รับเชิญมาเป็นแขกในรายการ ‘คุยแซ่บโชว์’ ทางช่องวัน 31 แล้ว พอร์ช ศรัณย์ ศิริลักษณ์ ก็เปิดใจว่า ที่ตัดสินใจออกมาเป็นอิสระ ไม่ต่อสัญญากับช่อง 7 ก็เพราะอยู่กันมา 12 ปีแล้ว เลยอยากไปเจออะไรใหม่ๆ ทำงานที่ใหม่ๆ กับคนใหม่ๆ ขณะเดียวกันตอนนี้อายุ 30 ปีแล้ว ก็คิดอยากทำธุรกิจ จึงคิดว่าถ้าออกมาเป็นนักแสดงอิสระน่าจะสะดวกในการโปรโมทสินค้ามากกว่า อย่างไรก็ดีแม้จะไม่ได้มีการต่อสัญญากัน แต่ถ้าในอนาคตสถานีอยากให้กลับมาร่วมงานก็ยินดีมาก
พอร์ชบอกด้วยว่า หลังจากออกมาเป็นนักแสดงอิสระ มีหลายที่ติดต่อมา ซึ่งมี 2 เรื่องที่น่าจะตกลงกันได้ และจะมีการเปิดกล้องในช่วงปลายปีนี้
เมื่อถูกถามเรื่องเป็น ‘สายมูตัวพ่อ’ พอร์ชก็ว่า ก่อนหน้านั้นไม่ค่อยได้ไหว้พระหรือทำบุญเท่าไหร่ แต่หลังเกิดอุบัติเหตุรถมอเตอร์ไซค์คว่ำเมื่อ 4-5 ปีก่อน ก็เปลี่ยนแปลงไป
“ตอนนั้นขี่ไปทริปกับแก๊งดาราด้วยกันนี่แหละ ถนนลื่น แล้วด้วยความที่เรายังเด็ก อาจจะห้าวด้วย ขี่ไม่ระวัง ก็คว่ำ”
คราวนั้นเขาซี่โครงหัก ปอดทะลุ กระดูกสันหลังบิ่น สะบักร้าว ต้องรักษาตัวในไอซียูถึง 4 วัน แล้วหลังจากนั้นก็ยังเจออุบัติเหตุจนเอ็นขาด จากการลื่นแล้วล้มทับแก้ว
“แผลเล็กมาก ไม่ถึงครึ่งเซ็นต์ที่ปักลงไป แต่มันดันไปโดนเอ็นนิ้วกลางพอดี อันนี้ลำบาก เป็นสิ่งที่นอยด์มาก กว่าการมอเตอร์ไซค์ล้มอีก”
เหตุดังกล่าว พระเอกคนดังเล่าว่าเกิดมาประมาณ 1 ปีแล้ว แต่ส่งผลให้ไม่สามารถเล่นดนตรีได้เหมือนเดิม
“ก็ต้องกายภาพ เล่นกีต้าร์ก็ลำบาก บางคอร์สจะจับไม่ได้”
ครั้นพิธีกรถามว่าสองสาเหตุนี้หรือเปล่าที่ทำให้กลายเป็นสายมู ถึงขั้นมีคาถาป้องกันอุบัติเหตุ? ซึ่งพอร์ชบอกเขามีคาถาดังกล่าวจริง
“อันนี้คุณย่าบอก เป็นคาถาป้องกันภัยในแต่ละวันที่เราออกไปทำงาน เวลารู้สึกว่าตัวเองขับรถเร็ว ผมก็เริ่มท่องตลอด ขับรถทีนึงท่อง 20 กว่ารอบ”
เขายังบอกด้วยว่า หลังจากหันมาทำบุญ สวดมนต์ ไหว้พระ ก็รู้สึกว่าจิตใจสงบขึ้น
เรื่องที่มีการพูดกันว่าเวลานั่งสมาธิ อาจมีวิญญาณมาอยู่ใกล้เพื่อขอส่วนบุญ พอร์ชก็ว่าเขาเคยเจอครั้งหนึ่ง
“ปกติไม่เคยตื่นมากลางดึก มีอยู่วันหนึ่งตื่นมาตี 4 ครึ่ง ตี5 ลืมตาขึ้นมาเห็นคนตัวใหญ่ๆ สูงๆ อยู่ที่ปลายเท้า เหมือนคนช็อกอ้าปากค้าง คลุมโปงอยู่เป็นชั่วโมง สวดมนต์”
ขณะเดียวกัน “บางทีก็รู้สึกแปลกๆ เหมือนมีคนอยู่ด้วย แต่ล่าสุดไปทำบุญ เพื่อนบอกให้ไปไหว้เจ้ากรรมนายเวร ไหว้ผีติดตามตัว มีพระเคยทักว่าคนที่ตามอยู่เขาดีมากเลย ทำบุญให้เขาบ้าง”
ครั้นพิธีกรหันมาถามเรื่องที่มีคนมองว่าเขาเป็นเสือผู้หญิง ว่าจริงไหม พอร์ชบอกเลย เรื่องนี้อยู่ที่คนมอง เพราะโดยส่วนตัวเวลาคุยกับใครจริงจัง เขาก็คุยแค่คนเดียว เพราะถือเป็นการให้เกียรติคนที่คุยด้วย
“จริงๆ ผมเป็นคนเฟรนด์ลี่ด้วยแหละ บางทีไม่ได้คิดอะไร แต่คนภายนอกมองพอร์ชเอาอีกแล้วนะ สนิทกับผู้หญิงอีกแล้วนะ แต่จริงๆ ไม่ได้คิดอะไรเลย”
เรื่องไปเม้นท์ไอจี ก้อย อรัชพร เขาบอก แค่แกล้ง
“พี่ชายผมเขาชอบ ผมเลยไปแกล้ง เพื่อให้พี่ชายหึง ว่าพอร์ชรู้จักได้ยังไง แค่นั้นเอง ไม่ได้คิดอะไรกับเขาเลย ไม่ได้รู้จัก ยังงงเลยว่าเป็นข่าวได้ยังไง”
เมื่อพิธีกรถามอีกว่าอยากบอกอะไรก้อยไหม พอร์ชก็บอก “ขอโทษครับผม พี่ไม่ได้จีบนะ ขอโทษแฟนคลับน้องด้วย อย่าเอาผมไปเกี่ยวเลย แค่นี้ผมก็โดนด่าแล้ว”
พิธีกรยังถามเรื่องการเป็นเจ้าบุญทุ่ม ซึ่งพอร์ชออกตัวว่า “ไม่ได้ทุ่มถึงขนาดนั้น บางทีเราก็ไปสืบว่าเขาชอบอะไร”
แต่ยอมรับว่าเคยซื้อกระเป๋าแอร์เมสใบละ 500,000 บาทให้สาว
“ไม่ได้ทุ่ม ไม่ได้ให้ตอนจีบ ให้ตอนเป็นแฟนแล้ว อะไรที่แฟนเราชอบ รัก เราก็อยากจะทำให้”เขาบอก
เห็นว่าเป็นล้านเลย-พิธีกรถามอีก ซึ่งพอร์ชก็บอก “ไม่ได้ถึงขนาดนั้น มันแค่รวมๆ กันหลายอย่าง ส่วนมากผู้หญิงเขาชอบอะไรละ นาฬิกาก็มีบ้าง”
เมื่อถูกถามถึงเหตุผลที่เลิกรากับความรักครั้งล่าสุด เขาก็ว่า “ก็หลายอย่าง มันเป็นเรื่องของคนสองคน สุดท้ายไม่มีใครดีร้อยเปอร์เซ็นต์ และแย่ร้อยเปอร์เซ็นต์ เหตุผลส่วนใหญ่ก็คือเข้ากันไม่ได้ ไลฟ์สไตล์ชีวิตไม่เหมือนกัน พอมันเริ่มมาจากเรื่องนี้ ต่อไปจะทะเลาะเรื่องอื่นมากขึ้น แต่เหตุผลสำคัญก็น่าจะเป็นเรื่องนี้”
ส่วนข่าวที่ว่าตอนนี้เขามีหวานใจคนใหม่ พอร์ชยอมรับ โดยบอกว่าเธอเป็นคนนอกวงการ ที่คุยๆกันมาได้ราว 3 เดือนแล้ว
ดูรายละเอียดเต็มๆได้จากคลิปนี้
