เป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ที่สร้างจากเรื่องจริง สำหรับ DEEPWATER HORIZON (ดีปวอเทอร์ ฮอไรซัน) ที่เล่าถึงเหตุการณ์หายนะแท่นขุดเจาะน้ำมันระเบิดครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ผลงานกำกับของ ปีเตอร์ เบิร์ก นำแสดงโดย มาร์ค วาห์ลเบิร์ก , ดีแลน โอ ไบรอัน
ซึ่งก่อนที่จะเข้าไปชมภาพยนตร์เรื่องนี้ มติชนออนไลน์ ก็มี 10 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ DEEPWATER HORIZON มาฝาก เป็นการเรียกน้ำย่อยก่อนฉายจริงวันที่ 29 ก.ย. นี้
1. เหตุการณ์ในหนังคือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2010 เกิดจากการรั่วไหลของน้ำมันดิบปริมาณมหาศาลในอ่าวเม็กซิโก ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้นถูกบันทึกเป็นมหันตภัยจากน้ำมือมนุษย์ครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ ก่อนจะกลายมาเป็นมหันตภัยที่ก่อให้เกิดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมที่ใหญ่ที่สุดของอเมริกา
2. DEEPWATER HORIZON คือชื่อของสถานีขุดเจาะน้ำมันขนาดมหึมา สร้างโดยบริษัทฮุนได เฮฟวี่ อินดัสทรี่ รับสัมปทานโดยบริษัทบริติช ปริโตเลี่ยม ผ่านการปฏิบัติงานโดยเจ้าหน้าที่ทีมขุดเจาะน้ำมันจากบริษัททรานส์โอเชียน ตั้งอยู่ที่อ่าวเม็กซิโก 41 ไมล์ จากชายฝั่งหลุยส์เซียน่า โดยสามารถขุดเจาะน้ำมันได้ที่ระดับความลึกถึง 23,400 ฟุต และเคยสร้างสถิติขุดได้ลึกที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ระดับความลึกถึง 35,055 ฟุต
3.ในช่วงเวลาที่เกิดเหตุระเบิด ประมาณการว่ามีน้ำมันดิบรั่วไหลทะลักลงทะเล 12,000 ถึง 100,000 บาร์เรล (1.9 ล้าน ถึง 16 ล้านลิตรต่อวัน) ก่อให้เกิดภาวะปนเปื้อนกินอาณาเขตสูงสุดถึง 24,000 ตารางกิโลเมตร ซึ่งภายหลังเหตุการณ์นี้มีการคาดการณ์ว่ามีน้ำมันรั่วไหลทั้งสิ้น 4.9 ล้านบาร์เรล ลุกลามเข้าไปยัง 5 ชายฝั่งสำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ หลุยส์เซียน่า, มิสซิสซิปปี้, เท็กซัส, ฟลอริดา และอลาบาม่า
4.องค์การคุ้มครองสิ่งแวดล้อมโลกประกาศให้ บริษัทบี พี อินดัสเตรียล ห้ามทำสัญญาใหม่กับรัฐบาลสหรัฐชั่วคราว กระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้ตกลงกับบีพีในการตั้งค่าปรับและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในเหตุการณ์นี้ถึง 4.525 พันล้านเหรียญ ซึ่งสูงเป็นประวัติการณ์
5.ทีมงานของบริษัททรานส์โอเชียนที่ประจำการในสถานีขุดเจาะดีพวอเทอร์ ฮอไรซันได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในทีมขุดเจาะที่ชำนาญที่สุดในโลก โดยก่อนหน้านี้ในปี 2009 ทีมงานกลุ่มนี้ได้ทำสถิติเจาะผิวโลกลงไปลึกที่สุด ที่ระดับ 35,055 ฟุต ใต้พื้นดิน
6.DEEPWATER HORIZON ถือเป็นความก้าวหน้าด้านวิศวกรรม เพราะแท่นขุดเจาะนอกชายฝั่งมีขนาดใหญ่เหมือนกับเรือสำราญ ถือเป็นงานสถาปัตยกรรมอันซับซ้อน ดาดฟ้ามีความกว้างเทียบเท่าสนามอเมริกันฟุตบอล มีความสูงทั้งหมดเทียบเท่าตึก 25 ชั้น สามารถบรรทุกลูกเรือได้ทั้งสิ้น 146 คน เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น โรงยิม และโรงภาพยนตร์ เทคโนโลยีที่ใช้นั้นถือว่าก้าวล้ำใกล้เคียงกับยานอวกาศ ตั้งแต่หัวขุดเจาะที่ควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ไปจนถึงระบบรักษาความปลอดภัยระดับสุดยอด
7.ผลของเหตุการณ์นี้ แม้แต่ดาวเทียมจากนอกโลก ยังสามารถมองเห็นภาพทะเลที่เต็มไปด้วยคราบน้ำมันมหาศาลได้
8.ผลของเหตุการณ์ยังส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ของสิ่งมีชีวิตทางทะเลกว่า 8,332 สปีชีส์ เกิดเป็นสารพิษรุนแรงที่ชื่อ “PAHs” (Polycyclic aromatic hydrocarbons) ที่มีส่วนทำให้ออกซิเจนในท้องทะเลลดลงเป็นจำนวนมาก
9.เหตุการณ์ที่เกิดทำให้เกิดแรงกระเพื่อมสั่นสะเทือนไปยังภาคเศรษฐกิจและการค้าแก่ชาวอเมริกา รวมทั้งยังลามไปถึงทั่วโลก จนเกิดการเลิกจ้างงานในธุรกิจต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบมากกว่า 47,000 อัตรา
10.หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว มีอาสาสมัครกว่า 3 หมื่นคนเข้าร่วมกันช่วยกำจัดคราบน้ำมันริมชายฝั่ง ทำความสะอาดชายหาด ดูแลสัตว์ที่ได้รับผลกระทบ และหน้าที่อื่นๆ อีกมากมาย แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมหาสมุทรในอ่าวเม็กซิโกยังคงมีร่องรอยของคราบน้ำมันเหลือทิ้งเอาไว้เป็นเสมือนเครื่องเตือนใจชาวอเมริกันและคนทั้งโลก