The Billion Dollar Code เปิดเปลือยเส้นทางนวัตกรรมพันล้านที่โลกไม่เคยได้รู้จัก

The Billion Dollar Code เปิดเปลือยเส้นทางนวัตกรรมพันล้านที่โลกไม่เคยได้รู้จัก

The Billion Dollar Code
เปิดเปลือยเส้นทางนวัตกรรมพันล้านที่โลกไม่เคยได้รู้จัก

เทคโนโลยีและนวัตกรรมในโลกใบนี้นอกจากจะต้องอาศัยความรู้เป็นตัวขับเคลื่อนแล้ว สิ่งสำคัญหนึ่งที่ถือเป็นพื้นฐานที่ทำให้เกิดนวัตกรรมต่างๆ ในโลกคือ “จินตนาการ” และ “ความคิดสร้างสรรค์”
เช่นเดียวกับซีรีส์ที่สร้างจากเรื่องจริง “The Billion Dollar Code” ที่จะพาเราไปเห็นว่าแนวคิดทางเทคโนโลยีที่วันนี้ทุกคนบนโลกรู้จักและใช้มันอย่างแพร่หลายนั้น ส่วนหนึ่งก็มาจากความสร้างสรรค์และจินตนาการที่มาก่อนกาล ดั่งที่ซีรีส์เรื่องนี้อ้างอิงถึงคำกล่าวที่ว่า “นวัตกรรมต้องการพื้นที่ในการฝัน และที่อาจสำคัญกว่านั้นคือพื้นที่ให้ทำผิดพลาด อุปสรรคและความยุ่งยากสร้างความรู้เชิงลึก และความเข้าใจ ถ้าคุณทำซ้ำสิ่งที่ประสบความสำเร็จมาก่อนแล้ว คุณอาจไม่มีวันได้สร้างอะไรที่แปลกใหม่เลย”

กระนั้นการมาถึงก่อนกาลของไอเดียที่โลกยังไม่พร้อมจะเห็นความสำคัญหรือให้คุณค่า เส้นทางของมันก็ดูช่างอาภัพยิ่งนัก และนั่นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวใน “The Billion Dollar Code” ที่ทำให้เราได้รู้จักที่มาของแนวคิดการสร้าง “แผนที่โลกแบบดิจิทัลเสมือนจริง” ที่เชื่อกันว่าเป็นต้นธารหรือสารตั้งต้นให้กับกูเกิลแมป และกูเกิลเอิร์ธ

ซีรีส์สร้างจากเหตุการณ์จริงของชาวเยอรมันสองคน “ยูรี” โปรแกรมเมอร์ และ “คาร์สเตน” นักศึกษาปริญญาโทด้านศิลปะที่สนใจพัฒนาศิลปะที่ผสมผสานกับเทคโนโลยี หรือมีเดียดิจิทัลอาร์ต ทั้งคู่ได้มารู้จักกันในปี 1993 และได้ร่วมกันสร้างสิ่งมหัศจรรย์ทางเทคโนโลยีขึ้นมาในต้นยุค 90 ที่อินเตอร์เน็ตและคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลยังไม่แพร่หลาย นั่นคือการสร้างแผนที่โลกแบบเสมือนจริงขึ้นมา โดยให้มีวิธีเข้าถึงแผนที่สามมิติเหมือนสัมผัสได้จริง สร้างมิติมุมมองแทนสายตาคล้ายๆ ภาพของซุปเปอร์แมนกำลังบินจากนอกโลกเข้ามาที่ตรงจุดไหนก็ได้บนโลกใบนี้ ในชื่อโปรเจ็กต์ “เทอร์ร่าวิชั่น” Terra Vision

Advertisement

ด้วยแนวคิดของชายเยอรมันสองคนที่อยากจะสร้างแผนที่โลกเสมือนจริงให้ทุกคนในโลกท่องไปไหนก็ได้บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ โดยต่างก็อ้างถึงจินตนาการของโลก Metaverse หรือโลกเสมือนจริง ซึ่งปรากฏเป็นคำศัพท์ที่ถูกกล่าวขานถึงครั้งแรกจากนิยายวิทยาศาสตร์ “Snow Crash” เมื่อปี 1992 ที่สร้างให้เราเห็นภาพว่าผู้คนอาจใช้เวลาส่วนใหญ่ในโลกเสมือน เหมือนหนึ่งเราใช้ชีวิตในโลกจริง ซึ่งการจะเข้าสู่โลกเสมือนได้ก็ต้องมีอุปกรณ์ที่ช่วยเชื่อมต่อเรา รวมทั้งต้องสร้างซอฟต์แวร์เพื่อสร้างโลกเสมือนจริงนี้ขึ้นมา

“The Billion Dollar Code” ซีรีส์ลิมิเต็ด 4 ตอนจบของเน็ตฟลิกซ์เรื่องนี้จะพาเราย้อนรอยไปดูที่มาของแนวคิดและจินตนาการทางเทคโนโลยีที่ต้องบอกว่า ไอเดียของหนุ่มเยอรมันสองคนนี้สุดมากในยุค 90

อย่างไรก็ตาม แก่นหลักของซีรีส์เรื่องนี้ คือการเล่าจากเหตุการณ์จริงที่พวกเขาเป็นโจทย์ยื่นฟ้องกูเกิลเอิร์ธข้อหาละเมิดสิทธิบัตร โดยเชื่อว่ามีการใช้อัลกอริธึ่มที่คล้ายคลึงมาจาก Source code เดียวกัน นั่นทำให้วิธีดำเนินเรื่องใช้การเล่าเรื่องเหมือนสืบพยาน คือการสัมภาษณ์ทางรูปคดีให้ตัวละครหลัก คือ “ยูรี” และ “คาร์ลเตน” สลับมาเล่าเรื่องราวของพวกเขาและเทอร์ร่าวิชั่นในอดีต นับตั้งแต่ที่มาของไอเดียสร้างแผนที่โลกเสมือนจริง การพัฒนาอัลกอริธึ่ม การรวบรวมข้อมูลแผนที่ การสร้างสรรค์วิธีเข้าถึงแผนที่โลกเสมือนจริง การนำเสนอไอเดียกับบริษัทใหญ่เพื่อหาทุนพัฒนา นำมาสู่การตั้งบริษัทบนคอนเซ็ปต์เหมือนธุรกิจสตาร์ตอัพที่ชื่อ “อาร์ตพลัสคอมพ์” ที่หมายความว่าการนำศิลปะกับคอมพิวเตอร์มาผนวกกันสร้างนวัตกรรม

Advertisement

กระทั่งเรื่องราวดำเนินมาจนถึงมีบริษัทเทคโนโลยีใหญ่พัฒนาสิ่งที่คล้ายคลึงจากสารตั้งต้นของพวกเขา นำมาสู่ 25 ปีต่อมาที่มีการฟ้องร้องบนชั้นศาล ซึ่งตัวซีรีส์ถ่ายทอดให้เห็นแง่มุมทั้งข้อกฎหมาย การสู้คดี โดยใช้วิธีเล่าตัดสลับไปมาระหว่างอดีตกับปัจจุบัน ส่งผลให้เรื่องราวจากเหตุการณ์จริงสนุกน่าติดตาม ที่สำคัญเล่าเรื่องเทคโนโลยีให้เข้าใจได้ง่าย

แม้หลายคนจะรู้บทสรุปของเหตุการณ์จริง แต่ “The Billion Dollar Code” ทำมากกว่านั้นซีรีส์ได้พาเราย้อนเวลาไปดูความฝัน ความหวังและจินตนาการของสองหนุ่มเยอรมันในต้นยุค 90 ที่พวกเขาสร้างนวัตกรรมแผนที่โลกเสมือนจริงขึ้นมาครั้งแรกบนโลก และถูกเผยโฉมในงาน International Communications Fair ที่เกียวโตในประเทศญี่ปุ่นเมื่อปี 1994 ซึ่งเป็นแนวคิดที่มาก่อนกาล เพราะมันเริ่มจากโปรเจ็กต์งานศิลปะที่ใช้เทคโนโลยีมาผสมผสาน กระทั่งทั้งคู่ต่อยอดมันขึ้นมาในฐานะธุรกิจ
สตาร์ตอัพยุคนั้น ก่อนที่จะจบลงด้วยความน่าเสียดาย ทว่าความยิ่งใหญ่ของแนวคิด ความสร้างสรรค์ และจินตนาการของพวกเขาก็สมควรได้รับการถ่ายทอดในรูปแบบซีรีส์ที่ทำให้โลกได้เห็นถึงแง่มุมที่ไม่เคยถูกเปิดเผยที่ไหนมาก่อน รวมทั้งยังได้เห็นถึงความพยายามของบริษัทเล็กๆ ที่จะต่อสู้กับบริษัทใหญ่ที่ทรงอิทธิพล

“The Billion Dollar Code” ยังมีตัวสารคดีเบื้องหลังให้ดูแยกออกมาอีกในชื่อ “Making The Billion Dollar Code” เป็นการขยายประเด็นเบื้องหลัง และพูดคุยกับทีมงานผู้สร้าง ที่สำคัญได้ฟังบุคคลจริงในเหตุการณ์สะท้อนมุมมองความในใจทั้งหลายออกมา ทั้งตัวซีรีส์และสารคดีเบื้องหลังจึงห้ามพลาดด้วยทั้งเนื้อหา และคุณค่าของเรื่องราวที่ไม่เคยถูกเปิดเผยที่ไหนมาก่อน

ภาพประกอบ Youtube Video / Netflix

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image