Sweet Tooth ความหวังท่ามกลางความมืดมิด

Sweet Tooth ความหวังท่ามกลางความมืดมิด

Sweet Tooth
ความหวังท่ามกลางความมืดมิด

เมื่อโลกล่มสลายด้วยเชื้อไวรัสที่แพร่ระบาดลุกลามไปทั่ว พร้อมๆ กับที่เกิดปรากฏการณ์เด็กที่เกิดใหม่ในช่วงการเกิดขึ้นของไวรัสมรณะสายพันธุ์นี้ต่างถือกำเนิดออกมาเป็น “ครึ่งคนครึ่งสัตว์” หรือเป็นเด็กไฮบริด จนทำให้ผู้คนหวาดกลัว

กระทั่งพ่อคนหนึ่งพาทารกน้อย “กัส” ที่เป็นเด็กไฮบริดครึ่งคนครึ่งกวางหลบหนีจากสังคมและผู้คนมาใช้ชีวิตเร้นลับในป่าอุทยานแห่งชาติยาวนานนับ 10 ปี เลี้ยงดูจนเติบโต พร้อมกับสอนทักษะการเอาตัวรอด การใช้ชีวิต สอนพูด อ่านและเขียน เล่าเรื่องราวของโลกบางแง่มุมให้เด็กน้อยได้รู้จัก แต่ก็ย้ำเตือนเสมอว่าโลกข้างนอกนั้นอันตราย การหลบซ่อนในป่า ไม่ข้ามรั้วออกไป จึงเป็นหนทางที่ปลอดภัยที่สุดของพ่อลูกคู่นี้ แต่แล้วเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันก็ทำให้การผจญภัยของ “กัส” ไฮบริดน้อยวัย 10 ขวบ เริ่มต้นขึ้น

“Sweet Tooth” ซีรีส์แฟนตาซีที่ดัดแปลงจากนิยายภาพของ DC Vertigo วางจำหน่ายตั้งแต่ปี 2009 และจบในปี 2013 ถูกนำมาดัดแปลงเป็นซีรีส์สตรีมมิ่งฉายทางเน็ตฟลิกซ์พร้อมกันทั่วโลกเมื่อ 4 มิถุนายนที่ผ่านมา ด้วยคะแนนบวกจากทั้งคนดูและนักวิจารณ์ ซีรีส์ขึ้นอันดับหนึ่งยอดชมสูงสุดในสหรัฐอเมริกาและอีกหลายประเทศ ด้วยเนื้อเรื่องที่คนดูจะหลงรักและติดหนึบเอาได้ง่าย เพราะว่าด้วยเรื่องราวหลังวันสิ้นโลก เมื่อโลกถูกถล่มด้วยเชื้อไวรัสที่ทำให้ผู้คนติดเชื้อล้มตายจำนวนมาก โดยที่ระยะเวลาการระบาดนั้นกินเวลายาวนานมาแล้วถึง 10 ปี และยังคงดำเนินต่อไป ขณะนั้นโลกก็ยังอุบัติสิ่งมหัศจรรย์เมื่อเด็กๆ ที่ถือกำเนิดมาในยุคไวรัสระบาดต่างออกมาในสภาพเป็นเด็กกลายพันธุ์ครึ่งสัตว์ครึ่งคน จนผู้คนต่างหวาดกลัวและเชื่อมโยงว่าเด็กไฮบริดเหล่านี้เป็นต้นเหตุของไวรัสร้ายที่โลกยังหาวิธีรักษาไม่ได้ จนทำให้เกิดปฏิบัติการไล่ล่าสังหารเด็กไฮบริดเกิดขึ้นทั่วพื้นที่

Advertisement

เรื่องราวที่เกิดขึ้นตลอด 10 ปี หลังวันสิ้นโลก ผู้คนยังต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยความวิตกกังวลว่าการระบาดระลอกใหม่พร้อมจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา การเร่งเวลาคิดค้นยารักษาไวรัสจึงถูกบีบเข้ามาทุกขณะ และยิ่งทำให้กองกำลังทหาร นำโดยนายพลสายโหดที่มุ่งหวังขึ้นเป็นชนชั้นปกครองมีอำนาจเหนือทุกอย่าง ยิ่งขยายการไล่ล่าจับตัวเด็กๆ ไฮบริดหนักมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเมื่องานวิจัยทางการแพทย์ค้นพบว่ารหัสดีเอ็นเอของเด็กไฮบริดนั้นอาจจะเป็นตัวยารักษาไวรัสได้ ซึ่งใครที่ครอบครองวัคซีนหรือยารักษาไวรัสได้สำเร็จคนนั้นก็เหมือนได้กลับมาครองโลกนั่นเอง

ชะตากรรมของเหล่าเด็กไฮบริดจึงตกอยู่ในอันตรายนับตั้งแต่เกิดเลยทีเดียว เพราะพวกเขาจะต้องถูกจับเข้ามาในห้องทดลองถูกชำแหละเพื่อการทดสอบวิจัยทางการแพทย์ ขณะที่สภาพสังคมในยุคสิ้นโลก ผู้คนต่างหมกมุ่นกับการเอาตัวรอดด้วยวิธีต่างๆ จนแทบไม่มีใครเห็นใจใคร นอกจากนี้ยังมีเส้นเรื่องการต่อต้านระหว่างเจเนอเรชั่นเมื่อกลุ่มคนรุ่นใหม่เชื่อว่า เด็กไฮบริดคืออนาคตของมนุษยชาติบนโลกใบนี้ที่ต้องปกป้องไว้ ทำให้เกิดการต่อสู้ระหว่างอำนาจเชิงอนุรักษ์กับความท้าทายจากมุมมองคนรุ่นใหม่

เล่ามาแบบนี้เนื้อแท้ของ “Sweet Tooth” คือเรื่องราวสุดดาร์ก หดหู่ ซึ่งในเวอร์ชั่นนิยายภาพต้นฉบับนั้นมีเรื่องราวที่หนักหน่วงและหดหู่กว่าซีรีส์มาก บรรยากาศของเรื่อง และสถานการณ์ที่ตัวละครต้องเผชิญ ไปจนถึงลายเส้นของนิยายภาพนั้นสร้างอารมณ์ให้คนดูสัมผัสได้ถึงบรรยากาศความหลอนของโลกที่ล่มสลาย แต่บนความโหดร้ายนั้นประเด็นหลักของเรื่องคือ “ความหวัง” ที่ไม่ย่อท้อต่ออนาคตที่ไม่รู้ชะตากรรม ยังคงเป็นแก่นหลักที่ถูกส่งต่อมายังในเวอร์ชั่นซีรีส์ที่เล่าเรื่องในแบบนิทานแฟนตาซีที่มีโทนอบอุ่นกว่ามาก พร้อมกับการออกแบบงานโปรดักชั่นด้วยมู้ดและโทนสดใสมากขึ้น บทและตัวละครถูกเล่าให้มีความซอฟต์ขึ้นกว่าในเวอร์ชั่นนิยายภาพ โดยเฉพาะฉากสวยๆ ในเรื่องที่เป็นผืนป่ากว้างใหญ่ตระการตานั้นทำให้คนดูเพลินตามากกว่าจะเห็นสภาพของเมืองและชุมชนที่มีแต่ความหม่นหมอง เมืองร้างทรุดโทรม ผู้คนติดเชื้อไวรัสนอนตายกลาดเกลื่อนอย่างในเวอร์ชั่นนิยายภาพ นอกจากนี้ยังมีการสร้างตัวละครหลักเพิ่มมาในเวอร์ชั่นซีรีส์เพื่อดึงอรรถรส และหลบความหดหู่ของตัวละครบางตัวในเวอร์ชั่นนิยายภาพที่ไม่ถูกนำมาเล่าในซีรีส์

Advertisement

อีกจุดพิเศษที่ถือเป็นจุดขายของซีรีส์เรื่องนี้ คือความน่ารักและน่าเอ็นดูของตัวละครหลัก “กัส” เด็กชายครึ่งคนครึ่งกวาง เจ้าของฉายา “จอมเขมือบของหวาน” หรือ Sweet Tooth นั่นเอง แสดงโดยหนูน้อย คริสเตียน คอนเวรี ที่ดีไซน์คาแร็กเตอร์และให้การแสดงที่ทำให้คนดูหลงรักในความสดใสไร้เดียงสาของเจ้าหนูกวางน้อย ที่แฝงความมุ่งมั่น กล้าหาญไว้ได้ตลอดเรื่อง เพราะหลังออกจากป่าในอุทยานที่เขาคุ้นเคยมา 10 ปี เพื่อไปตามหาต้นตอรากกำเนิดของตัวเอง “กัส” ค่อยๆ เรียนรู้โลกภายนอกที่เขาไม่เคยรู้จักมาก่อน โลกข้างนอกที่ไม่ได้มีแค่นิยายและนิทานที่พ่อเล่าให้ฟังอีกต่อไป เขาได้พบเจอหลากหลายเหตุการณ์ เจอผู้คนทั้งดีและร้าย ค้นพบมิตรภาพใหม่ๆ ที่ไม่น่าเป็นไปได้ ที่สำคัญเราจะได้เห็นถึงการเลือกตัดสินใจของ “กัส” ที่แม้ไม่แน่ใจนักว่าอนาคตข้างหน้าคืออะไร มันอาจไม่ใช่สิ่งที่ถูกเสมอไป แต่กัสก็ได้เรียนรู้ว่าทุกการตัดสินใจคือส่วนหนึ่งของการเติบโตของเขานั่นเอง

“ความหวังท่ามกลางความมืดมิด” เป็นหนึ่งในแนวคิดหลักจากเรื่อง “Sweet Tooth” ทั้งเวอร์ชั่นนิยายภาพและส่งต่อมาถึงซีรีส์ ดั่งที่ เจฟ เลอไมร์ ผู้แต่ง Sweet Tooth ฉบับนิยายภาพ บอกไว้ว่า “นี่คือเรื่องราวที่เราต้องการอย่างยิ่งในตอนนี้ยิ่งกว่าตอนไหนๆ”

นั่นก็เพราะวันนี้โลกกำลังเผชิญสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาด ถึงจะไม่ใช่วันสิ้นโลก แต่สถานการณ์นี้ก็ทำให้โลกสูญเสียอย่างมาก ผู้คนหวาดกลัวและยังไม่เห็นชัดเจนว่าโลกจะคลี่คลายจากไวรัสโควิด-19 เมื่อไร เรื่องราวใน Sweet Tooth จึงมาในห้วงจังหวะที่อยากจะส่งต่อความหวังให้เราทุกคนไม่ว่าอนาคตจะเป็นเช่นใด

ภาพประกอบ Youtube Video / Netflix

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image