ก่อนหน้านี้มีเพจดัง เจ๊มอย108 บอกว่ามีดาราชายขวัญใจยุค’90 ที่พลิกบทไปเล่นซีรี่ส์วาย ถูกสาวใหญ่ระดับคุณนายควักเงินถึง 7 หลัก เพื่อให้ดาราชายผู้นี้บินไปที่ต่างประเทศ ซึ่งมีหลายคนพุ่งเป้าไปว่าจะใช่
อ้น สราวุธ หรือไม่ ดังนั้นในวันนี้ (21 มีนาคม) เมื่อ อ้น สราวุธ เป็นกรรมการร่วมตัดสินแคสติ้งนักแสดงรอบตัดสินของ “สะพานปูน เดอะซีรี่ส์” ผู้สื่อข่าวจึงได้ไปสอบถาม และเขาก็ยอมรับว่าเป็นเรื่องจริง
” ก็มีนะครับ คงเป็นความเอ็นดูแล้วก็ เฮ้อ..(หัวเราะ)”
เขาเข้ามาในลักษณะไหน?
“มีพูดเล่น พูดจริง ผมก็ไม่แน่ใจนะ มีบ้านให้บ้าน มีรถให้รถแบบนี้ เป็นความเอ็นดูที่เขาให้กับเรามา ก็ถือว่าเป็นความรู้สึกดีๆ คือคนยื่นความรู้สึกดีๆ ให้มันดีอยู่แล้ว แต่ว่าเราจะตอบสนองเขาไปแบบไหนนั้นอีกเรื่องนึง จริงๆ แล้วเรื่องนี้ไม่ได้เพิ่งมีนะครับ ในดีเอ็มของผม ผมเจอบ่อยมากครับ เสนอเงินเสนออะไรให้ผม แบบไปกินข้าวด้วย อย่างที่บอก เราไม่ดูถูกใคร ไม่ดูถูกความรู้สึกดีๆ ของใครทั้งนั้น หรือมีแต่มาสารภาพรักแล้วบอกว่าเวลาชีวิตมันสั้นมากไม่อยากจะเก็บไว้
อยากจะขอสารภาพว่ารักคุณมาก แต่ว่าผมก็ขอบคุณเขาไปนะ ถ้าเขามาแบบซื่อสัตย์ การเสนอความรู้สึกดีๆ มาให้เรา เราไม่ดูถูกกันครับ ก็ตอบสนองไปด้วยความรู้สึกขอบคุณมากที่ซื่อสัตย์กับตัวเอง และบอกผมแบบนี้ แต่มันอยู่ที่เราจะสร้างสะพานปูนกลับไปไหม แต่ผมรู้สึกว่าสิ่งที่ผมทำกลับไปคือการขอบคุณและเป็นมิตรมากกว่า ผมเลยรู้สึกว่า โดยส่วนตัวเองผมยังยืนยันที่จะทำงานหาเงินด้วยตัวเอง เพราะผมก็อยากจะภูมิใจกับตัวผมเองครับ เอาง่ายๆ มันก็ดี แต่เคยพูดเล่นนะว่า ใครมีตังค์เยอะๆ ช่วยหน่อยก็ดีนะ มันก็คงสบายดีไรงี้ เอาเข้าจริงไม่หรอกครับ ผมว่าเราอยากใช้ชีวิตแต่ละวันแล้วเราบอกว่าเราภูมิใจในตัวเอง อยากสบายๆ กับตัวเอง รักตัวเองในทุกวัน”
“ขอบคุณทุกคนอีกครั้งละครับ ทั้งที่เป็นข่าวและทั้งที่ไม่เป็นข่าว ทั้งส่งข้อความมาหาผมในดีเอ็มหรืออะไรก็แล้วแต่ ผมก็ขอบคุณความรักหรือความรู้สึกดีๆ ที่ให้ แต่ว่าผมคงให้ได้แค่ความเป็นมิตร เป็นพี่น้อง เป็นครอบครัวกัน ถ้าต้องการมากกว่านั้นผมคงให้ไม่ได้จริงๆ ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติครับ ก็ต้องต้องขอบคุณ Thank you so much for everything you have for me like many good moments or many reasons to you me thank you so much, but I still love you as a friend like friendship good friendship now and forever.”
คนที่ดีเอ็มมาเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง?
“มีหมดครับ ถึงได้บอกว่ามันมีทั้งรูปแบบที่เราอมยิ้ม เพราะเห็นใจเขา เราเข้าใจ เราให้เกียรติ และมีแบบแอบตกใจอยู่ แต่ผมว่าไม่ใช่ผมเจอคนเดียวหรอกหลายๆ คนก็เจอ เพราะผมฟังข่าวมาก่อนหน้านี้แล้ว หลายๆ คนก็เจอเหมือนกัน มันคงไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับเรา เพราะว่าก็เกิดขึ้นกับคนอื่นเหมือนกัน เพียงแต่สำหรับถึงขั้นว่าจะเลี้ยงดู เราโฟกัสที่เรื่องเลี้ยงดูดีกว่า ก็คงบอกว่าผมขอบคุณมากแต่ผมคงรับไว้ไม่ได้ เพราะคิดว่าผมยังยืนยันที่จะเป็น อ้น สราวุธ ที่ภูมิใจกับการทำมาหากินของตัวเองแหละการเป็นตัวเองมากกว่า”
มีเรื่องที่ทำให้รู้สึกอึดอัดใจหรือหนักใจไหมเวลาเขาทักมาในลักษณะแบบนี้?
“ผมไม่ถึงขั้นอึดอัดใจนะครับ ผมแค่เข้าใจมากกว่า คือเหมือนที่ผมบอกไปแล้วว่า เราไม่สามารถห้ามหัวใจของคนอื่นได้เลย คือมันเหมือนกัน ห้ามคนเกลียดเราได้ไหม ไม่ได้ ห้ามคนให้ถูกชะตาได้ไหม ไม่ได้ ห้ามคนรักเราก็ไม่ได้ เพราะฉะนั้นก็คือยอมรับมันเท่านั้นเอง เพียงแต่คนไหนที่เขาไม่ได้แคร์เรา มันเป็นเรื่องปกติของโลกอยู่แล้ว แต่เราคงไม่ได้ถูกใจทุกคนอยู่แล้ว แต่ว่าคนไหนที่เขาอุตส่าห์ให้เกียรติที่จะรักเราและเขากล้าบอก ผมรู้สึกว่ามันไม่ใช่สิ่งที่จะต้องไปดูถูกเขาเลย เพราะเขากล้าบอกคุณขนาดนั้น ก็ต้องขอบคุณผ่านสื่อเลยนะกัน ผมคงให้ได้แค่มิตรภาพและเพื่อน มันดีสุดนะ ผมไม่ได้เข้ามาด้วยวิธีการเดินทางลัดแบบนั้นครับ ผมยังต้องยอมเหนื่อยกับงานที่ผมทำอยู่ทุกวันนี้ก่อน”
มีลักษณะน่ากลัวไหม
“ผมว่าเจอกันทุกแบบ เจอกันทุกคน คงไม่ต้องอธิบายรายละเอียด อันไหนที่โอโห ก็เลื่อนผ่านไปแล้วกัน คิดว่ามันเป็นเรื่องปกติแล้วเป็นยุคที่เราแสดงออกกันง่ายแล้วกล้าที่จะแสดงออกมากขึ้น อย่างที่บอกเราห้ามอะไรใครไม่ได่เลยครับ ได้แต่เข้าใจแล้วก็และจัดการกับตัวเองดีกว่าในวิ่งที่เราให้ได้คือมิตรภาพเราให้กับทุกคน”
คิดว่าอะไรเป็นเสน่ห์ที่ทำให้เข้าเขามา?
“ผมคงบอกเสน่ห์ของเราไม่ได้ แต่ผมคิดว่าทุกคนสามารถมีเสน่ห์ได้หมด เขามองดูเราผ่านสื่อ เดี๋ยวก็เห็นเราจากไอจีอาจจะชอบความไลฟ์ลี่ของเรา ชอบความรักสัตว์ก็มี หรือการที่เราดูแลตัวเองจนเราก็รักรูปร่างตัวเองอะไรแบบนี้ถึงเราจะเลข 4 แล้ว แล้วเขารู้สึกแบบ you are so hot หรือ daddy ผมคิดว่าทั้งหมดทั้งสิ้นคือเพราะเราทำงาน งานที่เราทำต้องใช้รูปร่างหน้าตา ต้องใช้ศักยภาพในการพัฒนาตัวเองต้องใช้หลายๆอย่าง ต้องใช้และภูมิใจในมัน อยู่กับวงการนี้ต้องดูแลภายนอกและภายใน หน้าตา ความรู้สึกนึกคิด หลายอย่างเพราะเราก็รักงานเรา มันคงบอกไม่ได้ว่าฉันถูกใจใครตรงไหน แต่เราก็เป็นเรา แล้วบังเอิญในความเป็นเราไปโดนใจเขาก็ปกติ สำหรับทุกคน”
ข่าวออกมาก็ไม่ซีเรียส?
“ไม่ซีเรียส ยอมรับแอบขอบคุณที่แอบเสนอบ้าน เสนอรถ เสนอเงิน จริงๆ แล้วผมว่ามันก็เป็นสิ่งที่วิกฤตนี้คนต้องการมาก แต่เราไม่เดินทางลัดดีกว่าเราภูมิใจในตัวเองด้วยการทำมาหากินด้วยตัวเองดีกว่า เหนื่อยหน่อย แต่ด้วยการสนับสนุนของแฟนๆ ของครอบครัวเราที่เราอดทนต่อสู้กับวิกฤตแบบนี้ผมว่าเราจะไปได้และมันไปได้ด้วยความภูมิใจด้วย”
