เมื่อ ‘วัฎจักรของพระเอก’ คือข้อกำหนด และ 2 ทางเลือก ‘ภรรยา’ หรือว่า ‘บวช’?

เมื่อ ‘วัฎจักรของพระเอก’ คือข้อกำหนด และ 2 ทางเลือก ‘ภรรยา’ หรือว่า ‘บวช’?

“อันนี้เป็นคำถามที่ดี” เกรท วรินทร ปัญหกาญจน์ บอกพลางหัวเราะร่วน เมื่อเจอคนขี้สงสัยไต่ถาม ว่าถ้าไม่ได้เป็นนักแสดง ชีวิตวันนี้ของเขาจะเป็นเสี่ยร้านทอง ดูแลกิจการของครอบครัว หรือทำงานด้านอินทีเรีย ดีไซน์ ตามที่เรียนจบมาจากคณะสาขาออกแบบตกแต่งภายใน มหาวิทยาลัยรังสิต

นิ่งคิดอยู่แป๊บนึง แล้วจึงบอกด้วยคำพูดชัดเจน พร้อมดวงตาที่เหมือนจะมีรอยยิ้มปรากฏอยู่ ว่าแนวโน้มน่าจะกลับบ้านไปขายทองมากกว่า เนื่องจากฝีมือด้านอินทีเรีย ดีไซน์ไม่น่าสู้คนอื่นได้ ด้วยความที่เรียนสายวิทย์ แต่ดั๊นเลือกเอ็นทรานซ์เข้าสายศิลป์ จึงรู้สึกเสมอว่าเพื่อนๆที่จบสายศิลป์โดยตรง เรียนช่างศิลป์มาฝีมือจะดีกว่าเขา ด้วยเหตุนี้พอมีคนชวนให้ไปแคสต์งานโฆษณา ไปถ่ายแบบ ไปเดินแฟชั่น ตั้งแต่ตอนเรียนมหาวิทยาลัยปี 3 แล้วพบว่าสนุก ถูกจริต ก็คิดว่าเป็นเส้นทางที่ไม่เลว และสุดท้ายตัดสินใจตอบรับเมื่อช่อง 3 ชวนเป็นนักแสดงในสังกัดในช่วงที่เรียนจบพอดิบพอดี

พระเอกคนดังยังเล่าถึงช่วงเริ่มต้นในวงการบันเทิงว่า เขาต้องเข้าคลาสเรียนการแสดงที่ช่องจัดไว้ เพื่อฝึกปรือนักแสดงหน้าใหม่ ซึ่งทั้งเหนื่อย ทั้งท้อ แต่เมื่อวัดระดับกับความสนุกที่ได้แล้ว อย่างหลังมีมากกว่า จึงตัดสินใจตั้งแต่ตอนนั้นว่าโฟกัสเฉพาะสิ่งที่ตรงหน้า

“บอกตัวเองว่า ถ้าเราตั้งใจ มันก็เป็นอาชีพของเราได้”

Advertisement

แล้วก็ได้จริง

“พอได้เข้ามาอยู่ในจุดที่ไม่คาดคิด เคยดูทีวี ดูบอลดารา วันหนึ่งได้มาเตะบอลดารา ได้มาอยู่ตรงนี้ มันเป็นอะไรที่เกินเป้าหมาย เป็นกำไรชีวิต”

เกรทซึ่งอยู่ในวงการมากว่า 10 ปี บอกด้วยว่า ในวัย 36 ณ ปัจจุบัน เขาได้เตรียมพร้อมแล้ว ที่จะพบกับ ‘วัฏจักร’

Advertisement

“ผมเคยเป็นเด็กใหม่มาก่อน ก็จะมองเห็นรุ่นพี่ วันนี้เด็กๆคงมองผมแบบนั้นเหมือนกัน” นึกถึงจุดนี้แล้วเขาหัวเราะอีก

จากนั้นจึงว่า “เลยเข้าใจจุดนี้ดี ว่ามันมีอายุการใช้งาน ต้องยอมรับความจริงให้ได้”

หากขณะเดียวกัน ก็ใช่ว่าจะปล่อยผ่าน เพราะ “ผมก็อยากดูแลตัวเองให้ดีที่สุด รูปร่าง หน้าตา ฝีมือ อย่างน้อยที่สุด ฝีมือต้องไม่ห่วยลงนะ หน้าตาก็ต้องดีขึ้น ถึงเราจะแก่ขึ้น แต่ก็ต้องดูแลตัวเอง ส่วนวันหนึ่งถ้าจะต้องไปเล่นเป็นพ่อ เป็นพี่พระเอก ก็ต้องเข้าใจ แล้วถ้าวันนั้นมาถึง ก็ค่อยถามตัวเองว่าเรายังแฮปปี้อยู่ไหมที่จะยังทำงานเบื้องหน้า”

“แต่โดยส่วนตัวระยะสั้น ผมตั้งใจยืนอยู่ตรงนี้อีกสัก 5 ปี 40 แล้วผมก็ยังจะต้องเป็นพระเอก ตั้งเป้ากับตัวเองว่าเราจะทำให้ดีที่สุด อยู่เบื้องหน้าให้นานที่สุด จนกว่าจะไม่ได้เป็นพระเอกแล้ว ค่อยมาหาแนวทางอีกที ว่าจะเอายังไงต่อ”

ส่วนเรื่องของหัวใจ เกรทบอกเลยว่า ไม่แน่ใจจริงๆว่า จะเลือกมีชีวิตคู่ หรือก้าวสู่ทางธรรม เหตุผลนั้นเป็นเพราะหลังจากเข้าพิธีอุปสมบทไปเมื่อปี 2560 และมีโอกาสเรียนรู้พระธรรมอยู่ราว 1 เดือน ก็ “รู้สึกว่าตัวเองเปลี่ยนไปเป็นอีกคนหนึ่ง”

“ตกตะกอนความคิดได้หลายๆอย่าง”

“รู้สึกชีวิตนิ่งขึ้น รู้ว่าอะไรเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ที่ไม่ใช่เงิน”

“คนเราอยากมีความสุข ไม่อยากมีความทุกข์ ซึ่งถ้าวันหนึ่งเจอใครที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขถึงขั้นทำให้เราเลิกหวงความโสด วันนั้นค่อยว่ากัน”

“ผมไม่ปิดกั้นตัวเอง แต่ก็ไม่คาดหวัง เพราะว่าในอนาคตอาจจะบวช ซึ้งในรสพระธรรม อยู่คนเดียวแล้วแฮปปี้มาก เป็นอย่างนั้นจริงๆ มันรับรู้ได้ว่าความสุขที่แท้จริงคืออะไร ช่วงเวลาที่หยุดนิ่งอยู่กับปัจจุบัน   มันคือความสุขจริงๆ”

“ทุกวันนี้ค่อนข้างย้อนแย้งกับการทำงานในวงการบันเทิง เวลากลับมาอยู่บ้าน ได้วางโทรศัพท์ นั่งอ่านหนังสือ ดูต้นไม้ มันมีความสุขโดยไม่ต้องมีเงินเยอะก็ได้ เบาสบาย รับรู้ได้ว่าความสุขจริงๆอยู่ตรงนั้น ความสุขที่แท้จริงคือความสงบ แต่ว่าตอนนี้ผมยืนอยู่บนโลก ที่ต้องทำงานหาเลี้ยงชีพ ก็ต้องทำอย่างไรให้งานที่ทำ กับความสุขที่เราชอบ ไม่ย้อนแย้งกัน ก็ทำงานด้วยความตั้งใจ แต่อย่าหลงระเริงไปกับชื่อเสียง คำเยินยอ”

“เพราะฉะนั้นถ้าไม่มีเมีย ผมอาจจะบวชก็ได้”

นั่นคือความตั้งใจที่เกรท วรินทร ปัญหกาญจน์ ประกาศไว้ ณ ปัจจุบัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image