‘หมิว สิริลภัส’ หอบหลักฐานย้อนเล่าเหตุการณ์โดนคุกคาม เตรียมเผชิญหน้าคู่กรณี

‘หมิว สิริลภัส’ หอบหลักฐานย้อนเล่าเหตุการณ์โดนคุกคาม เตรียมเผชิญหน้าคู่กรณี 

จากกรณีที่นักแสดงสาว หมิว สิริลภัส กองตระการ ดารานักแสดง เข้าไปในห้องน้ำในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งริมถนนรัชดาภิเษก แล้วพบถูกชายคล้ายตำรวจแอบถ่ายในห้องน้ำ เบื้องต้นพบเป็นตำรวจในสังกัดบช.น. โดยตำรวจอ้างไม่ทันดูเป็นห้องน้ำหญิง ล่าสุดวันนี้ (22 มี.ค.) ดาราสาว ได้แถลงเปิดใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า

“เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นตอนกลางคืนเมื่อวันที่ 6 หมิวขับรถไปส่งเพื่อนที่ลาดพร้าวซอย 8 พอเสร็จหมิวก็ขับรถกำลังจะไปคุยงานเรื่องเพลงที่ซอยรับดา 32 ต่อ ก่อนหน้านั้นคือรู้สึกปวดท้องอยากจะเข้าห้องน้ำ ก็เลยจะแวะปั้มเข้าห้องน้ำนะคะ คือวันนั้นต้องบอกว่ามันมีการชุมนุมเกิดขึ้น แล้วหมิวก็เดินทางคนเดียว เป็นผู้หญิงด้วย และตอนนั้นข่วงเวลามันค่อนข้างดึกแล้ว ก็เลยมีความระมัดระวังตัวด้วยส่วนนึงอยู่แล้วนะคะ”

“พอจอดรถเสร็จก็เห็นรถอีกคันนึงมีจอดอยู่ด้านข้าง เราก็เลยรู้สึกถึงความไม่ค่อยปลอดภัย เพราะรถคันข้างๆ เขาก็ยังไม่ลงสักที หมิวก็ยังไม่ลง เขาก็ยังไม่ลง แต่เราก็ไม่ไหวแล้วต้องการที่จะเข้าไปทำธุระส่วนตัวเราแล้ว ก็เลยตัดสินใจหยิบมีดปลอกผลไม้ที่อยู่ในเกะหน้ารถไปด้วย พร้อมกับโทรศัพท์มือถือ แล้วก็เดินเข้าไปที่ห้องน้ำ ตอนแรกก็ยังไม่ได้เอะใจอะไร แต่ทีนี้ตอนที่เราเดินเข้าห้องน้ำ ก็ได้ยินเสียงคนนึงเข้าห้องน้ำมา เขาก็เข้าห้องเยื้องไปทางด้านซ้ายของหมิว”

“ซึ่งด้วยความที่หมิวเป็นคนระวังตัวและระแวงอยู่แล้ว ก็เลยตัดสินใจที่จะยังไม่เข้าห้องน้ำ คือห้องน้ำของปั้มมันไม่ได้เป็นชักโครกใช่มั้ยคะ เราก็สามารถยืนบนนั้นได้ มือนึงก็ถือมีดอยู่ มือนึงก็ถือโทรศัพท์อยู่ ปกติธรรมชาติคนเวลาที่เข้าห้องน้ำมา เราก็จะเข้ามาปิดประตูแล้วก็ถอดกางเกงเพื่อทำธุระส่วนตัวถูกมั้ยคะ แต่ห้องนั้นหมิวมองเข้าไปประตูห้องน้ำเขาไม่ได้ล็อค สองคือไม่ได้ยินเสียง ในการที่จะถอดกางเกงหรือจะทำอะไรเลย ก็เริ่มเอะใจแล้วว่ามันผิดวิสัยคนจะเข้าห้องน้ำ”

Advertisement

“ก็เลยยังไม่ได้ทำธุระตัวเอง แต่ยืนอยู่บนโถส้วมนั่นแหละ ยืนดูไว้ว่าเมื่อไหร่เขาจะเข้าห้องน้ำ เพราะถ้าเขาเข้าห้องน้ำเสร็จแล้วออกไป หมิวก็จะได้เข้าห้องน้ำ และเรื่องก็จะไม่เกิดเลยถูกมั้ยคะ แต่ทีนี้ห้องนั้นเงียบ หมิวก็เลยไม่กล้าเข้าสักที เหมือนดูเชิงกันไปมา เราก็ไม่กล้าชะเง้อไปเยอะ ทีนี้ก็มีจังหวะที่เหมือนเขาชะเง้อขึ้นมาพอดี เราก็เลยเห็นว่า อ้าว นี่มันผู้ชายหัวเกรียนนี่หว่า หมิวก็เลยถามว่าอะไรน่ะ แล้วก็เป็นไปตามคลิปเลยค่ะ”

“ตอนแรกก็คุยกันระหว่างห้องน้ำก่อนค่ะ หมิวตะโกนถามไปว่าพี่ทำอะไร แล้วก็เป็นไปตามคลิปที่หมิวโพสต์ไปในเฟสบุ๊คเลยค่ะ เขาก็รีบออกจากห้องน้ำไป หมิวก็ถือมีดตามออกไปเลยบอกว่าพี่เข้าห้องน้ำหญิงทำไม เขาก็ปฎิเสธตามในคลิปเลยว่าไม่มีอะไรครับ หมิวบอกไม่มีอะไรได้ยังไง แล้วเข้าห้องน้ำหญิงทำไม แล้วเจตนาก็ถือมือถืออยู่จะเข้าไปถ่ายอะไรหรือเปล่า แต่เขายังไม่ได้ถ่ายแน่นอนค่ะ เพราะถ้าเขาถ่ายเนี่ยหมิวต้องเห็นว่ามีการยื่นมือถือออกมา”

Advertisement

“แต่ถ้าจะไปตามว่ามีคลิปอยู่ในนั้นมั้ย หมิวก็ค่อนข้างมั่นใจว่าถ้าเป็นคลิปของหมิวน่ะไม่มีแน่นอน เพราะว่าหมิวดูตั้งแต่เขายังไม่เริ่มทำอะไรเลย แล้วเขาก็บอกว่าไม่มีอะไรๆ ผมบริสุทธิ์ใจครับ เขาก็เปิดมือถือให้ดู (โชว์รูป) หมิวก็ไม่กล้าถ่ายวิดีโอที่จะเห็นหน้าเขาเต็มๆ เพราะถ้าดูจากกล้องจะเห็นว่าเขาค่อนข้างตัวพอๆ กับหมิวเลย และเป็นผู้ชายที่ตัวค่อนข้างใหญ่ ซึ่งหมิวก็ประเมินดูแล้วว่าถ้าเกิดหมิวทำอะไรที่มันล้ำเส้นเขาเกินไป หมิวอาจจะโดนทำร้ายร่างกายได้ และตรงนั้นก็ไม่รู้ว่าใครจะช่วยหมิวได้บ้าง”

“พอเขาปฎิเสธเสร็จเขาก็รีบขึ้นรถเลย หมิวก็พยายามจะยื้อประตูรถเขาไว้ แต่ยื้อไม่ไหวจริงๆ เขาก็ปิดประตูรถไป และที่ตกใจที่อยากให้ทุกคนเห็นคือนี่มันรถตำรวจ แล้วเขาตามเรามาทำไม หรือเขามีจุดประสงค์อะไร หมิวก็ยิ่งตกใจว่านี่มันคือการคุกคามนะ ไม่ใช่คุกคามธรรมดาด้วย นี่คือการคุกคามทางเพศนะคะ”

ซึ่งตอนที่ออกมาเจรจากันข้างนอกนั้น หมิวก็ว่าก็มีเด็กปั้มอยู่ เพราะตนก็ค่อนข้างเสียงดัง แต่ถามว่ามีลูกค้ารายอื่นมั้ย ตอนนั้นไม่มี

ส่วนที่อีกฝ่ายให้ข่าวว่าเขาไม่รู้ว่านั่นคือห้องน้ำผู้หญิง คิดว่าเจตนาเขาเป็นอย่างนั้นจริงมั้ย หมิวก็ว่า

“หลังจากแถลงข่าวเสร็จถ้าพี่ๆ สื่อว่าง หมิวจะไปเจอกับคู่กรณีที่สน. พหลโยธินต่อ ถ้าใครสะดวกก็เรียนเชิญตามไปนะคะ เพราะหมิวมีภาพที่จะให้เขาดูว่า (โชว์รูป) ณ จุดที่มีรถกระบะเป็นจุดที่เขาจอดรถ เห็นป้ายห้องน้ำมั้ยคะ นี่คือห้องน้ำแยกนะคะ ไม่ใช่ห้องน้ำรวม ที่เขาบอกว่าเป็นห้องน้ำรวม อันไหนคือหลักฐานว่าเป็นห้องน้ำรวมคะ”

“การเดินเข้าไปป้ายก็บอกชัดเจนมากว่านี่คือห้องน้ำหญิง พอเดินตรงเข้าไปอีกก็คือห้องน้ำชาย ชัดเจนมากนะคะป้ายเหลืองแดง แล้วตรงนั้นมีไฟด้วยนะคะถ้าดูจากกล้องวงจรปิด เขาจะมาอ้างได้ยังไงคะว่าเขาดูป้ายผิด เขาดูป้ายไม่ได้ วิดีโอหมิวก็มีนะคะ หมิวให้น้องไปถ่ายว่าหลังจากลงรถมาแล้วเดินไปมันสามารถมีการเข้าใจผิดได้มั้ย ซึ่งหมิวดูเป็น 10 รอบแล้ว หมิวไม่เห็นถึงช่องว่างอะไรที่จะทำให้เขาเดินเข้าไปผิดได้เลย”

“เดี๋ยวรอดูกล้องวงจรปิดดีมั้ยคะ หมิวว่าคำตอบจากกล้องวงจรปิดน่าจะชัดเจน อาจจะต้องไปขอความร่วมมือจากตำรวจ หมิวก็อาจจะต้องขอความร่วมมือจากพี่ๆ สื่อด้วยในการที่จะไปขอคลิปกล้องวงจรปิดจากคุณพี่ตำรวจเขา เพราะที่หมิวได้มาจากพี่ๆ นักข่าวคือได้มาแค่ภาพ และหมิวอยากถามคำถามเดียวคือถ้าเจตนาบริสุทธิ์ใจแล้วเข้าห้องน้ำผิดจริงๆ คำแรกที่ควรจะพูดออกมาคืออะไร ควรต้องบอกว่าน้องใจเย็นๆ ก่อน พี่ขอโทษ พี่ไม่รู้ พี่เข้าใจผิด แต่นี่เขาปฎิเสธตั้งแต่แรกเลยว่าไม่มีอะไรครับ ผมเจตนาบริสุทธิ์ครับ นี่คือประโยคของคนที่เจตนาบริสุทธิ์เหรอคะ หมิวถามแค่นี้”

เราคิดว่าคู่กรณีไม่ได้ถ่ายภาพเราใช่มั้ย “หมิวมั่นใจว่าเขาไม่ได้ถ่ายค่ะ”

แล้วถ้าทางกฎหมายไม่มีหลักฐาน เราจะดำเนินคดีเขายังไง “หมิวว่าเจตนาในการเดินตามเข้าห้องน้ำผู้หญิงก็เป็นการคุกตามทางเพศแล้วนะคะ”

“หมิวว่ามันเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลค่ะ นี่คือการเข้าห้องน้ำของหมิว และนี่คือห้องน้ำหญิงซึ่งแยกไว้เฉพาะเป็นสัดส่วนให้ผู้หญิง เพศสภาพหญิงเข้า แต่เขาเพศสภาพชาย ไม่ควรเข้ามาในห้องน้ำหญิง”

ทั้งนี้เมื่อถามว่าคิดว่าเขามีจุดประสงค์อื่นนอกจากเรื่องทางเพศมั้ย อย่างเช่นเรื่องการเมือง คงต้องไปถามอีกฝ่าย เพราะตนไม่อยากตัดสินอะไรทั้งสิ้น มันสามารถตีความไปได้ทุกแบบ

“หมิวไม่อยากตีความไปเป็นแบบไหนเลยค่ะ เพราะคิดไปทางไหนมันก็ทำให้สภาพจิตใจหมิวค่อนข้างย่ำแย่ทุกกรณี”

ซึ่งหลังจากมีข่าว ตนก็ได้รับการติดต่อจากทางต้นสังกัดของคู่กรณี

“ใช่ค่ะ เจ้าหน้าที่จากสน.ทุ่งมหาเมฆ พอทราบเขาก็รีบหาเบอร์ติดต่อและโทรมาบอกว่าตอนนี้ได้ทราบเรื่องแล้ว เขาก็ได้ถามถึงคนก่อเหตุแล้วว่าวันนั้นไม่ได้มีการรายงานใดๆเกิดขึ้นเลย พอทราบข่าวตอนนี้เขาก็พยายามสอบสวนและดำเนินการให้ได้ไวที่สุด ถ้าหมิวอยากได้รายละเอียดเพิ่มเติมเขาก็พร้อมที่จะประสานงานให้ค่ะ”

“ก็บอกเพียงแค่ว่าจากการที่ได้สอบถามเบื้องต้นเขาบอกว่าเขาเข้าไปทำธุระในห้องน้ำ แล้วอยู่ดีๆก็ได้ยินเสียงโวยวายจากหมิว”

แต่อีกฝ่ายก็ไม่มีท่าทีในการจะพยายามติดต่อหรือมาเจรจากับเราใช่ไหม?

“ทางนั้นเขาคิดว่าเรื่องคงเงียบมั้งคะ เพราะว่าหลังจากที่หมิวแจ้งความไปวันที่ 7 เรื่องเกิดวันที่ 6 แล้วก็หายไปอีก 2 อาทิตย์ที่หมิวไปฟื้นฟูสภาพจิตใจเยียวยาตัวเองก็ไม่ได้รับการติดต่อใดๆทั้งสิ้นมาเลย จนตั้งสอนใจโพสต์เฟสบุ๊กแล้วก็เลยได้รับการติดต่อมาทันทีค่ะ”

กับการที่จะเอาผิดในครั้งนี้จะดำเนินการไปถึงขั้นไหน หมิวก็ว่า

“ตอนแรกอยากคุยเป็นการส่วนตัวก่อน หมิวอยากทราบถึงเหตุผลของเขา ถ้าเขาไม่ได้ตั้งใจจริงๆถ้าเขาเข้าห้องน้ำผิดจริงๆหมิวพร้อมที่จะยกโทษและให้อภัยเพราะว่าเกิดมีความผิดจริงๆแล้วเขาจะต้องโดนลงโทษทางวินัยและโดนไล่ออกจากงาน ถ้าเกิดเขามีครอบครัว ลูก ภรรยา หมิวก็ไม่อยากไปทำให้ภรรยาและลูกเขาเดือดร้อน แต่ว่าสิ่งที่หมิวได้ยินมาเขามีการกล่าวอ้างว่า หมิวคิดไปเอง หมิวไปโวยวายเอง ห้องน้ำรวมหรือเปล่า หมิวก็รู้สึกว่าถ้าเป็นแบบนี้เจตนามันไม่บริสุทธิ์ใจหรือเปล่า ถ้าเขาบอกว่าเขาเข้าห้องน้ำผิดเขาพร้อมจะขอโทษหนูก็พร้อมจะให้อภัยนะคะ แต่สิ่งที่หมิวได้ยินเขากลับมาว่าเขาไม่ผิด นั้นคือห้องน้ำรวมแล้วหมิวมาโวยวายเอาเอง เพราะฉะนั้นหมิวอยากให้เป็นเรื่องของกระบวนการตามกฎหมายแล้วก็อยากให้ดำเนินการเต็มที่และอยากให้เป็นเคสตัวอย่าง เพราะตำรวจเป็นอาชีพที่ประชาชนควรจะต้องไว้ใจไม่ใช่เหรอคะ”

“ก็ต้องฝากพี่ๆสื่อมวลชนติดตามนี้แหละค่ะ เพราะว่าสิ่งเดียวที่ตอนนี้หมิวมีคือสื่อมวลชน เพราะว่าหมิวไม่สามารถไปตามอะไรตรงนั้นได้อีกแล้ว ในวันที่หมิวไปแจ้งความ 2 อาทิตย์ที่หายไป หมิวก็ไม่ได้รับการติดต่ออะไรจากทางสน.พหลโยธิน จนหมิวใช้สื่อโซเชี่ยลแล้วก็ได้รับการตอบรับจากพี่ๆ สื่อ เพราะฉะนั้นหมิวคิดว่าสิ่งที่หมิวมีอยู่คือสื่อและประชาชนทุกคนที่เห็นถึงความไม่ยุติธรรมในครั้งนี้หมิวเป็นประชาชนคนนึงถ้าจะพูดในฐานะเป็นกระบอกเสียงของประชาชนคนนึงก็อยากจะบอกว่า เรามีสิทธิ์ขั้นพื้นฐานเราแค่อยากได้ความปลอดภัยจากการใช้ชีวิตประจำวันแค่นี้เองทำไมตำรวจถึงให้เราไม่ได้ ตำรวจทำงานอะไรอยู่ หน้าที่หลักของตำรวจคืออะไร ไม่ใช่การดูแลความปลอดภัยของประชาชนเหรอ ตอนนี้ประชาชนคนนึงถูกคุกคามจากอาชีพที่ควรจะได้รับความไว้วางใจมากที่สุด แต่ดันกลับมาคุกคามประชาชนเสียเอง อย่างงี้จะให้หมิวไปไว้ใจหรือพึงพาใครได้”

“หมิวยังมั่นใจนะคะว่ายังมีตำรวจท่านอื่นอีกหลายคนที่พร้อมจะให้ความยุติธรรมกับหมิว และอีกหลายๆคดี หมิวยังมั่นใจในกระบวนการยุติธรรมอยู่ หมิวก็ยังอยากให้มันเกิดขึ้นและหมิวก็เชื่อว่ายังมีหลายๆคนที่ยังติดตามข่าวนี้ อยากให้มันเกิดขึ้นค่ะ เพราะว่าตอนนี้หมิวว่าความเชื่อมั่นของตำรวจกับประชาชนมันค่อยข้างห่างกันมากแล้ว หมิวว่าถ้าเขาแสดงออกได้เรื่องนี้จะเป็นเคสที่ดี ในการเรียกความเชื่อมั่นของเจ้าหน้าที่กลับมาค่ะ”

ในส่วนของสภาพจิตใจของหมิวฟื้นฟูมาตอนนี้เป็นยังไงบ้าง “ตอนนี้ดีขึ้นค่ะ แต่ถามก่อนหน้านี้ก็ค่อนข้างแย่ค่ะ”

เดี๋ยวจะไปเจอคู่กรณีแล้วถ้าเขาขอไกล่เกลี่ยขอจบ ณ ตอนนั้นที่ไปเจอ หมิวจะว่ายังไง
“ให้เป็นเรื่องของทางคดีความทางกฎหมายที่จะต้องดำเนินการเขาให้ถึงที่สุด แต่ว่าเบื้องต้นขอคุยกับเขาก่อนดีกว่าว่ากับการที่เขาพูดแบบนั้นไป เดี๋ยวจะเอารูปห้องน้ำไปให้เขาดูด้วยว่า นี่คือห้องน้ำแยก ไม่ใช่ห้องน้ำรวม”

ถ้าเขาออกมาแถลงข่าวขอโทษเราล่ะ?
“ไม่ต้องถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ หมิวไม่ได้อยากให้เขาออกมาขอโทษขนาดนั้นสิ่งที่หมิวอยากออกมาเรียกร้องตอนนี้คือหมิวอยากเห็นว่าวันนี้พี่ๆ ตำรวจมีการทำงานกันอย่างไรและสามารถทวงความยุติธรรมให้กับหมิว ตัวแทนของประชาชน”

หมิว ยังกล่าวพร้อมน้ำตาว่า “ถ้าทำแบบนี้แล้วเหตุการณ์มันเกิดขึ้นกับน้องสาวเขา กับแฟนเขา ภรรยาเขา หรือกับลูกสาว หรือกับคนที่เขารักมันจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นแล้วมันไม่ได้จบแค่หมิวตามเขาออกมา ถ้าคนนั้นเป็นคนร้ายจริงๆ หมิวโดนทำอะไรขึ้นมาจริงๆ คนแก่ที่บ้านสองคนจะอยู่ยังไง หมิวเป็นลูกผู้หญิงคนเดียวที่เลี้ยงดูคนที่บ้าน ถ้าเกิดหมิวเป็นอะไรขึ้นมาพ่อกับแม่หมิวจะอยู่ยังไง ถ้าเรื่องนี้มันไปเกิดขึ้นกับลูกสาวของบ้านไหนขึ้นมามันไม่ได้ทำร้ายแค่ชีวิตของคนๆเดียว มันทำร้ายทั้งสถาบันครอบครัวแล้วมันก็สร้างบาดแผลให้กับคนๆนึง หมิวว่าเรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องเล็กที่เราจะต้องมองข้าม มันเป็นความปลอดภัยเป็นสิทธิ์ที่เราควรจะได้แล้วทำไมเราถึงไม่ได้ในเมื่อเราทำตามหน้าที่ของประชาชนคนทั้งหมด”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image