‘หนุ่ม กะลา’ เผยเคยเป็นโรคซึมเศร้าหลังยุบวง ติดเหล้าหนักจนน็อก ก้าวผ่านจุดต่ำสุดของชีวิต
อยู่ในเส้นทางสายดนตรีกว่า 22 ปี สำหรับ หนุ่ม ณพสิน แสงสุวรรณ หรือ หนุ่ม กะลา ที่ตัวเองบอกเลยว่าเคยอยู่ในช่วงสูงสุดและต่ำสุดมาแล้ว ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ที่เริ่มต้นจากการประกวด Hotwave Music Awards และได้ออกเทปตอนอายุประมาณ 17 ปี จนกระทั่งช่วงหนึ่งที่ความดังของทำให้ชีวิตติดลบ โดยหนุ่มเล่าว่า
“ผมว่าผมเป็นคนที่ใช้ชีวิต ใช้คำว่าร็อกสตาร์ได้อย่างคุ้มค่าที่สุด คือความเป็นร็อกสตาร์มันจะต้องดูเฮ้วๆ เท่ๆ ที่สุด กินเหล้าอะไรอย่างนี้อ่ะครับ ก็เหมือนมันเป็นช่วงหนึ่งที่ฮอร์โมนมันพุ่งมากด้วยความเป็นวัยรุ่น”
ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมรับว่าดื่มทั้งก่อนขึ้นและหลังจบคอนเสิร์ต แต่ “งานจ้างเท่านั้นนะครับ”
“งานปกติแบบนี้ไม่มีหรอกครับ คือมันกินทุกวัน จนเราคิดว่าวิธีการแบบนั้น มันเป็นวิธีของร็อกสตาร์ แต่ก่อนนี้การเป็นร็อกสตาร์มันต้องดูเถื่อนๆ ภาพวิดีโอที่หลุดออกมาเราต้องดูเป็นคนเก๋าๆ มันก็เคยมีช่วงเวลาที่เราเคยคึกคะนองแบบนั้น”
ดื่มแบบนั้นมาเป็น 10 ปี จนกระทั่งก่อนที่จะตัดสินใจเลิกนั้นก็ถึงขั้นน็อก
“จำได้ว่าก่อนจะเลิก ดื่มเบียร์ไม่ถึง2 ขวด ก็น็อกไปตอนไหนไม่รู้ ด้วยความที่ร่างกายของผมข้างในมันเหมือนคงพังหมด ดื่มประมาณสัก 2 ขวด มันน็อกไป ถ้าดื่ม 5 โมงเย็น ผมจะตื่นอีกทีคือเช้าอีกวันนึงเลย น็อกไปตอนไหนก็ไม่รู้ แล้วกว่าจะหายแฮงค์กว่าจะหายมวนท้องข้างใน 3 วัน คือเอาจริงๆมันพังหมดแล้ว”
“ตอนนั้นพยายามจะเลิก เริ่มรู้สึกแล้วว่าตอนแรกที่เราเจอกันกับเหล้า คุณมาให้ความสุขผม ผมได้รับความสุขนั้น แต่ว่าพอวันที่เรากินแค่เบียร์ขวดเดียว แล้วน็อกเนี่ย แล้วต้องใช้เวลาอีก 2-3 วัน กว่าจะหาย ผมเริ่มรู้สึกว่าผมไม่มีความสุข ผมก็เลยค่อยๆ ถอยออกมา”
ก่อนจะเล่าว่า จุดเริ่มต้นส่วนนึงมาจากผลกระทบจากการวงแตก “มันเกิดมาจากเป็นโรคซึมเศร้าก่อน คือเป็นตอนที่วงแรกแตก จากคนกินเหล้ามากๆ ก็กินเหล้าหนักกว่าเดิม”
“จนมาถึงจุดที่ผมบอก มันก็เริ่มเป็นโรคซึมเศร้า แต่พอเริ่มไปรักษากับคุณหมอ พอเริ่มดีขึ้น ก็เริ่มคิดได้ว่าอยากร้องเพลงแล้ว อยากกลับมาเป็นนักร้องที่ดี เราก็เลยค่อยๆ ทบทวนทีละอย่างว่าเราควรจะแก้ไขอะไรบ้าง ณ จุดนี้เป็นจุดเริ่มต้น ตอนนั้นจำได้ว่า พอรักษาคุณหมอเสร็จ แฟนเอาหนังสือหลวงพ่อจรัญมาให้ มันก็เลยบวกกัน กับความคิดที่เราอยากเลิก ธรรมะเข้ามาพอดี มันก็เลยค่อยๆ”
จนมาถึงวันนี้ก็เป็นเวลา 10 กว่าปีแล้วที่ไม่แตะทั้งเหล้าและบุหรี่
นอกจากนี้ หนุ่ม ยังได้เล่าถึงการเริ่มสร้างวงใหม่ เป็น วงกะลายุค2 จนกระทั่งกลายเป็นศิลปินเดี่ยว ‘หนุ่ม กะลา’ ซึ่งเจ้าตัวก็ได้เผยความรู้สึกว่า
“จริงๆ ผมโอเคที่ใช้หนุ่ม กะลา ถ้าสิ่งที่ไม่โอเคเลยอย่างนึงที่ผมไม่ค่อยพูด จริงๆ แล้วผมเสียใจทุกครั้ง คิดถึงชื่อกะลาที่ผมต้องจบมันลง”
พร้อมยอมรับการเป็นศิลปินเดี่ยวในช่วงแรกนั้นไม่ประสบความสำเร็จ
“คือก่อนจะมาเป็นนักร้องเดี่ยว ผมไม่ได้คาดหวังว่าผมจะดังอยู่แล้ว เพราะว่าเราเข้าใจอยู่แล้วว่าคนที่เป็นวงแล้วสำเร็จมา พอออกเดี่ยว เราจะเห็นอยู่แล้วว่าในเมืองไทย มันแทบเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วออกเดี่ยวแล้วดังเท่าวง เราเตรียมใจเรื่องนี้ไว้แล้ว”
“แต่เราไม่คิดว่าพอออกจริงมันเละกว่านั้นอีก”
และก็เป็นช่วงที่เกิดวิกฤติทางการเงินของตัวเอง “เงินที่เราเก็บมาจากกะลายุคแรก มันก็ค่อยๆ ใช้ไปเรื่อยๆ จนพอจะออกเดี่ยวก็แทบจะไม่เหลือแล้ว ก็แบกทุกอย่างในบ้านมา 5-6 ปี”
“มีอยู่ครั้งนึงมันเป็นภาพที่แฟนเพลงถ่ายหน้าตึกแกรมมี่ ผมกำลังกลับจากตึก เพราะว่าเข้ามาตึกเหมือนจะมาคุยเรื่องทำเดี่ยว แต่ว่าด้วยสัญญาอะไรบางอย่างกับวงเก่ามันยังทำไม่ได้ แล้ววันนั้นจำได้ว่าคือหมดหวัง งานจ้างก็รับไม่ได้ในฐานะเดี่ยว หรืออะไรก็ตามแต่ ก็เดินออกจากตึกแล้วแฟนคลับ ถ่ายรูปนั้นได้พอดี ผมกำลังเดินข้ามจากฝั่งนี้ไปอีกฝั่งนึง เพื่อไปนั่งรถไฟใต้ดินไปหาแฟน แฟนมีรถ นั่นคือวันที่หมดทุกอย่าง คือตอนเราเดินเข้ามาเรารู้สึกว่าถ้าเรามาคุยกับผู้ใหญ่ ออกไปเราต้องได้รับงานแล้วแน่ เราต้องได้ทำนู่น ทำนี่ แต่พอเข้ามามันไม่เป็นอย่างนั้น”
เรียกว่าเป็นจุดต่ำสุดของชีวิต ก่อนที่ชีวิตจะถึงจุดเปลี่ยนอีกครั้งในวันนี้
ติดตามเรื่องราวของ หนุ่ม กะลา ทั้งหมดได้ที่นี่
