อั๋น โอลิเวอร์ เผยทั้งน้ำตาไม่ติดใจการเสียชีวิตของพี่ชาย ย้ำสาเหตุมาจากหลายปัจจัย

อั๋น โอลิเวอร์ เผยทั้งน้ำตาไม่ติดใจการเสียชีวิตของพี่ชาย ย้ำสาเหตุมาจากหลายปัจจัย

เมื่อเวลา 16.45 น. วันที่ 17 มกราคม ที่ศาลา 9 วัดสาครสุ่นประชาสรรค์ ได้มีพิธีรดน้ำศพ ไมเคิล พูพาร์ต (อ่าน ‘นิว ชัยพล’ กอดให้กำลังใจพ่อ หลังสูญเสีย ‘ไมเคิล พูพาร์ต’) โดยมีแขกเป็นกลุ่มเพื่อนสนิทและคนในครอบครัวมาร่วมงาน

ทั้งนี้ อั๋น โอลิเวอร์ พูพาร์ต น้องชายไมเคิล ได้เปิดใจกับสื่อมวลชนถึงการสูญเสียในครั้งนี้ว่า

“ก็เตรียมคำพูดมา แต่พอมาถึงนี่ก็นึกไม่ออก มันเป็นช่วงเวลาที่เสียใจของทางครอบครัว ก็เป็นไปตามข่าวว่าพี่ชายของผมได้จบชีวิตของตัวเองเมื่อวานนี้ แกเป็นโรคซึมเศร้า เป็นมาได้สักพักแล้ว”

“ตอนช่วงเป็นหนักๆ เราก็พยายามให้แกกลับมาอยู่กรุงเทพฯ คุณแม่ก็เป็นคนดูแลอยู่ได้ 3-4 เดือน ก่อนที่แกจะตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง มาอยู่นี่ก็พาไปโรงพยาบาล พาไปหาหมอ ทานยาพูดคุยทุกวัน สุดท้ายแล้วก็เป็นอย่างที่เห็น ในส่วนของผมคงไม่มีอะไรแจ้งมากไปกว่านี้ พี่ชายผมก็เป็นคนสงบ เงียบๆ เป็นคนรักสันโดษ”

Advertisement

ตั้งแต่เขาออกจากวงการไปก็คือไปดูแลพ่อที่ป่วยติดเตียงอยู่ 8-9 ปี ก่อนที่พ่อจะเสียไป หลังจากนั้นมาเขาก็ไม่อยากกลับเข้าวงการ ก็ไปใช้ชีวิตสบายๆ สันโดษที่เชียงใหม่ ถึงแม้วันนี้เองเราก็ได้พูดคุยกันตลอดแล้วก็ได้เกริ่นเอาไว้ว่า ถ้าจัดงานศพก็จัดแค่วันเดียวเผาเลยนะ เราคุยกันสนุกๆ หรือว่าไม่ต้องมีพิธีการอะไรมาก นั่นคือสไตล์ของเขา แต่ก็มาถึงวันนี้…ผมก็อยากจะเชิญชวนเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกคนที่ผมทัก เขามาเยอะ ก็ดีใจที่ยังมีคนรักและคิดถึงพี่ชายผมอยู่ ผมก็ถือโอกาสนี้ฝากพี่ๆ สื่อมวลชนประกาศให้ทั่วถึงเพื่อนพี่น้องที่อยากจะมาร่ำลาครั้งสุดท้าย”

มีคำพูดอะไรที่เขาทิ้งไว้ไหม?
“คำพูดมีเยอะ คำพูดที่คุยกันไว้ก่อนเสียคือ จะต้องบอกว่าอาการซึมเศร้าที่เขาเป็นมันไม่ใช่อาการชั่ววูบ เป็นอาการที่เขาไม่สบายมาสักพักหนึ่งแล้ว ผมพยายามพูดคุยให้กำลังใจกับเขา แน่นอนก่อนที่จะมาถึงวันนี้ได้มีการพูดคุย ห่วงใย ไม่อยากจะให้แม่ได้เห็นสภาพ อยากให้คนดูแล เพราะคนที่ดูแลอยู่ที่บ้านก็คือพี่ชายดูแลแม่ ก็คือตอนที่เขาป่วยเขาก็กลับมาที่กรุงเทพฯเพื่อมาดูแล สั่งเสียไว้ทุกอย่าง เราก็ได้คุยอยู่ตลอดว่าอย่าทำนะ ให้กำลังใจ คิดถึงพ่อคิดถึงแม่

การสั่งเสียจะบอกว่าสั่งเสียร่ำลาได้คุยกันไว้แล้ว เพราะในใจลึกๆ ก็รู้สึกว่าครั้งนี้เป็นหนักมาก ในส่วนตัวของผมเองก็รู้สึกว่าพูดร่ำลากันไว้ก่อนก็ดี ก่อนที่จะมาถึงเหตุการณ์แบบนี้ก็ร่ำลากันเรียบร้อยแล้ว”

สิ่งที่เขาห่วงที่สุดคือคุณแม่?
“เขาห่วงแม่กับลูกเขาครับ”

เขาสั่งเสียอะไรถึงแม่กับลูกไหม?
“เขารู้ว่าแม่ได้รับการดูแลดีอยู่แล้ว มีพี่ชายดูแลอยู่ ผมก็อยู่บ้านข้างๆ กัน ก็ไม่ได้มีอะไร ในตอนสุดท้าย… เขาไม่ได้ห่วงอะไรแล้วครับ ในตอนสุดท้ายเขาสั่งเสียไว้หมดแล้ว เขาไปหมดห่วงจริงๆ”

ลูกใครดูแลต่อ?
“ลูกเขาเป็นลูกบุญธรรม ทางแม่เขาก็ดูแลต่อไป”

เห็นว่าไมเคิลมีปัญหากับแฟน เรื่องนี้เราทราบไหม?
“ผมว่าในจุดนี้มันก็เป็นเรื่องเซ็นซิทีฟ คนเสียไปแล้วก็เสียไป คนที่ยังอยู่ก็ยังอยู่ คนที่เป็นแม่ของลูกก็ยังอยู่ ผมคงจะพูดแค่ได้ว่า…เวลารักกัน สัญญาว่าจะดูแลกัน ตอนสัญญาพูดกันให้ดี พูดกันให้เป็นมั่นเป็นเหมาะ ตอนป่วย ตอนเจ็บ ตอนสบาย รักษาดูแลกัน ดูแลกันจนตาย ถ้าพูดไปแล้วก็ขอให้คำไหนก็เป็นคำนั้นนะครับ คนเราก็เป็นแบบนั้น แต่ผมกับทางบ้านก็ไม่ได้ติดใจในการเสียชีวิตของพี่ชาย เสียใจแน่นอน แต่ไม่ได้ติดใจใดๆ ทั้งสิ้น ผมเข้าใจว่าการมีชีวิตคู่มันไม่ง่าย เราไม่ได้โทษใครใดๆ ทั้งสิ้นเลย ไม่ได้คิดจะเอาผิด ไม่โทษต่อว่าอะไร อาจจะมีน้อยใจบ้าง น่าจะอารมณ์นั้น เพราะพี่ชายเพิ่งเสียไปเมื่อวาน แต่อย่างที่บอกคือเราไม่ได้ติดใจอะไรทั้งสิ้นครับ”

น้องชายคนรองให้สัมภาษณ์เชื่อว่าต้นเหตุน่าจะมาจากเรื่องแฟน?
“มันมาจากหลายสาเหตุครับ แต่ผมจะปฏิเสธแบบนั้นเลย มันก็คงจะไม่ใช่ความจริง มันจะไม่ใช่สิ่งที่เป็นไปได้และเกิดขึ้น การเป็นโรคซึมเศร้าเนี่ยมันมีหลายสาเหตุแหละครับ หนึ่งในนั้นก็น่าจะเป็นเรื่องของครอบครัวที่ทำให้ตัดสินใจแบบนั้นไป แต่สุดท้ายแล้วมันอยู่ที่เขาแหละครับ ไอ้โรคบ้าๆ แบบนี้”

เห็นว่าทางแฟนโทรมาแล้วเมื่อวานนี้ แต่มีการต่อว่ากันแล้วตัดสายไป หลังจากนั้นได้โทรมาอีกไหม?
“ผมไม่ได้ทราบดีเทลตรงนี้นะครับ แต่ถึงเวลานี้มันไม่ใช่สิ่งสำคัญนะครับ ถ้าเผื่อเขาฟังอยู่ ผมก็ขอเรียนเชิญที่นี่ (เสียงสั่น) มาลาพี่ผมครั้งสุดท้ายก็โอเคครับ เราไม่ได้ติดใจอะไร (น้ำตาไหล)”

ในฐานะน้องชาย พี่เราเป็นอย่างไรบ้าง?
“พี่ชายผมเป็นคนดีนะครับ เขาเป็นคนที่ให้ เขาทุ่มเท ผมรู้สึกว่าในทางครอบครัวเรา เขาอาจจะให้มากเกินไปซะด้วยซ้ำ ให้เขาไปเกินร้อย แต่นั่นคือนิสัยของเขา เขาชอบช่วยเหลือคนครับ เขาเป็นคนมีเมตตาครับ”

กำหนดการหลังจากนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง?
“อย่างที่บอก พี่ชายผมเขาขอไว้ว่าวันเดียว แต่ว่าผมก็แกล้งบอกเขาว่าวันเดียวคนอาจจะมาไม่ทันนะ เป็น 3 วันเผาได้ไหม ตอนคุยกันก็…(น้ำตาไหล) ใจจริงคนเราปลงได้มันก็จบอะนะ ชีวิตคนเรา แต่ตอนนี้ก็ขอว่างั้น 3 วันเผาแล้วกัน ก็จะเป็นไปตามที่เขาขอและต้องการ ก็คือวันนี้ (17 ม.ค.) เป็นวันรดน้ำกับสวดวันแรก วันพฤหัสบดีก็จะเป็นวันเผา กระดูก ก็จะทำพิธีลอยอังคารครับ อาจจะเก็บไว้ก่อน แล้วก็หาฤกษ์ที่ดีไปลอยอังคาร แต่ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะไปลอยที่ไหน ยังไม่ได้ตัดสินใจครับ”

อยากบอกอะไรกับพี่ชายครั้งสุดท้าย?
“ผมพูดไปหมดแล้วล่ะครับ…(น้ำตาไหล เสียงสั่น) ผมก็ดีใจที่ได้คุยกันนะครับ ได้พูดได้ร่ำลากัน ได้พูดกันไปหมดแล้ว ผมคงจะไม่ได้มาร่ำลาพี่ชายผมต่อหน้าสื่อมวลชนในตรงนี้ ผมได้พูดไปหมดแล้ว แต่ว่าผมอยากจะฝากถึงคนอื่นที่มีญาติที่เป็นโรคซึมเศร้า พาไปหาหมอ พูดให้กำลังใจ พูดให้ความจริงในสิ่งที่เป็นไปได้ ไปหาหมอเร็วๆ อย่าปล่อยไว้นาน ผมดีใจที่ผมได้มีโอกาสได้คุยแบบเปิดอกกับพี่ชายผมเป็นครั้งสุดท้าย (น้ำตาไหล เสียงสั่น)”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image