‘เห็ดเผาะ’ เจอพิษโควิดทำธุรกิจเจ๊ง บ้าน-รถถูกยึด เตรียมย้ายไปอยู่อเมริกา

‘เห็ดเผาะ’ เจอพิษโควิดทำธุรกิจเจ๊ง บ้าน-รถถูกยึด เตรียมย้ายไปอยู่อเมริกา

ชีวิตจริงของนักแสดงตลกที่เธอสร้างรอยยิ้มให้กับทุกคนที่ได้เห็น สำหรับ เห็ดเผาะ เชิญยิ้ม ที่ได้มาเยือนรายการ ต้มยำอมรินทร์ ผลิตโดย  CHANGE2561 เธอได้เล่าว่าจริงๆ แล้วชีวิตจริงไม่ได้ตลกเลยแถมยังมีแต่น้ำตาเพราะการลงทุนกับธุกิจที่คิดว่าดี คิดว่าจะพาให้ครอบครัวสบาย ทำเงินได้ดี แต่สุดท้ายกลับล้มไม่เป็นท่าจนตัวเองสติหลุดจนต้องเข้าวัดบวชเพื่อเรียกสติ พร้อมเผยเตรียมย้ายครอบครัวไปอยู่ต่างประเทศ

พอมีโควิดเข้ามาคือ งานทุกอย่างหยุดเลยใช่ไหม

“มันก็หยุดทุกอย่างเลยค่ะ ชีวิตของเราพอเจอคนร่วมงาน หรือญาติ หรือคนรู้จักเขาก็จะถามเราว่า เห็ดเผาะ เป็นยังไงบ้างเราไม่รู้ว่าจะตบยังไงเลยค่ะ เราก็ตอบว่าเป็นเหมือนพี่นั่นแหละ แต่บังเอิญคือ เราไปดวงไม่ดีด้วยมันเลยเพิ่มความซวยขึ้นไปอีก เกี่ยวกับการทำธุรกิจของเราด้วยซึ่งเราเริ่มทำเลยคือ เปิดมินิมาร์ท ที่สวนผักตอนนั้นมันเป็อพาร์ตเมนต์ ของคนที่เรารู้จักเราไปดูทำเลแล้วรู้สึกว่าโอเคเราเลยถามเขาว่าเราเปิดได้ไหมค่าเช่าประมาณเดือนละ 6,000 บาท ช่วงแรกๆ ที่เปิดเราไปขายเองเลยขายดีเลยนะคะ ช่วงเช้าขายดีมากที่สุด กลาวันจะนิ่งๆ หน่อย ส่วนเสาร์ อาทิตย์ คือเคยขายได้เป็นหลักหมื่น แต่มันก็เป็นดวงพอเราขายของตรงนี้ก็จะมีงานเข้ามาให้ไปทำเพราะตอนนั้นคาเฟ่ยังเปิดอยู่ ช่วงปลายๆพระราม 9 แล้ว เราก็ให้ลูกดูบ้าง หลานดูบ้าง จากที่เราขายได้วันละ 6-7 พันบาท กลับมาขายได้วันละ 300 บาท เพราะว่าเด็กไม่ได้ใส่ใจก็เจ๊งไป แล้วพอหลังจากนั้นเราก็มีความรู้สึกว่าอยากเปิดร้านขายสเต๊กพอเราได้เงินมาก็เปิดเราก็ตั้งชื่อร้านว่สเต๊กเห็ดเผาะ คนไม่เข้าร้านเลยเพราะว่าคนเขาเข้าใจผิดว่าสเต๊กใส่อะไร ถึงขนาดที่บางคนเข้ามาถามว่าเห็ดมันสามารถมาทำสเต๊กได้เหรอ แล้วพ่อถั่วแระ เขาก็มาทักเราว่าทำไมเราไม่เอารูปตัวเองขึ้นโชว์ที่ร้านเราก็ไปทำตามก็มีคนรู้จักก็เข้ามาทานที่ร้า แล้วแฟนเราก็เป็นคนทำแล้วก็มีอันต้องไปทำงานอีกเราก็ให้พี่ป้าน้อามาอยู่ที่ร้านช่วยก็เละอีก พอเรากลับมาจากทำงานมาที่ร้านลูกค้าก็มาบอกเราว่ารสชาติที่เขาเคยกินไม่ใช่แบบนี้ แล้วก็ไม่มีลูกค้าเข้าร้านเลย เราทำมาทุกอย่างเลยค่ะ มินิมาร์ท ร้านสเต๊ก ปลาเผา ร้านนวด เจ๊งหมดเลย เพราะเราไม่ได้คุมเองด้วย และ โควิดเข้ามาด้วย ซึ่งการทำธุรกิจของเราพอทำไปทำมากลายเป็นหนี้เลย”

เห็นบอกว่าโดนยึดรถ ยึดบ้าน เพราะเกิดขึ้นจุดที่ไม่มีจะผ่อนจริงๆ

Advertisement

“ไม่มีเลยค่ะ ตอนแรกที่เราทำธุรกิจคือ ไม่ได้มีการกู้เลย แต่หลังๆ มาคือเริ่มที่จะมีการกู้ เพราะอย่างตอนแรกเราทำงานได้เงินมาเอาไปลงทุนแต่พอเรายิ่งลงทุนยิ่งจมลงไปเราก็ยิ่งเอาเงินไปถมที่จมลงเพื่อให้มันอยู่ได้

แล้วก็มีธุรกิจอีกตัวที่ทำคือเราไปรับมาแล้วก็มาปล่อยต่อเพื่อจะเอากำไรแต่มันไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด มันกลายเป็นดินพอกหางหมู พอสินค้าที่เรารับมาส่งมาม่ได้เพราะว่ามันมาจากต่างประเทศใช่ไหมค พอมาไม่ได้เรากลายเป็นหนี้เลยเราต้องรับผิดชอบจากมีเงินซัพพอร์ตกลับกลายเป็นไม่มีไปเลยเราก็ต้องขายโน้น ขายนี่ยอมให้เขาเอารถไปขายจนหมดแล้วเหลือเงินอยู่หลักหมื่นก็ไปซื้อถคันหนึ่งมาไว้ใช้ ก็มาถึงจุดพีคมากๆ เลยคือ เหลือคันนี้คันเดียวแล้วช่วงที่เรามาอัดรายการคือไปขับรถชนหกล้ออีกแล้วรถคันนี้ที่เราขับไม่มีประกันด้วย กลับต้องไปเสียเงินให้กับคู่กรณีอีก ที่เล่ามาทั้งหมดคือแค่ย่อๆนะคะ แต่รายเอียดคือหลายอย่างมาก”

Advertisement

เห็ดเผาะ ต้องประคับประคองทั้งครอบครัว จนเราป่วยเป็นซึมเศร้า ไบโพลาร์

“ตอนแรกที่เราป่วยหรือเปล่า เพราะว่าเราเล่นตลกมาตั้งแต่ 4-5 วบ แล้วเราก็ไปเล่นลิเกแล้วก็กลับมาเล่นตลกต่อเราเหมือนกับว่ามีอารมณ์แปรปรวนหัวร้อนง่าย ตอนนั้นเราก็คิดว่าคงเป็นอรมณ์ของผู้หญิงที่ต้องรับมือทุกสิ่งทุกอย่างเองหรือเปล่า จนกระทั่งมาวันหนึ่งที่คนพูดแล้วเรารู้สึกว่าผิดใจไม่ได้เลยแล้วคือมีวันหนึ่งที่แฟนมาพูดเกี่ยวกับเรื่องร้านเรื่องอะไร (ซึ่งก่อนหน้านี้มีซินแสเขาก็ทักเราแล้วว่าเราไม่ได้มีดวงเกิดมาเพื่อเป็นแม่ค้าคุณเกิดมาเพื่อเป็นนักแสดง คุณควรมูฟทุกอย่างกลับคืนให้หมดเถอะ เพราะไม่งั้นทุกอย่างจะเจ๊ง) ซึ่งพอเราถูกทักเราก็ยังไม่เชื่อ แล้วประกอบกับแฟนก็อยากให้เราหยุดเขาก็มาบอกเราก็กลับกลายเป็นทะเลาะกันแต่ทุกครั้งที่ทะเลาะหรืออะไรแบบนี้แฟนจะหยุดแล้วยอมไป แต่วันนั้นเขาพูดแค่ว่า เธอไม่ฟังฉันเลย คือสติเราหลุดไปเลยไปกระชากเอาราวเหล็กที่ใช้สำหรับแขวนตู้เสื้อผ้าออกมาแล้วก็ใช้ท่อนเหล็กตีแฟนทุกอย่างที่ทำได้คือเสี้ยววินาทีเลยค่ะ แต่พอรู้สึกตัวเรายืนอึ้งกับสิ่งที่เราทำลงไปแล้วเราก็พยายามเดินออกไปวนถามตัวเองว่าเราทำอะไรลงไปแล้วก็ก้มกราบแฟนขอโทษในสิ่งที่เราทำกับเขาลงไปขอโทษเขาทั้งคืนเลยวันนั้น แต่เขานิ่งจนแบบเราไม่รู้จะทำยังไงเราก็เข้าไปในห้องพระ กราบพ่อแก่ตั้งจิตว่าไม่รู้ว่าเพราะอะไรทำไมครอบครัวถึงเป็นแบบนี้มันอาจจะเป็นวิบากกรรมหรือเปล่า หรือะเป็นทุกสิ่งที่เราได้ผิดครูบาอาจารย์หรือเปล่าเพราะเราไม่ได้ไหว้ครูเล

แต่เพราะว่าเราก็เจอวิกฤตแบบนี้ก็ไหว้ครูต้องใช้เงินเยอซึ่งไม่ได้ต้องจัดใหญ่ก็ได้แต่ต้องใช้เงินและสิ่งที่ทำละเอียดอ่อนมาก แล้วหลังจากนั้นเราก็โกนผมเลยแล้วเราก็ทำคลิปขอโทษทุกคน ขอโทษครอบครัว       ขอโทษที่เป็นแบบนี้ตอนนั้นเหมือนสติเราหลุดไปแล้ว แต่พอ พี่กบ เขามาเจอเขาก็บอกเราว่าไม่เป็นไรตั้งสตินะ มันอาจจะเป็นวิบากกรรมหรืออะไรก็ตามยังไงก็โกนหัวแล้วไปบวชเลย ส่วนแฟนเขาก็ไปบวชพระ ตอนนั้นบวชอยู่ประมาณ 19 วัน”

แต่เพราะชีวิตยังมีลมหายใจ เห็ดเผาะ ก็ไม่ถอยสู้ แต่สู้ครั้งนี้ขอไปสู้ที่อเมริกาเกิดอะไรขึ้น เพราะคิดจะย้ายไปอยู่ที่อเมริกาเลย

“มันเป็นสภาวะที่ไม่ไหวแล้ว คือ ไม่ไหวจริงๆคือเรามีลูกชาย 2 คน ลูกผู้หญิงหนึ่งคน คือตอนนี้ไม่ได้อยู่ด้วยกันเลย เหมือนครอบครัวมันกระจายไปหม เหมือนมีแค่เราสองคนพ่อแม่แล้วก็หลานอีกคแล้วพอดีมีพี่ตาล พี่เขาทักมาจาก เม็กซิโก (น้ำตาไหล) เขาก็บอกว่าเขาเห็นเรามีปัญหาครอบครัวเยอะมากเลย เขาก็บอกเราว่ามาหาพี่ไหมมาพักผ่อนกับพี่อย่างน้อยก็ยังได้พักสติพักสมองอยากทำอะไรก็ทำ เพราะพี่าล เขาชวนให้เราไปทำอยู่ที่ร้านม่ต้องไปเป็นลูกน้องใครให้อยู่กับเขา เลยตัดสินใจว่าจะไปก็มีเรา แฟน แล้วก็ลูกคนเล็กไปด้วยกัน เราจะไปกันคือ สิ้นเดือนนี้ค่ะ”

เห็ดเผาะ อยากจะบอกอะไรกับคนที่เจอภาวะหนักหน่วงเหมือนเราบ้าง

“อย่าเดียวเลยที่จะอยู่ได้จะอยู่รอด คือ ต้องไม่ท้อ ต้องมีสติที่จะสู้มัน คือร้องไห้ได้เหนื่อยไม่ไหวอยากร้อง ร้องเลยค่ะ ร้องให้เต็ม เพราะนี่มันคือการลงทุนของเราและเราได้ทำดีที่สุดแล้ว แล้วก็ไปต่อเพราะเมื่อถึงเวลานั้นแล้วเราร้องไห้ขนาดไหนแต่เราไม่ไปต่อ ก็ไม่มีใครสามารถมาดึงมือเราให้เินต่อได้นอกจากตัวของเราเอง”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image