แต่ละก้าวที่กว่าจะถึงวันนี้ของ มุกดา ‘นางเอกเคมีสาธารณะ’ ขวัญใจแฟนละคร

แต่ละก้าวที่กว่าจะถึงวันนี้ของ มุกดา ‘นางเอกเคมีสาธารณะ’ ขวัญใจแฟนละคร

ขึ้นชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งนางเอกฮอตของวิก 7 สี ที่ละคร ‘โซ่เวรี’ ของเธอกำลังรีรันอยู่ในขณะนี้ สำหรับ มุกดา นรินทร์รักษ์ ไม่ว่ารับบทไหนหรือต้องเล่นคู่กับพระเอกคนใด กระแสความจิ้นก็พุ่งทะยานไม่แพ้กัน จนถูกจับตามองว่าเป็นนางเอกลูกรักของช่องไปแล้ว

แต่กระนั้นเมื่อสอบถามถึงเรื่องนี้ เจ้าตัวก็ยิ้มหวาน ก่อนออกตัว “มุกบอกเลยว่าช่องรักทุกคนค่ะ”

มุกดายังบอกด้วยว่า สำหรับเธอการมายืนอยู่ในจุดนี้ ไม่ใช่เรื่องง่าย

“คนที่ติดตามมุกจริงๆ จะรู้ว่ากว่ามุกจะมาอยู่ตรงนี้ได้ มุกใช้เวลา 6-7 ปี”

Advertisement

เป็น 6-7 ปีที่ต้องผ่านมาทุกบทบาท ทุกตำแหน่ง ตั้งแต่ตัวรอง คู่สอง ฯลฯ

“คือผู้ใหญ่ก็ให้งานตามความเหมาะสมของแต่ละคน ถ้าบทเข้ากับใครผู้ใหญ่ก็ให้คนคนนั้น”

กับการถูกมองว่าเธอปาดหน้าเค้กเพื่อนร่วมช่อง จนได้งานดีๆ มีละครต่อเนื่องตลอด เจ้าตัวก็ว่า “เวลาอ่านเจอข่าวแบบนี้ มุกไม่ได้คิดมากอะไร”

Advertisement

“เพราะเรารู้ตัวเองว่าพยายามทำทุกอย่างอย่างตั้งใจ รู้ว่าพยายามมากแค่ไหน เพราะฉะนั้นจะไม่เอาเรื่องแบบนี้มากดดันตัวเอง”

ทั้งยังยืนยันว่า เมื่อถึงจังหวะที่ใช่ ทุกคนก็จะได้รับโอกาสและบทบาทที่เหมาะสม

“เพราะฉะนั้นทุกคนมีโอกาสเท่ากันค่ะ”

มุกดายังบอกด้วยว่า การที่ได้รับบทอื่นๆ มาก่อนจะได้เป็นนางเอก ในความคิดของเธอ นั่นเป็นเรื่องที่ดี

“ถ้ามุกไม่ได้ลองบทแบบค่อยเป็นค่อยไป มุกคงไม่เข้าใจการแสดงละคร ว่าจะต้องเล่นยังไง ต้องพัฒนาตรงไหน แก้ตรงไหน”

“เป็นอะไรที่ดีมากๆ ทำให้เราค่อยๆ โตขึ้นทีละก้าว”

แต่ถึงจะค่อยๆ ก้าว ค่อยๆ สะสมประสบการณ์ แต่กระนั้นเมื่อต้องมาเป็นนางเอกเต็มตัวครั้งแรก ในเรื่อง ‘มัสยา’ เธอก็สารภาพว่า

“เครียดมาก” มากแบบเติม ก.ไปได้อีกหลายๆ ตัวเลยทีเดียว

เหตุเพราะ “ถ้าเล่นไม่ได้ก็มีโอกาสถูกเปลี่ยนตัว”

“ถ้าเล่นไม่ได้ก็ต้องพร้อมยอมรับ”

“ตอนนั้นมุกได้รับคำสอนมาเยอะมาก” เล่าแล้วก็ยิ้ม

“ต้องวิ่งมาดูมอนิเตอร์ทุกฉากว่าตัวเองเล่นเป็นอย่างไร แล้วพี่เขาจะจิ้มให้ดูเลยว่าเห็นตัวเองเล่นไหม มีการเรียนรู้ตลอด ไม่ใช่ได้โอกาสมาง่ายๆ อยู่ดีๆ แล้วได้ แต่ผ่านอะไรมาเยอะมาก ทั้งเล่นได้ เล่นไม่ได้ เรื่องราวมากมายเยอะแยะไปหมด”

ส่วนที่วันนี้กลายเป็นนางเอกกระแสดี เรตติ้งปัง แถมยังมีเคมีสาธารณะกับพระเอกทุกคน มุกดาบอกเหตุผลว่า อาจเป็นเพราะ

“มุกวางตัวเองเอาไว้ ว่าไม่ว่าจะได้บทบาทไหน เล่นเป็นอะไรก็ต้องทำให้ดี ให้เต็มที่ที่สุด”

และ “ถ้าคนดู ดูแล้วชอบ มุกจบเลย”

เรื่องเรตติ้ง ความนิยมใดๆ ไม่เก็บมาคิด
“มุกไม่แบกความกดดันไว้”

ก่อนให้เหตุผลที่เป็นเช่นนั้นว่า “ถ้าแบกเรื่องเรตติ้งไว้กับตัวเอง มุกต้องตายแน่ๆ”

ดังนั้น “มุกแค่หวังให้คนชื่นชอบละครที่มุกเล่นก็พอค่ะ”

กับเรื่องการเป็น ‘นางเอกเคมีสาธารณะ’ เจ้าตัวบอกปนหัวเราะว่า ไม่ทราบจริงๆ ว่าทำไมแฟนละครถึงจิ้นเธอกับพระเอกทุกคนที่ร่วมงานด้วย

“มุกจะบอกแฟนคลับเสมอ ว่าเวลาที่มุกเล่นละครกับใคร มุกจะเต็มที่ อยากให้ทุกคนช่วยสนับสนุนในทุกๆ คู่ที่มุกเล่น เพราะมุกยังต้องทำงานนี้ไปอีกนาน ไม่ว่าจะเจอใคร ก็อยากจะเล่นกับทุกคนได้ ไม่อยากให้มายึดติดว่าจะต้องเล่นแต่กับพระเอกคนนี้เท่านั้น”

ด้วยเหตุนี้จึงรู้สึกขอบคุณทุกครั้ง ที่แฟนๆ ช่วยสนับสนุนอย่างที่เคยเป็นมา

*เรื่องราวสุดโต่งของนางเอกสุดฮอต

จากคนธรรมดาพอได้มาเป็นนางเอกดัง ย่อมมีอะไรบางอย่างที่เปลี่ยนไป ซึ่ง มุกดายอมรับว่าตัวเธอเองก็มีเหมือนกัน โดยสำหรับเธอนั้น ต้องเปลี่ยนในเรื่อง ‘ความเงียบ’ ‘ความไม่เจรจา’

“ปกติมุกเป็นคนไม่ค่อยพูด มีปฏิสัมพันธ์กับคนน้อยมาก เขินและพูดไม่เก่งเลย ไม่กล้าที่จะคุยกับใครก่อน”

แถมยังเป็นคนหน้านิ่ง

“นิ่งมากๆ”

จนมีคนเห็นแล้ว ตีความไปไกลว่าสงสัยจะเหวี่ยง

555

อย่างไรก็ดี เจ้าตัวยืนยันว่าไม่ใช่ คือถึงแม้หน้าอาจจะพาไป แต่ในใจไม่มีอะไรเลยจริงๆ
แต่ก็นะ เพื่อไม่ให้เข้าใจผิด จึงตัดสินใจปรับทุกอย่างให้ซอฟต์ลง เพราะการทำงานในวงการนี้ต้องเจอผู้คนมากมาย และกับบางรายอาจมีโอกาสได้เจอเพียงครั้งเดียว จึงไม่อยากถูกตัดสินเพียงชั่วแวบของการพบปะ อย่างที่เคยเจอมา

“มุกเคยโดนมาแล้ว ก็เฟล จนคิดว่าจะทำให้เขาเข้าใจได้อย่างไร ว่ามุกเป็นคนเงียบๆ มุกไม่ได้ไม่ชอบเขา แต่แค่พูดไม่เก่งจริงๆ”

“ก็พยายามปรับเท่าที่ตัวเองทำได้ค่ะ”

*สตรองขึ้นได้เพราะไปญี่ปุ่น

ก่อนที่จะเป็นนางเอกดังแบบทุกวันนี้ มุกดาบอกว่า ตอนอายุ 15 ปี เธอเคยเป็นนางแบบที่ไปทำงานที่ประเทศญี่ปุ่นนานถึง 3 ปี

“ไปเป็นนางแบบแลกเปลี่ยนของเรย์ แม็กกาซีน”

“การทำงานที่นั่นสอนมุกเยอะมาก สอนให้สตรอง สอนให้แข็งแรง สอนให้มุกอยู่ได้” เจ้าตัวเล่า

เล่าอีกว่า “ตอนที่ไปญี่ปุ่นมุกทำอะไรไม่เป็นเลย ทั้งซักผ้า หุงข้าว และวิธีการทำงานจริงๆ”

ซึ่งต่างจากการทำงานในไทยที่จะมีทีมงานคอยดูแลและช่วยเหลืออยู่ตลอด ขณะที่ที่นั่นจะมีเพียงผู้จัดการซึ่งเป็นคนญี่ปุ่นเพียงคนเดียวที่ช่วยประสานงาน อื่นๆ เธอต้องจัดการด้วยตัวเอง

“ทำงานที่นู่นก็คิดแต่ว่าจะต้องทำยังไง เปิดหนังสือดูว่าเค้าโพสกันท่าไหน” มุกยกตัวอย่าง

จากนั้นก็ว่าการทำงานที่ญี่ปุ่นไม่ได้ง่ายเลยจริงๆ

“นางแบบเยอะมาก นางแบบทั่วโลกไปรวมกันอยู่ที่ญี่ปุ่น เวลาไปแคสต์งานก็จะมีคนไป 50 ถึง 100 คน ซึ่งเป็นอะไรที่เปิดโลกให้มุกมาก”

“เราต้องลุ้นทุกครั้งว่าจะได้งานมั้ย ต้องคอยพัฒนาตัวเองเสมอ คนญี่ปุ่นเขาจะมีฟีดแบ๊กเรื่องการทำงานตลอด วันนี้ทำงานเป็นอย่างไรบ้าง เขาจะถามคนที่ทำงานด้วย แล้วมุกก็จะได้ฟีดแบ๊กกลับมาว่าอยากให้พัฒนาตรงนี้ ตรงนั้น เป็นอย่างนี้ตลอด ไม่มีอะไรที่ได้มาง่ายๆ”

“การที่ได้ไปอยู่ญี่ปุ่นทำให้มุกรู้ว่าคนบนโลกนี้มีเยอะมาก และทุกคนเก่ง”

“งานแรกที่มุกไปถ่ายมุกทึ่งในตัวคนญี่ปุ่นมาก เขาสวย โพสท่าเก่ง และทำอะไรได้เยอะมาก มุกยืนมองเขาแบบทึ่ง อึ้งว่าเขาทำได้ยังไง และมุกไม่กล้าไปยืนตรงนั้นเลย เพราะคิดว่าตัวเองจะทำได้ไหม”

อย่างไรก็ดี สุดท้ายแล้วความรู้สึกในวันนั้นกลับกลายเป็นแรงผลักดันให้เธอต้องทำตัวเองให้พร้อมอยู่ตลอดเวลา

“เพราะถ้ามุกไม่พร้อม คนอื่นก็ได้ไปก่อน”

ด้วยเหตุนี้มุกดาซึ่งไม่อยากถูกทอดทิ้งไว้เบื้องหลัง จึงไม่หยุดยั้งที่จะพัฒนาตัวเอง เหมือนที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image