอกค่ายท่านหนึ่ง เดี๋ยวกำลังจะปล่อยค่ะ ซึ่งอันนี้ก็คือเป็นอันที่เหมือนเราติดต่อกันไว้ แล้วก็ดูแลน้องจนจบ บวกกับงานอื่นๆ ที่เป็นลูกค้า เป็นพรีเซ็นเตอร์ที่เราดูแลอยู่ ก็จะดูแลน้องจนจบเหมือนเดิม”

โปรเจ็กต์ของน้องที่ยังเหลืออยู่กับนาดาวจะมีอีกนานแค่ไหน
“ตอนนี้ก็มีภาพยนตร์ W ที่เราเพิ่งแถลงข่าวไป ตอนนี้กำลังเตรียมตัวเรื่องของการเขียนบทอยู่ แล้วก็เดี๋ยวจะมีการถ่ายทำ คิดว่าน่าจะภายในปีนี้”

เรียกว่าแยกย้ายกันด้วยดีใช่ไหม
“แยกย้ายกันด้วยดี แยกย้ายกันด้วยดีทุกคนนะคะ (หัวเราะ)”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image