‘แฮม PMN’ ใจสลาย อุ้มลูกส่งเมียครั้งสุดท้าย สูญเสีย 2 ชีวิตพร้อมกันจากโควิด แฟนคลับร่วมส่งกำลังใจ
โควิด นับได้พรากหลายชีวิต และสร้างความสูญเสียให้กับหลายครอบครัว
เช่นเดียวกับ หนุ่ม แฮม PMN นักร้องเน็ตไอดอลขวัญใจวัยรุ่นเจ้าของช่องยูทูบสร้างสรรค์ผลงานเพลงที่มีผู้ติดตามกว่า 2.7 ล้านคน ที่สูญเสียภรรยาเพราะโควิด-19 โดยแฮม ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กว่า
“การสูญเสียคนที่เรารัก มันทรมานที่สุด ไม่คิดว่าในชีวิตนี้จะต้องเจอแบบนี้ ตอนนี้ปัดได้จากไปแล้ว ไม่ทรมานอีกแล้วนะปัด เรารู้ปัดสู้เต็มที่แล้วเพื่อกลับมาหาลูกๆ ตลอดเวลา 9 ปีที่อยู่ด้วยกันมา เรามีความสุขมากๆ ปัดคือทุกอย่าง ดูแลเราตลอด แค่บอกว่า หิว ก็ทำให้กิน จะอาบน้ำก็บีบยาสีฟันให้ ออกจากห้องน้ำ ก็จัดเสื้อผ้ากางเกงบอกเซอร์ให้ ไม่สบายก็คอยดูแล นั่งทำงานนานๆ ปวดหลังก็นวด เป็นคนที่เตือนสติ เวลาทำอะไร เป็นคนที่ให้โอกาส เวลาทำผิด เป็นคนที่ห่มผ้าให้ตอนที่หนาว เป็นดวงใจของเราและลูกๆ และที่สำคัญ เป็นครึ่งชีวิตของเรา เราใช้เวลาคู่ชีวิตมาตลอด 9 ปี แต่ตอนนี้ครึ่งชีวิตเราได้หายไปแล้ว หลังจากนี้คงใช้ชีวิตยากขึ้น งานบ้านไม่เคยทำ ซักผ้า ล้างจาน กวาดบ้านถูพื้น จัดของเลี้ยงลูก ปัดคือทุกอย่างของชีวิตเรา มันคงทำใจยากที่ต้องจากไปแบบนี้มันยังเร็วเกินไป ยังมีอีกหลายอย่างที่ยังไม่ได้ทำร่วมกัน ได้แต่ถามกับตัวเองทำไมต้องเป็นแบบนี้ การสูญเสียครั้งนี้ สูญเสียทีเดียวสองคน คือแม่รัต (แม่ปัดที่เลี้ยงหลานให้) และปัด
เราอยู่กัน 5 คน แฮม ปัด แม่ ฟอร์ยู แต๊งกิ้ว แต่ตอนนี้จากไปทีเดียว 2 คน เหลือเรา กับลูกอีก 2 คน ยอมรับว่าไม่เคยเลี้ยงลูกเลย ทำแต่งานหาแต่เงิน พอมาอยู่จุดนี้ มืดไปหมดทำอะไรไม่ถูก จะชงนมลูกก็ต้องเข้า YouTube จะอาบน้ำลูกก็ต้องเข้า YouTube ไปดูข้อมูลว่าเค้าทำยังไงต้องเรียนรู้ใหม่หมด แต่ยังไงชีวิตก็ต้องเดินต่อไป เพราะเหลือเราคนเดียวแล้ว ไม่มีใครอีกแล้วที่จะหาเงินเลี้ยงลูกสองคน แต่งานก็ต้องทำถ้าเลี้ยงลูก ก็ไม่ได้ทำงาน ก็เลยต้องให้พี่สาวของแฟนเอาไปเลี้ยง แล้วสุดท้าย เราก็อยู่คนเดียวในบ้าน
มีบ้านสองหลังติดกัน รถสามคัน คันที่สามออกมาเป็นเจ็ดที่นั่ง เพื่อจะได้พาครอบครัวไปเที่ยว ทุกวันหยุด คนในครอบครัวจะได้นั่งสบายๆ แต่ตอนนี้กลายเป็นเหลือเราคนเดียวที่ขับไม่มีใครนั่งข้างๆ เลย ไม่มีใครคอยด่าคอยบ่นเวลาขับรถเร็ว สุดท้ายก็ต้องอยู่บ้านคนเดียว มันเคว้งนะ ต่อจากนี้บ้านคงเงียบ เวลาเราไม่สบายก็ต้องนอนป่วยอยู่คนเดียว ไม่มีใครมาช่วยดูแล ถึงเราจะยังทำใจไม่ได้ แต่เราจะเดินหน้าต่อและสู้เพื่อลูกๆ นะปัด ไม่ต้องเป็นห่วงนะ เราทำได้เราจะพยายาม คำขอสุดท้ายของปัดก่อนจะทรุด บอกว่า อย่าให้แฮมไม่เป็นอะไร อย่าให้แฮมเป็นหนัก เราตายได้แต่แฮมตายไม่ได้ เพราะเราไม่มีปัญญาหาเงินเลี้ยงลูก และช่วยฝากดูแลลูกให้เป็นเด็กดีด้วยนะ เหมือนกับคำพูดของแม่ปัด ว่าฝากดูแลหลานแกให้ดีๆนะเพราะแกเลี้ยงมาตั้งแต่เกิด แต้งกิ้ว หนึ่งขวบ ยังไม่ทันรู้เรื่อง แต่ ฟอร์ยู สี่ขวบแล้ว บางทีเขาก็พูดขึ้นมาว่าไหนคุณแม่
ไหนคุณยาย พอได้ยินคำนี้แล้วร้องไห้ทุกครั้ง ได้แต่บอกว่าเค้าไปอยู่บนสวรรค์แล้ว ฟอร์ยูก็ยิ้มแล้วก็บอกว่าโอเค คิดดูมันหดหู่ขนาดไหน แต่ไม่เป็นไร เราอยู่ไม่ได้ก็ต้องอยู่ให้ได้เพื่อลูก ทุกครั้งที่ท้อที่เหนื่อยก็คิดถึงลูก จะได้เดินหน้าต่อไป เราจะมาจมแบบนี้ไม่ได้ เพราะเด็กจะจมไปกับเราด้วยเด็กไม่รู้เรื่องอะไรเลย และจะพาเค้าเศร้าไปด้วยก็ไม่ได้ เวลาร้องไห้ก็ต้องแอบร้องเพราะเค้าจะถามว่าคุณพ่อร้องทำไม เราก็บอกไม่ถูก ปัดเรารักปัดมากนะ ไม่มีอีกแล้วจูบหน้าผากก่อนนอนทุกคืน คนที่เรียกให้ไปนอนได้แล้ว เพราะทำงานดึก กลางคืนหิวก็ไม่มีแล้ว แต่เราจะพยายามนะปัดเราจะต้องผ่านมันไปให้ได้เพื่อลูก ขอให้ มองลงมาดูลูกๆ เราจะทำให้ลูกมีรอยยิ้มหัวเราะ และมีความสุขนะ รักปัดนะ
ก่อนจะโพสต์เฟซบุ๊กอีกว่า “เราจะดูแลลูกให้ดีที่สุดนะ ไม่ต้องเป็นห่วงนะ ปัดจะอยู่ในใจเราเสมอนะ เจ็บปวดมามากพอแล้ว ปัดทำดีที่สุดแล้วนะ หลับให้สบายนะแม่ พ่อสัญญาจะทำให้ลูกๆ มีความสุขที่สุดนะ” พร้อม ภาพที่ได้อุ้มลูกไปร่วมงานศพของภรรยา
ทั้งนี้ แฮม ได้ไลฟ์สดในเฟซบุ๊ก เปิดเผยถึงเรื่องเศร้าดังกล่าว โดยว่า ที่บ้านระวังตัวมากเนื่องจากมีลูกเล็ก แม้จะไม่ได้ออกไปที่ไหน แต่ว่าช่วงที่ผ่านมาได้ต่อเติมบ้าน และมีช่างเป็นสิบคน เข้ามาต่อเติมบ้าน โดยเริ่มติดจากคุณแม่ก่อน ซึ่งแม่ชอบเข้าไปคุยกับช่าง ก่อนพบว่าตัวเองและภรรยาติดเชื้อ
แฮมเล่าว่า ก่อนจะไปถ่ายเอ็มวีซ่อม ก็ได้ตรวจโควิดให้กับแม่ยาย ตอนแรกไม่คิดว่าจะเป็น แค่ตรวจเล่นๆ ตอนนั้นแม่เป็นไข้มา 5 วัน พบว่าแม่ติดเชื้อ ก่อนที่แม่จะอาการทรุดไวมาก เพราะแม่เป็นความดัน ขณะที่ภรรยา หลังจากนั้นก็ติดเชื้อโควิด ซึ่งได้โทรไปถามพยาบาลทุกวัน ได้ดูผ่านตู้กระจก และเชื้อได้ลามเข้าสู่ปอด จะต้องส่งเข้าไปโรงพยาบาลสงขลา อาการก็ทรุดลงเรื่อยๆ ลูกก็ถามอยู่เรื่อยๆ ว่าแม่อยู่ที่ไหน
“ผมส่งรูปลูกไปให้พยาบาล เขามองรูป ยังยิ้ม ที่ได้เห็นคลิปลูก เขามีความสุขมาก พยาบาลก็ถ่ายรูปเขาให้ดู ปัดยิ้มชูสองนิ้ว ทั้งที่มีสายอยู่เต็มปาก ผมก็ยังมีความหวังว่าปัดเก่งมาก แต่พยาบาลบอกว่าอาการแย่ลง หลังจากนั้นก็ต้องถ่ายเลือด แต่ก็ไม่ดีขึ้น” แฮมเล่าทั้งน้ำตา
“ผมคุยกับปัดไม่ได้แล้ว ปัดพิมพ์อะไรไม่ได้แล้ว ผมโทรหาพยาบาลทุกวัน จนวันที่ 23 ส.ค. ผมจะได้กลับบ้านแล้ว ผมรักษามา 12 วัน หมอให้กักตัวที่บ้านอีก 2 อาทิตย์ ผมอารมณ์ดีดีใจมากจะได้กลับบ้าน ผมจะบอกปัดว่าเราหายแล้วนะ แต่ตอนนั้นปัดไม่รู้สึกตัวแล้ว ผมไปรับลูก แต่ต้องเจอข่าวร้ายแม่ยายเสีย ยังบอกพี่สาวแฟนว่าอย่าบอกปัด เดี๋ยวปัดจะหนักกว่าเดิม แต่ปัดไม่รู้สึกตัว ต้องย้ายไป รพ.ที่ 4 แล้ว ปอดไม่ดีแล้ว ต้องให้ยานอนหลับ รีเฟอร์ปัดไป รพ.มอ.”
แฮม ยังได้ทิ้งท้ายว่า ไม่โทษใคร รู้ว่าปัดสู้ สู้เพื่อลูก แต่สู้ไม่ไหว เขาให้วิดีโอคอลครั้งสุดท้าย ผมมองหน้าปัดได้ไม่ถึง 5 วิ ผมมองไม่ได้สภาพสงสารมาก เขาไม่รู้สึกตัวเลย ผมพูดกับเขาว่า ปัด ต้องกลับมานะลูกรออยู่ เขาไม่ได้ยินหรอกเขาหลับอยู่ แต่ผมไม่หมดกำลังใจ จนมาถึงทางตันแล้ว ผมบอกหมอทำยังไงก็ได้ให้เขาไปแบบไม่เจ็บปวด ผมไม่หลับไม่นอนนั่งจ้องโทรศัพท์ หมอโทรมาบอกเสียใจด้วยคนไข้จากไปตอนเที่ยงคืนสามสิบหกนาที”
