‘เช้านี้ผมได้ไปรับอัฐิของพ่อที่วัดกลับมาเก็บไว้ที่บ้านเพื่อรอกำหนดการบำเพ็ญกุศลอีกครั้งเมื่อสถานการณ์โควิดคลี่คลายลง ระหว่างทางขับรถพาพ่อกลับมาบ้านผมย้อนนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้และคิดหาคำตอบว่าทำไมพ่อต้องมาเป็นหนึ่งในตัวเลข 108 ของผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิดของวันที่ 21 กรกฎาคม 2564’
นี่คือข้อความที่ ภาคภูมิ วงษ์จินดา ผู้กำกับการแสดงภาพยนตร์ เขียนขึ้นต้นไว้ในเฟซบุ๊ก Pakphum Wongjinda ของเขา เมื่อคืนที่ผ่านมา จากนั้นเขาก็ได้เล่าเหตุการณ์ เปิดเผยรายละเอียด รวมถึงเรื่องที่ ‘ผมขอพูดแทนพ่อของผม’
โดยว่า…
‘เช้านี้ผมได้ไปรับอัฐิของพ่อที่วัดกลับมาเก็บไว้ที่บ้านเพื่อรอกำหนดการบำเพ็ญกุศลอีกครั้งเมื่อสถานการณ์โควิดคลี่คลายลง ระหว่างทางขับรถพาพ่อกลับมาบ้านผมย้อนนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้และคิดหาคำตอบว่าทำไมพ่อต้องมาเป็นหนึ่งในตัวเลข 108 ของผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิดของวันที่ 21 กรกฎาคม 2564
ไม่น่าเชื่อว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดกับพ่อของผมซึ่งเป็นคนป้องกันตัวเองดีมาก ไม่เคยพาตัวเองไปอยู่ในที่สุ่มเสี่ยงจากการระบาดของโรค พ่อลงทะเบียนฉีดวัคซีนป้องกันโควิดไว้แล้วแต่ต้องมานอนโรงพยาบาลก่อนจะได้ฉีดวัคซีนเพียงไม่กี่วัน พ่อต้องนอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลอย่างโดดเดี่ยวเพราะเป็นมาตราการของโรงพยาบาลที่ห้ามเยี่ยมเพื่อป้องกันเชื้อโควิดจากบุคคลภายนอก แต่จะเป็นความโชคร้ายของพ่อหรือความบกพร่องของโรงพยาบาลที่ทำให้พ่อต้องติดโควิดจากในนั้น ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าจะฟ้องร้องเอาผิดกับใครได้เพราะแพทย์พยาบาลที่อยู่ในนั้นก็มีความเสี่ยงพอๆ กับผู้ป่วยเช่นเดียวกัน แต่ถ้าบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนได้รับวัคซีนที่มีคุณภาพและมีการบริหารจัดการที่ดีพอ เรื่องแบบนี้คงไม่เกิดขึ้น
ผมจึงจะขอพูดแทนพ่อที่ล่วงลับไปแล้วถึงคนที่วางนโยบายเกี่ยววัคซีนป้องกันโควิดและระบบสาธารณสุขของประเทศนี้ให้รู้จักรับผิดชอบกับการตัดสินใจที่ผิดพลาดของคณะพวกคุณจนทำให้สถานะการแพร่ระบาดของโรคโควิดลุกลามมาถึงขั้นวิกฤตมีผู้คนล้มตายกันมากขึ้นทุกๆ วัน ถ้าไม่มีความสามารถก็ควรจะลาออกไปดีกว่าครับ
ผมขอพูดแทนพ่อของผม
นายพิจิตร วงษ์จินดา ครับ’