ที่มา | นสพ.มติชน |
---|---|
ผู้เขียน | มติชม |
หนังชุดนักเรียนญี่ปุ่นที่สร้างด้วยการนำนักร้องวัยรุ่นจากสองค่ายเพลงยักษ์มาแสดง ฝ่ายชายมาจากค่ายจอห์นนี่่ ฝ่ายหญิงมาจากเอเคบี 48 ทีม 4
ชิริทสึ บากะลียะ โคอุโคอุ (shiritsu bakaleya koukou) หรือ โรงเรียนมัธยมบากะลียะ โดยนำชื่อโรงเรียนชาย บากะดะ ที่มีแต่นักเรียนวัยรุ่นจอมก่อเรื่อง ชกต่อยกับวัยรุ่นถิ่นอื่นไม่เว้นแต่ละวัน ผสมกับชื่อ คัทลียะ โรงเรียนวัยรุ่นหญิงซึ่งล้วนเป็นคุณหนูลูกสาวคนรวย ที่แตกต่างกับฝ่ายชายสุดขั้ว มาเรียนรวมกันเป็นสหศึกษา
แน่นอนว่า เรื่องคาดไม่ถึงนานาย่อมเกิดขึ้น
แต่หนังชุด 12 ตอนเรื่องนี้ กลับเสนอได้อย่างชวนติดตาม โดยเฉพาะเมื่อเป็นหนังชุดญี่ปุ่นที่จำนวนตอนกระชับชัดเจน การวางประเด็นจึงสามารถคาดเดาการดำเนินเรื่องได้ เพียงแต่เรื่องที่เดาทางได้นี้ ทำได้น่ารักน่าประทับใจ
เมื่อเหล่านักเรียนหญิงซึ่งแต่งเครื่องแบบเรียบร้อยงดงาม ไปเห็นโรงเรียนชายที่ต้องเรียนร่วม สกปรกเลอะเทอะด้วยสีสันฝีมือจิตรกรข้างถนนเต็มฝาห้อง เกลื่อนด้วยขยะ ไร้ระเบียบ แต่ละคนแต่งตัวแบบนักเรียนแยงกี้ มีเครื่องแบบก็เหมือนไม่มี พวกเธอจึงเปลี่ยนโฉมเสียทั้งห้องเรียนโต๊ะเรียน ทิ้งของเก่าเอาของใหม่มาแทน กระทั่งห้องน้ำก็เปลี่ยนจากโถนั่งธรรมดาเป็นแบบอุปกรณ์ไฟฟ้าทันสมัยครบครัน ชนิดนักเรียนชายไม่เคยเห็น
สร้างความตระหนกหัวเสียกับบรรดาแยงกี้จนงงงัน ต้องเที่ยววิ่งหาโต๊ะเรียนตัวเดิมกลับมากันทั่วตลาดร้านค้า ซึ่งกลับทำให้ฝ่ายหญิงงงไปด้วยเช่นกัน ว่าแค่โต๊ะเก่าสกปรกแต่ละตัว จะอะไรกันนักหนา ใหม่ๆไม่ดีกว่าเหรอ
ไม่เข้าใจว่า โต๊ะแต่ละตัวมีความเป็นมา มีจิตวิญญาณของรุ่นพี่ที่ยกต่อให้รุ่นน้อง มีความทรงจำของแต่ละคนที่ขูดขีดเรื่องราวสลักเสลาลงไป บางตัวยังเก็บหนังสือโป๊เป็นสมบัติล้ำค่า
ฝ่ายหญิงค่อยๆได้เรียนรู้วิถีชีวิต ความคิด ความรู้สึกของฝ่ายชาย ขณะที่ฝ่ายชายก็ค่อยๆได้ซึมซับกฎ กติกาอารยะ แลกเปลี่ยนกับรางวัลที่ฝ่ายหญิงต่อรองต่อการอยู่ร่วมกัน
และในทางกลับกัน ความรัก ความเชื่อถือไว้วางใจ มิตรภาพอันมั่นคงระหว่างกันในหมู่ฝ่ายชาย ก็ค่อยๆเป็นตัวอย่างถมช่องว่างระหว่างกฎ กติกาอารยะ ที่เป็นรูปแบบอยู่ในหมู่ฝ่ายหญิง ให้ก้าวข้ามกรอบของตัวเองได้มากขึ้น
การชกต่อยกับแยงกี้ต่างโรงเรียนเกือบตลอดเวลาของฝ่ายชาย มิได้ทำร้ายฆ่าฟันกันตามอำเภอใจไร้สาเหตุ แต่เจ็บตัวเหนื่อยพอแล้วก็หยุด ไว้วันหลังค่อยตีกันใหม่
ต่างฝ่ายต่างก็มีวิถีความเชื่อมั่นในพลังมิตรภาพตามแบบของตัว เห็นแล้วนึกถึงเหล่าซามูไรซึ่งภักดีต่อนายของตน มีคุณค่าที่เชื่อว่าเป็นเกียรติและศักดิ์ศรียึดโยงอยู่กับความรุนแรงเหล่านั้น
และแน่นอนอีกเช่นกันว่า เมื่อเป็นวัยเติบโตของหนุ่มสาว ย่อมมีความติดตาต้องใจหรือรู้สึกปฏิพัทธ์เกิดขึ้น แต่ก็เป็นไปทางเรียนรู้ คาดหมายกันและกัน โดยปรารถนาดี
แม้จะมีเรื่องชกต่อยไม่ขาดตอน หนังก็เดินไปอย่างน่าเอ็นดู ถึงจะเป็นวัยมัธยม แต่สังคมซึ่งมีวัฒนธรรมแข็งอย่างญี่ปุ่น รับของใหม่เต็มที่ ขณะเดียวกันก็พยายามรักษาของเดิมไว้เหนียวแน่นเท่าที่จะสามารถ วัยรุ่นหญิงชายเหล่านั้นถ่ายทอดการเรียนรู้ประสบการณ์ลักษณะต่างๆออกมาชวนให้ผู้ชมอมยิ้ม
ก่อนสองตอนสุดท้ายจะงวดลงอย่างมีฝีมือน่าประทับใจ
ตัวละครหญิงชายมีอยู่มาก และการแจกบทก็ทำตามลำดับความสำคัญได้ชนิดไม่หลงลืมใคร ทัตสึยะ ซึ่งเข้มแข็งเมื่อเขาพร้อม เทตสึยะ ผู้ชายเยือกเย็น ซาโตชิ งี่เง่าที่สุด มายะ โมโหร้ายที่สุด โชเฮ หล่อที่สุด ยูคิ พูดได้สองภาษาแต่เพื่อนไม่เข้าใจ มาโคโตะ หุนหันพลันแล่นที่สุด ส่วนฝ่ายหญิงก็มี ฟุมิเอะ ประธานนักเรียนกับ ซายะ รองประธานเป็นต้น
ผู้ชมอาจคุ้นเคยกับหนังชุดวัยรุ่นญี่ปุ่นที่ฝ่ายหญิงเพ้อฝันถึงฝ่ายชายรูปหล่อ หรือที่เป็นคนดังมีความสามารถ แต่ถึงอย่างนั้นก็มิได้ตบตีแย่งผู้ชายกันจนเสียกิริยา
เรื่องนี้ยิ่งห่างไกลภาพเหล่านั้น.