เล่าเรื่องหนัง : Mine ล้วงลึกธาตุแท้ชนชั้นเศรษฐี

เพิ่งฉายจบ 16 ตอนไปสดๆ ร้อนๆ ซีรีส์เกาหลีเรื่อง “Mine” ของช่อง tvN โดยสามารถรับชมผ่านสตรีมมิ่งได้ทาง Netflix เล่าเรื่องของครอบครัวมหาเศรษฐีที่มีความลับความหลังซุกซ่อนอยู่ ด้วยการปูต้นเรื่องชวนชี้อย่างชัดเจนว่านี่จะเป็นซีรีส์ที่เปิดโปงชีวิตอีลิทของครอบครัวนักธุรกิจใหญ่ที่มีเรื่องราวดำมืดซ่อนไว้ ก่อนที่เรื่องจะเขยิบไปสู่ประเด็นอาชญากรรมในที่สุด

โทนเรื่องของ “Mine” ในช่วงต้นเรื่องทำให้นึกถึงเรื่องราวพิกลพิการของโครงสร้างสังคมและคู่ตรงข้ามทางชนชั้นระหว่างคนรวยกับคนจนในหนังดังขวัญใจนักวิจารณ์และคนดูอย่าง “Parasite” (ครอบครัวปรสิต) เนื่องจากในซีรีส์ Mine ใช้การดำเนินเรื่องคล้ายกันในมุมมองระหวางครอบครัวอีลิทกลุ่มเจ้านาย เล่าเชื่อมโยงไปกับกลุ่มคนทำงานรับใช้ในบ้าน ทั้งยังมีฉากสำคัญคล้ายคลึงกันคือ “ห้องใต้ดิน” ของบ้านที่เป็นหนึ่งในฉากหลักของเรื่อง

ในซีรีส์ “Mine” ที่แปลความได้ทั้งการแสดงความเป็นเจ้าของครอบครอง และในอีกความหมายที่แปลว่าทุ่นระเบิด เล่าเรื่องหลักๆ ใน 3 ประเด็น คือ 1.ความเหลื่อมล้ำทางชนชั้น 2.พลังสิทธิสตรี 3.ความรักความสัมพันธ์ที่มีทั้งอบอุ่นและขาดแคลน

ตั้งแต่ต้นเรื่อง ซีรีส์พาเราไปทำความรู้จักตัวละครหลักสมาชิกตระกูลเศรษฐี “ฮโยวอน” ที่แต่ละคนใช้ชีวิตแบบโกหกตัวเองกันอยู่ โดยนำเสนอวิถีอีลิทผ่านตัวละครหลัก “ลูกสะใภ้” สองคน คือ “จองซอฮยอน” สะใภ้ใหญ่ กับ “ซอฮีซู” สะใภ้คนเล็ก ที่แม้จะมีคาแร็กเตอร์และการแสดงออกแตกต่างกัน แต่เพียบพร้อมและมีพื้นเพที่โดดเด่นทั้งคู่ คนหนึ่งมาจากครอบครัวเศรษฐีมีทั้งความเป็นนักบริหารธุรกิจและความสามารถสูงทางศิลปะ บุคลิกนิ่งเงียบ อีกคนหนึ่งเป็นอดีตนักแสดงหญิงคนดัง จิตใจอ่อนโยน ร่าเริง ใจดีกับคนรอบข้าง ทว่าลูกสะใภ้ทั้งสองคนยังมีสถานะที่คล้ายกันตรงที่เข้ามาเป็นสะใภ้โดยที่ฝ่ายสามีต่างมีลูกติด พวกเธอจึงดำรงตนในสถานะ “แม่เลี้ยง” ก่อนที่เรื่องราวจะเริ่มกะเทาะให้เห็นแก่นเนื้อในอันแหว่งวิ่นของบรรดาผู้คนในครอบครัวนี้ ตั้งแต่รุ่นพ่อเจ้าของอาณาจักร “ฮโยวอนกรุ๊ป” ที่มีภรรยาสองคนจนมาถึงรุ่นลูกที่มีความลับซ่อนอยู่

Advertisement

“Mine” ไม่ได้ออกแบบให้เป็นละครแนวเน้นการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น หรือชิงรักหักสวาท กระทั่งฉากความโรแมนติกหวานแหววก็มีน้อยเอามากๆ ใครที่คิดจะพบมุมเหล่านี้ใน Mine น่าจะต้องผิดหวัง เพราะซีรีส์ที่ขายความดราม่านี้พูดถึงมุมมองที่ราบเรียบ แต่หนักแน่นในเชิงสะท้อนชีวิตมากกว่า แม้ตัวเรื่องจะสอดแทรกเรื่องราวมือที่สาม รักต้องห้าม รักระหว่างชนชั้น การนอกใจ การแย่งตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดของตระกูล ไปจนถึงประเด็นแม่เลี้ยง ลูกเลี้ยง ลูกเมียหลวง เมียน้อย แต่ประเด็นข้างต้นถูกใส่เข้ามาเพื่อใช้ขยายมุมมองการเล่าเรื่องที่ลุ่มลึกมากกว่าดูเพื่อความสะใจ

ตัวเรื่องทำได้ดีในการสะท้อนแง่มุมชีวิตคนรวยที่ไม่น่าพิศมัย เพราะมีความจริงที่น่าอึดอัดซ่อนอยู่หลังฉากความสงบสุขจอมปลอมนั่นเอง ภาพรวมตัวซีรีส์จึงมุ่งตีแผ่ให้เห็นความมืดหม่นและโกลาหลของครอบครัวมหาเศรษฐี ตลอดจนเปิดโปงนิสัยที่เป็นธาตุแท้ของสมาชิกในครอบครัว

ซีรีส์ Mine เล่าเรื่องได้สนุก น่าติดตาม โดยเฉพาะในช่วงกลางทางของเรื่องที่มีเรื่องราวหลายมิติ อย่างไรก็ตามในช่วงท้ายของเรื่อง กลับเลือกบทสรุปที่มองโลกในแง่ดีจนทุกอย่างที่ดำเนินมาลงตัวง่ายดายเกินไป แต่ก็แอบคิดได้ว่าหรือผู้สร้างจงใจที่จะเลือกจบแบบ “โลกในซินเดอเรลล่า” ตัวละครสุดร้ายกาจในเรื่องอย่าง “ฮันจียง” ลูกชายคนเล็กของตระกูลเศรษฐีที่มีปูมหลังพื้นเพเป็นลูกติดของเมียน้อยที่มหาเศรษฐีรับมาเลี้ยงดู กลับเป็นตัวละครที่น่าสงสารและอาภัพที่สุด เพราะทั้งเรื่องเขาถูกทำให้เป็น “คนนอกคอก” ถูกเบียดผลักให้ไม่ได้รับการยอมรับจากทั้งพ่อเลี้ยงและแม่จนทำให้เติบโตมาด้วยสภาวะมีปมในใจ และจิตใจที่ไม่มั่นคง ไร้ความรัก จนที่สุดก็พาตัวเองตกลงสู่หลุมดำมืดของจิตใจจนกู่ไม่กลับ

Advertisement

โครงเรื่องในช่วงท้ายที่ออกแนวเมื่อพายุร้ายผ่านไปฟ้าก็กลับมาสว่างไสว ตัวละครต่างๆ ดูจะแช่มชื่น หาที่หาทางของตัวเองกันได้ กลายเป็นการแกล้งเล่นเอาเถิดกับคนดูหรือไม่ เมื่อคนรวยผู้เพียบพร้อมตั้งแต่กำเนิดดูจะชนะทุกสิ่ง แถมยังประหนึ่งตบหน้าใส่คนดูด้วยว่า ตัวละครคนรับใช้ในบ้านกลายเป็นผู้รับกรรมแทนเจ้านายในนามของความซื่อสัตย์ และถูกยัดเยียดว่าการเสียสละคือการทำความดีช่วยชีวิตคน สุดท้ายคนจนในเรื่องก็อยู่ในสภาพเนื้อไม่ได้กินหนังไม่ได้รองนั่ง ที่ทางของคนรับใช้ก็ต้องอยู่ในแบบคนรับใช้ต่อไป

แม้จะมีจุดหนึ่งในเรื่องที่คนรับใช้หญิงในบ้านที่เป็นตัวแทนของคนต่างชนชั้นจะได้ยกสถานะโดยผ่านการแต่งงานและได้รับการยอมรับจากคนรวยให้มาอยู่ในครอบครัวมหาเศรษฐี แต่ท้ายสุดก็ยังต้องถูกล้างตัวตนแบบเดิมเพื่อสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้เข้ากับวิถีคนรวย และตัวตนใหม่ก็ถูกแทนที่ให้ตรงตามความพึงพอใจของผู้มีฐานะและมีอำนาจมากกว่าอยู่ดี

บทสรุปของ Mine ในท้ายที่สุดจึงผลิตซ้ำชุดความคิดโลกละครแบบอีลิท ที่สุดท้ายโครงสร้างสังคมในชีวิตจริงก็ยังวนเวียนที่คนกลุ่มบนได้เปรียบทุกประตู และหมุนอยู่กับแนวคิดคนรวยใจดี สงเคราะห์คนจน ให้โอกาสคนจน คนรวยชื่นชมในความเสียสละของคนจน แต่อย่างไรพวกเธอก็คนละชนชั้นต่อไป

ในซีรีส์เรื่องนี้ได้ตอกย้ำเรื่องราวที่สะท้อนให้เห็นถึงวิธีคิด วิธีมองโลก และวิธีใช้ชีวิตของคนกลุ่มหนึ่ง ที่ไม่ว่าจะผ่านบทเรียน ผ่านโศกนาฏกรรมอะไรมา พวกเขาก็พยายามโลกสวยในแบบวิถีอีลิทอยู่ร่ำไป

ภาพประกอบ Youtube Video / Netflix / tvN

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image