ศิรศักดิ์ พ้อ คนดนตรี ถูกหาเป็นต้นเหตุ ไร้การเยียวยา ถามกลับ คลัสเตอร์อื่นรับผิดชอบไหม

ศิรศักดิ์ พ้อ คนดนตรี ต้องสู้โดยไร้การเยียวยามานาน ทั้งถูกหาเป็นต้นเหตุ ถามกลับ คลัสเตอร์อื่นรับผิดชอบไหม

เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน ปิงปอง ศิรศักดิ์ นักร้องนักดนตรีชื่อดัง ได้แชร์โพสต์ของร้าน East Bar ที่เผยภาพของร้านที่ปิดเงียบ และว่า

“นี่คือสภาพร้าน East Bar ในวันนี้
ตลอด 1 ปีครึ่งที่ผ่านมา ร้านเราได้ทำการปิดแล้วเกือบ 6 เดือน หรือ 1/3 ของช่วงเวลาทั้งหมด ถ้าถามเราว่า ที่ผ่านมาเราทำอะไรไปบ้าง
ตลอดช่วงเวลาที่เราปิดตลอดมา เราได้ทำอะไรหลายๆ อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น
– ขายอาหารผ่าน Grab, Food Panda
– ทำอาหารส่งเอง
– เปิดหน้าร้านขายเครื่องดื่ม
– live ดนตรี ในลูกค้า ผ่าน facebook
– เปิดฉายข้อความทางร้าน
– เปิดขายอาหารกลางวัน และกลางคืน (ไม่มีเครื่องดื่ม) > แต่ทำไม่ได้เนื่องจากภาพลักษณ์เป็นร้านคล้ายสถานบริการ
แต่ทั้งหมดทั้งมวลไม่ได้ทำอะไรร้านถึง “จุดคุ้มทุน” เลยแม้แต่น้อย แต่ร้านก็ยังไม่ท้อแท้ที่จะพยายามรักษาพนักงาน ไว้เท่าที่ร้านจะไปต่อได้ โดยทางร้านก็ยังมี Fixed cost ที่ต้องจ่ายอยู่รายเดือนในทุกเดือน และเราก็ยังสู้ต่อไป อีกทั้งทางเราก็มีพนักงานหลายคน ที่มีงานใหม่และมีรายได้ ทางร้านก็ดีใจกับน้อง ๆ พนักงานอย่างยิ่ง

เราเข้าใจดีว่า การเปิดร้านกลางคืน อาจจะทำให้มีการติดเชื้อเพิ่มขึ้น และไม่ได้ต้องการให้กลับมาเปิดถ้ายังมีผู้ติดเชื่ออยู่ (ซึ่งตอนแรกทางร้านดำเนินการปิดเองด้วยซ้ำ ก่อนมาตรการรัฐ เนื่องจากไม่อยากให้ลูกค้าหรือพนักงานทุกๆคนมีความเสี่ยง)
แต่อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาทั้งหมด ปราศจากการเยียวยา หรือช่วยเหลือใด ๆ ทั้งสิ้นจากภาครัฐ ซึ่งคล้ายกับการปล่อยให้ SME ตัวเล็ก ๆ สู้ด้วยตัวเอง ทางเราจึงอยากให้มีการสนับสนุน

1. นโยบายจากภาครัฐ อย่างน้อยการสนับสนุนมาตรการช่วยเหลือให้แก่ร้านกลางคืน เพียงแค่ ค่า Fixed cost เล็กๆน้อยๆ เพื่อให้ SME เล็กๆ ยังดำเนินต่อไปได้
2. การเข้าถึง “สินเชื่อ” จากธนาคาร หรือภาครัฐเอง แม้นโยบายจากรัฐสนับสนุนสินเชื่อให้การ SME แต่ในทางปฏิบัติ ร้านกลางคืนยังถูกมองว่าเป็นร้านที่เสี่ยงต่อการจ่ายสินเชื่อ ทำให้ SME กลางคืนยังไม่ได้รับการช่วยเหลือใด ๆ ในส่วนนี้
3. การที่มีนโยบายชัดเจน ไม่ทิ้งร้านกลางคืนไว้ข้างหลัง เพราะตอนนี้หลาย ๆ sme ที่เคยเป็น GDP ให้กับประเทศ กำลังทยอยหายไปจากระบบแล้ว และกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก
ทั้งหมดนี้ร้านยังสู้ต่อไป ด้วยตัวของเราเอง และยังให้กำลังใจเพื่อน ๆ SME กลางคืนหลาย ๆ ท่าน และพนักงานของเราทุกคน ที่สู้ไปด้วยกันครับ
หากประสบปัญหาเดียวกัน แชร์ออกมาเยอะ ๆ นะครับ”

Advertisement

โดย ศิรศักดิ์ ได้แสดงความคิดเห็นว่า

“ไม่นานนี้มีคนรีทวิตไปด่าผมกันรัวๆ (หลักๆคือเหล่าคนที่มีรูปโพรไฟล์ธงชาติกับตัวมินเนี่ยน) บอกว่านักร้องอย่างผมและสถานบริการเหล่านี้คือต้นเหตุของโรคระบาด โดยไม่ได้สนใจว่าคลัสเตอร์ใหญ่ๆ ที่เกิดขึ้นทุกครั้งมาจากใคร และเขาออกมาแสดงความรับผิดชอบกันไหม

จริงๆ อยากจะพูดเรื่องนี้ยาวๆ แต่ก็ยังกลัวตายหรือหายสาบสูญอะนะ เอาเป็นว่าพวกเขาก็เป็นคนทำงาน พวกเขาหลายคนเคยถูกสังคมทำให้เชื่อว่าถ้าจะทำอะไรต้องทุ่มเทในทางนั้นให้สุด พวกเขาบางคนเลือกที่จะเรียนรู้อะไรเพียงด้านเดียวเพื่อเป็นที่สุดในด้านนั้น มันไม่ใช่ความโง่ที่เขาไม่มีอาชีพสำรอง ไม่ใช่ความโง่ที่เลือกเข้ามหาลัยคณะดนตรี(ไม่งั้นก็ปิดไปเถอะครับคณะดุริยางค์หรือศิลปกรรมอะ)
และพวกเขาก็กลัวตายและมีครอบครัวเช่นกัน

Advertisement

แน่นอนว่าในทุกวงการต้องมีคนเ_ย แต่ไม่ใช่ว่านักดนตรีกับคนทำสถานบริการจะเ_ยทุกคน
ตอนนี้พวกเขาพยายามต่อสู้เหมือนคนอื่นโดยไม่ได้รับการเยียวยาใดๆ มานานแล้ว
..ก็นะ ตราบใดที่…ยังพยายามให้มันเป็นสีเทาต่อไปเพื่อประโยชน์บางอย่าง มันก็คงจะเป็นแบบนี้ต่อไป คนในแวดวงอาชีพนี้คงเข้าใจนะ ทั้งคนที่ไม่อยากให้มันเทาอีกแล้ว และคนที่ได้ประโยชน์จากความเทานี้
ให้กำลังใจคนทำงานสุจริตที่กำลังต่อสู้ทุกคนครับ
ป.ล.และมันก็มีอยู่จริงนะ คนที่อยู่กับความเทามานานจนคิดว่านี่มันเป็นเรื่องปกติ มันดีแล้วไม่เห็นจะมีอะไรไม่ถูกต้องอะ”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image