ดิ๊บ บอยสเก๊าท์ควงภรรยาอายุห่าง 18 ปี เคลียร์ใจ หวิดเลิก พร้อมเผยทำไมต้องจูงมือกันเข้าศรีธัญญา
ซุป’ตาร์ยุค90 ดิ๊บ บอยสเก๊าท์ ควง โดนัท ภรรยาที่อายุห่าง 18 ปี มาพูดคุยในรายการคุยแซ่บโชว์ ทางช่องวัน 31 ถึงหลายเรื่องราวในชีวิต รวมถึงเรื่องที่ครอบครัวเกือบจะแตกสลายในช่วงต้นปี 2564 ที่ผ่านมา โดยดิ๊บเล่าว่าเขากับภรรยาแต่งงานกันเร็ว คือพอจีบได้ 1 เดือนก็ตัดสินใจแต่งงาน
“เราน่าจะมีเคมีที่ตรงกัน เป็นนักร้องเหมือนกัน เห็นแล้วรู้สึกใช่เลยในทันที” ดิ๊บบอก
ขณะโดนัทก็ว่า ตอนแรกไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร
“เจอกันครั้งแรกคิดว่าเขาเป็นเกย์ สมัยก่อนเขาแต่งตัวไม่ใช่ลุคแบบนี้ จะเป็นอารมณ์เสื้อยืดฟิตๆ กางเกงขาสั้นแบบเลยเข่า ที่สำคัญกระเป๋าหลังเขาจะปักรูปเพชรเป็นผีเสื้อ แล้วเดินบิดๆ เราก็คิดว่าคนนี้เป็นแน่นอน ยิ่งไปดูไทม์ไลน์ถ่ายรูปกับดาราเยอะมาก ก็งง สงสัยเป็นช่างแต่งหน้าหรือเปล่า”
ส่วนเมื่อรู้แล้ว โดนัทที่ตอนนั้นอายุได้ 20 ปี บอกว่าก็เฉยๆ คิดว่าเขาน่าจะมาหลอก
“เพราะเราเหมือนมีอคติกับคนมีชื่อเสียง เขาจะมายุ่งกับเราทำไม คิดว่าเขากะมาจีบแล้วก็ไป”
ดิ๊บยอมรับด้วยว่าเขากับภรรยามีปัญหาเรื่องช่องว่างระหว่างวัยอยู่มาก
“คือถ้าเราเป็นผู้ใหญ่ เราก็มีแพลนในชีวิตเยอะแยะ ความคาดหวังสูง พอมีความคาดหวังสูง มันก็จะมาพร้อมกับการตัดสินคนด้วยประสบการณ์ของตัวเอง เพราะฉะนั้นช่วงนี้มันก็จะต่างกัน”
ด้านโดนัทบอกตอนนั้นอารมณ์ยังเป็นเหมือนวัยรุ่น จะเอาแต่ใจตัวเอง แล้วก็คิดว่าอยากออกไปผจญโลก อยากออกไปใช้ชีวิตกับเพื่อน อยากไปเรียนต่อ ไปทำงานต่างประเทศ
ขณะเดียวกันยังบอก “ตั้งแต่คบกันมา หวิดจะเลิกกันตลอดเลย”
“เหมือนแต่งงานกันเร็วไปด้วย เพราะยังไม่ได้ศึกษาว่านิสัยของแต่ละคนเป็นยังไง”
อย่างไรก็ดีดิ๊บที่ตอนนี้ อายุ 46 ปี มองว่า “ถ้าศึกษากันเยอะก็ไม่ได้แต่งหรอก แต่ตอนนี้หลังจากที่เราเข้าไปรักษาแล้ว ไม่ได้รักษาแบบกินยาอะไรนะ ต้องขอบคุณนักจิตวิทยาที่โรงพยาบาลศรีธัญญา ที่งามวงศ์วาน ด้วย เขาให้คำแนะนำเราแบบดีมาก จริงๆ เราไปเกือบทุกปีเลย”
“เริ่มไปตั้งแต่ก่อนแต่งงาน ตอนแต่งงานทะเลาะกันมาก จะเอานู่น เอานี่”
ส่วนโดนัทในวัย 28 ปี เสริมว่าที่ตัดสินใจไปก็เพราะต่างคนต่างยังรักกัน เลยคิดหาทางออกโดยให้คนกลางช่วยเหลือ
“ล่าสุดที่เราไปมาช่วงมกราคม” ดิ๊บเล่า
“ทะเลาะกันหนักมากๆ แล้วเราตัดสินใจแล้วว่าเลิกแน่นอน ไม่ไหวแล้ว มันเหมือนกับว่าเราไม่ได้ทะเลาะกันรุนแรง ไม่ได้ใช้ความรุนแรงอะไรเลย แต่พอถึงจุดที่มีลูก แล้วชีวิตสามี-ภรรยา มันต้องถูกแชร์ให้กับอีกคน มันเลยทำให้เหมือนกับอิ่มตัว แล้วเราก็เหมือนเบื่อซึ่งกันและกันด้วย เริ่มอยากไปมีชีวิตเป็นของตัวเอง ก็ทะเลาะกัน ถอดแหวนเก็บ แล้วไปหาคุณหมอ คุณหมอเขาพูดมาคำนึงว่าสุดท้ายแล้วตัดสินใจเอาเองว่าจะใช้ชีวิตแบบไหน แต่ถ้าคิดว่ายังรักกันอยู่ก็มาหาทางออกซึ่งกันและกันดีกว่า”
พอได้ยินประโยคนี้โดนัทก็ว่าต่างคนก็ต่างมีสติมากขึ้น
“มองเห็นว่าตัวเราไม่ได้ถูกไปซะทุกเรื่อง ตัวเขาเองก็ไม่ได้ถูกไปซะทุกเรื่อง ถ้าเรายอมลดคนละครึ่งแล้วมาเจอกันตรงกลาง มันก็จะทำให้ความสัมพันธ์ครอบครัวไปต่อ และที่สำคัญเลยคือลูกด้วย ”
ฟังรายละเอียดเต็มๆจากคลิปนี้
