‘โยโกะ’ ฝ่ามรสุมโรคสมองอักเสบ เตรียมเดินหน้าชีวิตใหม่ เผยอยากกลับเข้าวงการ

ถูกมรสุมโรครุมเร้าจนเกือบเอาชีวิตไม่รอดทั้งโรคสมองอักเสบ และโรคไต ล่าสุด โยโกะ ทาคาโน่ อดีตดาราสุดเซ็กซี่วัย 41 ปี ก็ได้ออกมาอัพเดตอาการป่วยให้ฟังในรายการ เอิ๊กโชว์ ทางช่อง 8 ว่า โรคไตตอนนี้อยู่ในเกณฑ์ปกติแล้ว เหลือเพียงโรคสมองอักเสบที่อาการดีขึ้นเรื่อยๆ หลังเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเมื่อปี 2557 โดยตอนนั้นน้ำหนักขึ้นกว่า 20 กิโลกรัม  พูดช้าสื่อสารไม่รู้เรื่อง ทำให้ไม่กล้าออกไปพบใคร  ส่วนทุกวันนี้ก็ยังมีอาการช้าๆ อยู่บ้างแต่ก็ดีขึ้น สามารถพูดคุยรู้เรื่อง และพยายามทำกิจวัตรประจำวันเอง เช่น ขับรถ ซึ่งก็ต้องมีคนนั่งมาด้วยอย่างไรก็ตามอาการป่วยนี้ค่อนข้างกระทบกับชีวิตประจำวัน เพราะต้องรับประทานยากดภูมิคุ้มกันที่ล้นเอาไว้จึงทำให้ติดเชื้อง่าย ดังนั้นเลยต้องระวังเรื่องอาหารการกิน รวมทั้งไม่ให้แมลงสัตว์กัดต่อย

“คุณหมอห้ามไม่ให้ยุงกัด กับห้ามทานผักสด กลัวพวกแมลงยาฆ่าแมลงเพราะจะทำให้ติดเชื้อในกระแสเลือดง่ายขึ้น อย่างต้องกลับไปญี่ปุ่นปีละครั้ง ที่นั่นของสดเยอะมาก ปลาดิบหรืออะไรก็ตามแต่ ถ้าจะต้องไปทานหรือว่าไปอยู่สักพักหนึ่งเราก็ต้องระวัง คือต้องหยุดยากดภูมิไปเลย ซึ่งคุณหมอก็ไม่อยากจะให้หยุดนาน เราต้องไปหาคุณหมอทุกเดือนหรือไม่ก็ 2 เดือนครั้งที่โรงพยาบาลของรัฐ ค่ารักษาไม่ได้แพงแต่ค่ายาแพงมากจริงๆ ส่วนค่าใช้จ่ายทั้งหมดต้องถามคุณแม่ดู คุณแม่เป็นคนทำบัญชี แล้วตอนนี้คือไม่ได้ยุ่งกับบัญชีสักเท่าไรก็เลยยังไม่ค่อยทราบ ก็คงเยอะเหมือนกัน” โยโกะเล่า

ก่อนบอกด้วยว่า สำหรับเรื่องความทรงจำ ถ้าเป็นเรื่องใหม่ๆ หลังออกจากโรงพยาบาลมาไม่มีปัญหา แต่ถ้าเรื่องเก่าๆ ในอดีตอาจจะจำไม่ได้ ซึ่งคุณหมอไม่ได้บอกว่าความจำจะกลับมา 100% หรือไม่ เพราะตอนนี้คือรักษาให้คงที่ไว้ ไม่ให้แย่ไปกว่าเดิม โดยคุณหมอไม่ได้แนะนำอะไรเป็นพิเศษ นอกจากดูแลตัวเองดีๆ ออกกำลังกายเป็นประจำ แม้จะเหนื่อยง่ายกว่าคนอื่น ทานอาหารที่มีประโยชน์และพักผ่อนมากๆ อย่าเครียด คุณหมอบอกด้วยว่าถ้าดีขึ้นอาจหยุดทานยาบ้าง แต่ก็อาจจะมีสิทธิ์ทานยาไปตลอดชีวิต ส่วนงานในวงการถ้ามีติดต่อมาก็ยินดีจะรับ เพราะตอนนี้คุยโต้ตอบได้ดีขึ้นและพูดชัดขึ้นกว่าเดิม

“คือมันเป็นเรื่องของภายในสมองนะคะ เป็นภูมิคุ้มกันที่ง่ายๆ คล้ายๆโรค SLE (แพ้ภูมิตัวเอง) แต่ว่าของเรามันล้น ไอ้ภูมิที่มันล้นเนี่ยเหมือนจะเข้าใจผิดว่า ในร่างกายของเราทำงานผิดปกติไปทำร้ายเซลล์ที่ปกติอยู่ เพราะฉะนั้นมันเหมือนกับภูมิคุ้มกันที่ค่อนข้างจะรั่วๆหน่อย ก็อาจจะติดเป็นโรคนู้นโรคนี้ แต่ตอนนี้ความดันก็คุมได้แล้ว อยู่เกณฑ์ปกติ แล้วก็น้ำตาลก็คุมได้แล้ว ส่วนคอเลสเตอรอลอยู่อีกนิดหน่อย”

Advertisement

“เราก็มีเครียดกับสิ่งที่เกิดขึ้นบ้าง แบบงงๆ เอ๊ะ! ยังไง จะเอายังไงดีกับตัวเอง แต่ก็พยายามไม่เครียดนะ พยายามคิดว่าทุกคนหลายๆ คนเขาก็ป่วย แล้วก็ต้องอยู่กับโรคนี้ให้ได้ เราก็ต้องยอมรับเขาให้ได้อะไรอย่างนี้ พยายามคิดอย่างงั้นมากกว่า ก็พยายามไม่เครียดดีกว่า เพราะว่ายิ่งเครียดกูก็ยิ่งเป็นหนักอะไรแบบนี้ เพราะฉะนั้นพยายามไม่เครียดพยายามคิดว่าจะต้องอยู่กับเขายังไงให้อยู่ได้อะไรแบบนี้มากกว่า” โยโกะกล่าว

พร้อมบอกทิ้งท้ายว่า “ต้องเดินหน้าแล้ว เพราะว่าเราหยุดอยู่กับที่มาพอสมควรละ”

โยโกะ ทาคาโน่

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image