เล่าเสียงสั่นกลางรายการ ใหม่ควงสามีเผยชีวิต ก่อนจะถึงวันนี้เคยมีเงินติดกระเป๋าแค่ร้อยกว่าบาท

 

คู่สามี-ภรรยา ใหม่ สุคนธวา กับ ดีเจต้น สรพงษ์ ควงกันมาเยือนรายการ ต้มยำอมรินทร์ ที่ผลิตโดย CHANGE2561 เพื่อเคลียร์ทุกเรื่องราวดราม่า พร้อมเปิดใจทั้งน้ำตาเล่าว่ากว่าชีวิตจะมีวันนี้เคยลำบากหนัก ชนิดมีเงินในกระเป๋าแค่หลักร้อย

โดยใหม่เปิดใจถึงสาเหตุที่เธอหยุดรับงาน เพื่อมาเลี้ยงลูกว่า เป็นเพราะเธอเองไม่ได้เจอแม่ตั้งแต่อายุได้ 3 เดือน เมื่อมีลูกจึงอยากทุ่มเทให้

“คิดในใจว่าไม่รับงานแล้ว อยู่กับลูก อยากให้ลูกผูกพันกับเรา อยากให้เขารู้จักสายใยผูกพัน คือเราขาดตรงนั้น เลยไม่อยากให้ลูกขาดเหมือนเรา”

Advertisement

ขณะดีเจตันก็ว่า “ทุกคนจะมาถาม ว่าภรรยาเหนื่อยไปไหม ทำไมต้องให้เขาซักผ้าด้วย ทำไมไม่จ้างพี่เลี้ยง จริงๆแล้วเป็นความประสงค์ของใหม่ เขาต้องการทำอะไรเอง อยากซักผ้าด้วยมือ เพราะอยากรู้ว่าคนสมัยก่อนลำบากมากขนาดไหน แล้วการเลี้ยงดูด้วยแม่คนเดียวมันยากมากเลยเหรอ เพราะว่าตัวเขาเองไม่ได้มีคุณแม่ตั้งแต่ 3 เดือน เลยอยากรู้ว่ามันเหนื่อยจนแม่ต้องทิ้งเขาไปเลยเหรอ”

ดีเจต้นบอกด้วยว่า ความจริงแม้ใหม่จะไม่ทำงาน เขาก็สามารถเลี้ยงดูเธอกับลูกได้ อย่างไรก็ดีใหม่เป็นคนที่ชอบทำงาน

“แล้วการได้เงินจากผม เขาไม่ภูมิใจ จะใช้อะไร เขาไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย เงินที่ผมให้เขาทุกๆครั้ง เขาไม่เคยใช้เลย สวัสดิการภรรยาที่เขาได้”

Advertisement

ใหม่บอกอีกว่า ที่ผ่านมาทุกคนจะบอกว่าดีเนอะ มีสามีเปย์ เป็นคนมีบุญวาสนา ซึ่งไม่อยากให้คิดอย่างนั้น

“ก็ถือว่าเราโชคดีแหละที่มีเขา ต้องขอบคุณเขาที่ให้เรามาตลอด เราก็รับไว้นะ แต่ไม่ใช้เลย เอาไปเข้าบัญชีลูก เพื่อว่าอนาคตลูกจะได้เอาเงินก้อนนี้มาใช้ได้ แต่ก็คุยกับเขาไว้นะ ว่าเราต้องบอกว่าบ้านเราไม่มี บ้านเราจน เพื่อที่ลูกทำมาหากิน เพื่อให้ลูกขยันกว่าเราสองคน”

การนี้ดีเจต้นบอกเลยว่า “ตอนนี้ ลูกมีเงินมากกว่าผมอีก”

เรื่องที่ว่ากันว่าทั้งคู่ขัดแย้งกันเรื่องการเลี้ยงลูก ใหม่ยอมรับว่าจริง เพราะฝ่ายสามีกังวลหนักมาก กลัวเธอทำลูกตกน้ำตอนอาบน้ำให้

วันแรกๆเหมือนฝ่ายปกครองนั่งจับผิด เขาเป็นคนเว่อร์เกินเบอร์ จนเราต้องบอกว่าเดี๋ยวก่อนใจเย็น ลูกไม่ตกน้ำแล้ว ตกใจเสียงคุณ แล้วเราจะทำให้ลูกตกน้ำจมน้ำได้ บอกเขาว่าถ้าไม่ทำก็อยู่เฉยๆ อย่ามาร้องโวยวาย ตอนนั้นที่ทะเลาะกันคือหนัก จนไล่ออกจากบ้านไปเลย เพราะเรารู้สึกอึดอัด ทำไมต้องมาจุกจิกด้วย เราเป็นแม่ เรามีสัญชาตญาณในการเลี้ยงลูก แล้วบางทีก็น้อยใจ เพราะว่าเขาห่วงลูกจนลืมห่วงเรา จนเราต้องบอกว่าต้องดูแลเราก่อน เพราะว่าถ้าเราไม่มีชีวิตจิตใจไม่ได้”

สำหรับเรื่องการมอบเงินก้อนใหญ่ให้เป็นสวัสดิการแก่ภรรยา ดีเจต้นก็ว่า เงิน 10 ล้านบาทนั้นได้มาจากการทำงาน สะสมไว้ตั้งแต่ก่อนที่จะคบกัน รวมทั้งยังทำประกันชีวิตไว้อีกส่วนหนึ่ง เผื่อเกิดอะไรขึ้น ใหม่กับลูกจะได้ไม่ลำบาก ซึ่งใหม่ก็ว่าแม้จะรับเงินก้อนนั้นไว้ แต่ตั้งใจจะไม่ใช้

“ใหม่พูดกับเขาในวันแรกที่เราคบกัน ว่าผู้หญิงอย่างเราแกร่งพอและมีศักดิ์ศรีพอ เราต้องหาเงินให้ได้มากกว่าเขา ขยันทำงานให้มากกว่าเขา เก่งกว่าเขา หาเงินแข่งกับเขา เพราะเราไม่อยากให้คนอื่นดูถูก ว่าเราขอเงินผู้ชาย เราต้องเป็นสายข่มเขาตลอด แต่ในเงินก้อนนั้นมันทำให้เราน้ำตาไหล เพราะว่ามีเรื่องราวอยู่ในเงินก้อนนั้น เพราะก่อนหน้านี้เราสองคนไม่ค่อยมีเงิน”

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ดีเจต้นเสริมว่าก่อนหน้านี้เขาไม่ได้ทำงานนานถึง 2 ปี ระหว่างนั้นก็ใช้เงินเก็บจนใกล้หมด รวมทั้งยังขายคอนโด ขายรถ สุดท้ายในกระเป๋าก็เหลือเงินแค่ร้อยกว่าบาท

ถึงตอนนี้ใหม่บอกด้วยเสียงสั่นๆเหมือนจะร้องไห้ว่า “จำได้เลยว่าเรากินบะหมี่ข้างทางเดือนหนึ่งติดกันทุกวัน คือเราก็ไม่ได้อยากกินทุกวัน แต่เราแกล้งบอกเขาว่าให้พาเราไปกินหน่อยสิ สิ่งที่เราพูดตรงนี้มันมีนัยยะ ว่าเราต้องการประหยัดเงินให้เขา เพราะเขามีอยู่แค่หลักร้อย เราต้องการช่วยเขาประหยัด แล้วพอเขามีแบบนี้แล้วเขาเอามาให้เรา เราเลยรู้สึกว่าเราซึ้งใจในตัวเขา เราถึงบอกเขาเสมอว่าอย่าใช้เงินฟุ่มเฟือยมาก ใช้เงินแบบประหยัดๆ แล้วให้จำถึงวันที่เรากินข้าวข้างทางกัน มีเงินร้อยกว่าบาทกัน เราไม่ได้อวด เราไม่ได้โชว์ เราไม่ได้สร้างภาพ แต่เราต้องการชมเขาให้สังคมได้เห็นในมุมนี้ของเขาบ้าง ว่าเขาไม่ได้แย่นะ เขามีมุมที่ดีนะ คนทำดีอย่าไปด่า เราต้องชมต้องส่งเสริมให้เขาได้ทำความดี”

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image