เรื่องในจอของ ‘นาย ณภัทร’ และความสัมพันธ์นอกจอกับ ‘ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก’

เรื่องในจอของ ‘นาย ณภัทร’ และความสัมพันธ์นอกจอกับ ‘ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก’

กำลังจะมีผลงานละครมาให้แฟนๆ ได้ติดตามกัน สำหรับพระเอกหนุ่ม นาย ณภัทร เสียงสมบุญ ในเรื่อง ‘สร้อยสะบันงา’

แถมคราวนี้ยังได้มาประกบคู่กับนางเอกคู่จิ้น ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ ที่เจ้าตัวบอก “ดีใจที่ได้กลับมาเล่นกับนางเอกของผมอีกรอบครับ”

สำหรับเหตุผลที่มากับของประโยคนี้ ที่นายบอกมา มีทั้ง “ใบน่ารักกับผมมาก ตั้งใจทำงานมากๆ อยู่กองก็น่ารักกับทุกคน คือเขาอยู่ตรงไหนก็จะมีเสียงหัวเราะ มีแต่รอยยิ้มตลอด”

“ดีใจที่ได้เล่นกับเขาครับ” ว่าแล้วก็ย้ำมาอีกครั้ง

Advertisement

เรื่อง ‘สร้อยสะบันงา’ นายเล่าว่า เป็นละครแนวพีเรียดย้อนยุค ซึ่งนอกจากจะฉายในบ้านเรา ทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.30 น. ตั้งแต่วันที่ 24 มกราคม ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 HD แล้ว ยังได้รับความสนใจซื้อลิขสิทธิ์ไปฉายในหลายประเทศ

กับการเป็นละครพีเรียดเรื่องแรกที่ได้เล่น นาย ณภัทร บอกว่า นอกจากจะต้องใช้ความละเอียดในหลายๆ เรื่องเพื่อความสมจริงแล้ว บทบาทของตัวละคร ‘เทียน’ ที่เขาได้รับยังมีความท้าทายมาก

“บทเรื่องนี้ค่อนข้างสะท้อนความเป็นจริงของสังคม มีข้อคิดที่เอามาปรับใช้ในชีวิตจริง และสุดท้ายจะจบด้วยข้อคิดดีๆ ที่สะท้อนให้เห็นอยู่ในละครทุกตัว”

Advertisement

เขายังเล่าถึงช่วงเวลาที่ถ่ายทำละครเรื่องนี้ ซึ่งกินระยะถึง 2 ปี ด้วยรอยยิ้มว่า ช่วงแรกๆ ที่ยังไม่คุ้นชินกับความเป็นละครพีเรียด ก็รู้สึกว่าภาพของตัวเองที่ออกมา ‘ดูแปลก’ ทั้งการแต่งหน้า และทรงผม

“แต่พอสักพักที่เล่นไปแล้ว ก็เริ่มชินตาครับ”

นอกจากเรื่องที่ว่า วิธีการพูดการจาก็เป็นอีกเรื่องที่เข้าข่ายเดียวกัน ดังนั้น ก่อนเริ่มถ่ายทำจริง ทั้งเขาและใบเฟิร์นจึงต้องทำการบ้าน “อย่างหนักมาก” อย่างไรก็ตาม ที่ถือเป็นความโชคดี คือในเรื่องนี้มีนักแสดงรุ่นใหญ่ มากด้วยฝีมือและประสบการณ์ จึงได้รับการช่วยเหลือเป็นอย่างดี

“บางทีเวลาเราเล่น เรายังไม่มีภาพในหัว แต่พอเวลาเขาเล่น พี่เขาส่งอารมณ์มาให้เรา และผมก็โชคดี ทุกคนน่ารัก คอยสอนตลอดครับ” บอกพลางยิ้มปลื้ม

เมื่อถามถึงฉากเลิฟซีน ที่ต้องถ่ายทำภายใต้มาตรการความปลอดภัยในช่วงโควิด-19 เขาก็บอกว่า ฉากใกล้ชิดมากๆ ดังกล่าวถ่ายไปก่อนที่เรื่องโควิดอันหนักหนาจะปะทุหนัก ขณะที่ช่วงการระบาดอันน่ากลัวก็จะเป็นการถ่ายทำฉากที่ไม่ต้องการความใกล้ชิดนัก

“คือคำนึงถึงความปลอดภัยของทุกคนไว้ก่อน” ว่าอย่างนั้น

สำหรับฉากเลิฟซีนในเรื่อง นายบอก “ผมรู้สึกว่ามันไม่ได้เป็นการฉาบฉวย หรือเป็นอะไรที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว”

“ถ้าเกิดย้อนกลับไปในช่วงนั้น ทุกอย่างมันต้องใช้ความอดทน ต้องรอ และใช้ความพยายามมาก ไม่มีการส่งข้อความ หรือเฟซไทม์เหมือนทุกวันนี้”

“ผมรู้สึกว่ามันเป็นเสน่ห์ของความเป็นพีเรียดที่เราได้เล่น เพราะทุกๆ อย่างเหมือนค่อยๆ ปั้น ค่อยๆ ทำ จนสร้างมาถึงจุดนั้นจริงๆ”

การที่ต้องเล่นเลิฟซีนกับคนที่คุ้นเคยกัน นายบอก “ตอนซ้อมก็เหมือนจะยาก”

เพราะซ้อมไป เล่นกันไป ขำกันไป

หากพอถึงเวลาถ่ายทำจริง “ก็ไม่เคยหลุด”

ทั้งนี้กับใบเฟิร์น ซึ่งนอกจากเรื่องความสนิท ‘ในจอ’ จากการทำงานแล้ว ‘นอกจอ’ ซึ่งเป็นชีวิตจริง เขาก็ว่า ทุกอย่างที่เป็นตามที่ห็น

“ก็ชอบแกล้งกัน แกล้งเขาสนุกดี”

ส่วนคนที่ ‘อยากจะลุ้น’ นายบอก “ไปลุ้นในละครครับ”

กระนั้นเจ้าตัวก็ยอมรับว่าใบเฟิร์นคือคนที่แม่ของเขา คือ หมู พิมพ์ผกา เสียงสมบุญ รักมากๆ

“แม่แฮปปี้ที่มีเพื่อนคุยเกี่ยวกับเรื่องกระบองเพชร บอกว่าสาวๆ แม่เหมือนใบเฟิร์น เหมือนแม่มองเห็นตัวเองในกระจก”

“แต่ป่านนี้กระจกแตกแล้ว” แซวแม่ซึ่งนั่งฟังอยู่ข้างๆ เสร็จ เจ้าตัวก็หัวเราะร่วน

ถึงตอนนี้ ‘แม่หมู’ ยุทันทีต่อหน้าสื่อ ว่าให้ลูกชายตามจีบใบเฟิร์น

ฟังแล้วนายก็ตอบแบบเขินๆ “ดูละครก่อนครับ ขอให้ดูที่ปัจจุบัน แล้วเดี๋ยวค่อยว่ากันทีหลัง”

ตอนนี้สถานะของทั้งคู่จึงยังอยู่ที่ความเป็น ‘เพื่อนกัน’ เท่านั้น


ลูกกับแม่ และเรื่องที่ ‘ยิ้มชื่น’

จากเด็กชายที่คอยตามแม่ไปทำงานตามที่ต่างๆ วันนี้ นาย ณภัทร สลับตำแหน่งมาเดินนำ ขณะที่แม่ผันตัวไปทำหน้าที่ผู้จัดการส่วนตัวให้ ได้ตัดสินใจสร้างบ้านตามความฝันให้แม่ โดยนายออกตัวว่าอันที่จริงบ้านหลังนี้ถือเป็นน้ำพักน้ำแรงของคู่แม่-ลูก

“แม่กับผมทำงานกันเป็นทีม เขาก็ยังทำงานอยู่ อยู่เบื้องหลัง ไม่ได้ออกสื่ออะไรมาก”

ทั้งยังบอกว่าดีใจที่ในที่สุดก็ได้สร้าง เพราะแม่อยากสร้างบ้านแบบนี้มานานแล้ว แต่ไม่มีคนดำเนินการเสียที

“ผมก็ตั้งใจมากๆ มันเป็นความฝันของคุณแม่ที่อยากมีบ้าน อยากสร้างจากน้ำพักน้ำแรงของเรา”

ขณะเดียวกันที่เขาไปลงแรงและช่วยดูแลขั้นตอนการสร้างอย่างใกล้ชิด ก็เพราะ “อยากมีความทรงจำดีๆ” อีกทั้งในเมื่อจะเป็นสถานที่ที่ต้องอยู่ไปอีกนาน “ก็อยากทำทุกอย่างด้วยตัวเอง”

บ้านซึ่งน่าจะต้องใช้เวลาสร้างอีกราว 1 ปีครึ่ง คนเป็นเจ้าของบอกว่าตั้งใจจะสร้างให้ออกลักษณะเป็นห้องโล่งๆ เข้าไว้ แล้วในอนาคตหากอยากต่อเติม จัดแต่ง อยากมีห้องอะไร เพิ่มตรงไหนก็ค่อยๆ ทำไป

อย่างไรก็ดีที่จะต้องมีก่อน มีเลยแน่ๆ คือ ‘เรือนแคนตัส’ ของแม่

“แม่ทำงานมามากแล้วครับ ก็ยอมให้เขามีความสุขกับสิ่งที่เขาเพิ่งเจอ ว่าเขาชอบจริงจัง”

เดาว่าหมู พิมผกา น่าจะยิ้มชื่นตอนที่ได้ยินประโยคนี้

ภาพจาก @pimpaka
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image