19 ปีในวงการบันเทิงของ ‘รถเมล์ คะนึงนิจ’ ในวันที่แอบท้อกับการรอคอยโอกาส

19 ปีในวงการบันเทิงของ ‘รถเมล์ คะนึงนิจ’ ในวันที่แอบท้อกับการรอคอยโอกาส

เพิ่งลาจอไปหมาดๆ สำหรับละคร ‘แม่เบี้ย’ ที่ดาราสาว รถเมล์ คะนึงนิจ จักรสมิทธานนท์ ในบทบาท ‘ไหมแก้ว’ ถูกพูดถึงไม่น้อย เพราะนอกจากเป็นการกลับมาร่วมงานกับช่อง 7 ในรอบ 5-6 ปีแล้ว บทเมียหลวงในเรื่องนี้ก็ทำเอาเธอได้ #ทีมเมียหลวง พร้อมกำลังใจจากแฟนละครมาอีกเพียบ

ทั้งนี้รถเมล์เล่าว่า สิ่งหนึ่งนอกเหนือจากบทบาทแล้ว เอ ศุภชัย ศรีวิจิตร ซึ่งเป็นผู้จัด ก็เป็นเหตุผลหลักที่เธอตอบตกลงรับเล่น

“รู้สึกว่าบทนี้ก็เป็นอีกบทหนึ่งที่น่าสนใจ แล้วรู้สึกว่าถ้าพี่เอชวนแล้วเขาคงทำอะไรมาอย่างเต็มสตีมแล้วแน่นอน ดีแล้วแน่นอน และเราก็เชื่อมั่นในตัวพี่เอเลยรับเล่นค่ะ”

ส่วนเรื่องที่แม้ละครจะจบไปแล้ว แต่กระแสความฮอตยังไม่จาง รถเมล์ก็ว่า ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะกระแสเมียหลวงเมียน้อยกำลังมาแรง “ประจวบเหมาะกับอะไรหลายๆ อย่างจริงๆ ค่ะคือทั้งข่าว เพลง ก็เลยกลายเป็นว่าทุกคนเป็นกระแสที่พูดถึงมากๆ”

Advertisement

เล่าด้วยว่า ในส่วนของแฟนๆ มีหลายคนที่อินจัด จึงส่งทั้งกำลังใจ และคำแนะนำให้แบบรัวๆ

“บางคนจะแบบว่าอินมาก อินขนาดส่งอินบ็อกซ์มาหารถเมล์ต้องอย่างนี้สิ ต้องทำอย่างนี้ อย่างนี้ อย่าไปยอม บางคนก็บอกว่าปล่อยเลยอย่าไปสนใจ”

“มีหลายแบบมากเลยค่ะ”

Advertisement

ครั้นถามว่าคนใกล้ตัวอย่างคุณสามี บอล สุเมธ ได้เห็นลีลาการจัดการเมียน้อย แล้วว่าอย่างไรบ้าง?
รถเมล์ฟังแล้วหัวเราะ ก่อนเล่าว่า

“อันนี้เป็นเรื่องแรกที่มีโอกาสได้มานั่งดูด้วยกัน ก็ดูเขาตั้งใจดูอยู่นะคะ แต่ไม่มีคอมเม้นต์อะไร จะชมคนอื่นตลอด น้องนาว (ทิสานาฏ ศรศึก) เล่นดีเนอะ อะไรแบบนี้”

“เขาก็คงจะรู้สึกว่า เอ๊ะ..ถ้าเกิดในชีวิตจริงแล้วจะยังไง” แล้วว่า เรื่องนี้เธอได้บอกสามีให้เบาใจไปแล้วว่าชีวิตจริงคงไม่เป็นแบบนั้นอย่างแน่นอน

“รถเมล์จะพูดตลอดว่าพี่ไม่ต้องห่วง หนูไม่เป็นแบบในละคร เพราะว่าหนูไปเลย หนูไม่วีน แล้วหนูไม่ไปหาเรื่องอีกคนหนึ่งด้วย หนูจะจัดการคนกลางนี่แหละ” ว่าแล้วก็หัวเราะร่วน

กับผลงานชิ้นต่อๆ ไปหลังจากนี้ รถเมล์ก็ว่า ดูแล้ว “ไม่มีบทไหนง่ายเลย”

แต่กระนั้น “ก็แฮปปี้นะ”

“เรารู้สึกว่าเราอยากเล่นบทอะไรที่ยากๆ มากกว่า มันมีอะไรให้เราได้รู้สึกว่าเราได้แสดงฝีมือหน่อยค่ะ”

19 ปีในวงการบันเทิง รถเมล์ยอมรับว่าก่อนหน้าเคยรู้สึก ‘ท้อ’ กับงานแสดงมาหลายต่อหลายรอบ เพราะรู้สึกว่าโอกาสสำหรับเธอ เหมือนจะไม่ได้เปิดกว้างมากนัก

“รู้สึกอย่างนั้น เพราะว่าหลังๆมาในการเล่นละครของรถเมล์ยอมรับเลยว่าเราเลือกว่าเราควรจะเล่นอะไร”

“หมายถึงว่ามีบทอะไรที่น่าสนใจ บางช่วงมันอาจจะไม่มี ที่เรารู้สึกว่าน่าสนใจขนาดนั้น แล้วก็โอกาสหลายๆ อย่างมันไม่มี”

“นักแสดงทุกคนก็รู้สึกแหละว่าเราอยากเล่นบทอะไรที่มันท้าทายตัวเอง เวลาที่เราเล่นอะไรที่มีความแตกต่าง หรือใครหยิบยื่นอะไรมาให้เรา เห็นในความสามารถเรา ก็จะรู้สึกดีใจมาก”

เพราะฉะนั้นทุกครั้งที่รับเล่น จึงตั้งใจมากๆ  “รู้สึกว่าคนที่ให้โอกาสเรา ก็เพราะเขาเชื่อมั่นในตัวเรา เราก็ต้องเต็มที่กับมัน”

ใช้ชีวิตคู่มาเกือบ 1 ปีแล้ว งานนี้เมื่อถามถึงชีวิตหลังแต่งงาน รถเมล์ก็ว่าทุกอย่างเหมือนเดิม เพียงแค่จากที่เคยได้เจอหน้ากันบางเวลา ตอนนี้ก็แทบจะอยู่ด้วยกัน 24 ชั่วโมง

“แรกๆ ก็อาจจะต้องมีปรับตัวบ้าง เพราะว่าเราก็จะไม่ค่อยคุ้นชิน อยู่บ้านตัวเอง เราเคยทำแบบนี้ๆ มา บางส่วนเขาก็ไม่ได้เหมือนคุณแม่เราเนอะ ไม่ได้อยู่แบบนี้ เราก็ต้องเรียนรู้เขา ว่าเขาใช้ชีวิตยังไง เขามีเวลาส่วนตัวตรงไหนที่เราไม่ควรไปยุ่งหรือเปล่า อะไรอย่างนี้”

สิ่งหนึ่งที่รถเมล์บอกว่าต้องปรับตัวเข้าหากันหนักมากคือ สามีเป็นคนที่ชอบดูทีวี ส่วนตนนั้นชอบอยู่เงียบๆ

“เราชอบเงียบๆ แต่เขาชอบให้มันมีเสียงโทรทัศน์ในบ้าน”

วิธีแก้ที่ใช้ คือบอกไปตรงๆ “พี่เบาเสียงหน่อยได้ไหม”

อีกอย่างคือ “เขาเป็นคนที่ชอบอยู่บ้านมาก ปลูกต้นไม้ ดูหนังสือ ดูโทรทัศน์ ดูซีรี่ส์ การใช้ชีวิตอยู่บ้านของเขาคือง่ายมาก แต่เราเคยทำงานอยู่แต่ข้างนอก แล้วพออยู่บ้านตลอดก็จะรื้อบ้านอีกแล้ว เดี๋ยวเก็บของตรงนั้น เดี๋ยวกวาดตรงนี้ อยู่เฉยๆ ไม่เป็น”

รถเมล์-บอล

ส่วนเรื่องที่หลายคนเซอร์ไพรส์ เพราะคู่ของเธอเปิดตัวได้ไม่นานก็แต่งงานเลย รถเมล์ก็ว่า “เราอยากให้มั่นใจก่อน ว่าเราจะมีชีวิตคู่กับใครสักคนหนึ่งจริงๆ ไม่อยากผิดหวัง”

ดังนั้นจึงค่อยๆคบหา ค่อยๆเรียนรู้กันอยู่ 3 ปี จนแน่ใจ จึงได้เปิดตัวและประกาศแต่งงานอย่างที่เห็น

ส่วนงานในวงการ รถเมล์บอกว่ายังทำไปตามปกติ

“สามีไม่เคยห้ามอะไรเลย ในการใช้ชีวิตจะทำอะไร ไม่เคยห้าม”

ให้เกียรติกันและกันตั้งแต่เริ่มคบหา ไม่เคยเปลี่ยนแปลง.

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image