นก อุษณีย์ เคลียร์ทุกประเด็น โดนคุณไสย? หวั่นใจถูกลอบติดจีพีเอส

 

ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าน้องสาวของ นก อุษณีย์ วัฒฐานะ ได้เข้าร้องหมอปลา มือปราบสัมภเวสี เพื่อขอให้ช่วยพี่สาว เนื่องจากเชื่อว่าพี่สาวโดนทำของใส่ จนสุดท้ายตัดขาดครอบครัว ติดต่อไม่ได้ 1 เดือน อีกทั้งยังเผยว่านกหวาดผวากลัวถูกคนทำร้าย กลัวถูกคนลอบยิง รวมทั้งหย่าขาดอดีตสามี เพราะถูกคนใกล้ตัวเป่าหู

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นก อุษณีย์ พร้อมทนายเดโช ได้ให้สัมภาษณ์ หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ในรายการโหนกระแส โดยนกบอกว่า ตอนนี้กลับมาอยู่กรุงเทพฯ แต่ก่อนหน้านี้เดินทางไปอยู่โคราชบ่อยๆ โดยช่วงหนึ่งไปอยู่ยาว เพื่อทำบุญปฏิบัติธรรม

เรื่องที่ถูกสงสัยว่าโดนของ นกบอกว่าในความเห็นส่วนตัวเรื่องนี้ไร้สาระมาก

Advertisement

ยืนยันว่าไม่ได้โดนของ?

“ไม่โดนค่ะ ไม่มีค่ะ”

Advertisement

เรื่องหย่าสามีเพราะโดนเป่าหู เธอบอกว่าก็ไม่ใช่ แต่ที่หย่าเพราะหลายเหตุผล

“เป้าหมายในชีวิตต่างกัน ถึงจุดนึงต้องแยกย้ายค่ะ”

“เป็นเรื่องของทัศนคติและเป้าหมายในชีวิตที่ต่างกัน คือเราแก่แล้วไง เราเดินทางมาถึงจุดที่เรารู้ว่าจะใช้ชีวิตบั้นปลายยังไง อย่างที่เราพูดไปก่อนหน้านี้ว่าเราไม่อยากมีลูก เขาอยากมีลูก ถึงวันนึงก็แยกย้ายกันไป อันนี้ก็ส่วนนึง”

ที่กังวลใจเรื่องถูกตามฆ่า จนต้องหนีไปหลบที่โคราช ?

“ที่ไปอยู่โคราช ถามว่าไปทำไม ช่วงก่อนหน้านี้เป็นช่วงโควิด สองคือเราไม่ได้ถ่ายละครพอเป็นโควิด แล้วเรามีเรื่องคดีความด้วย เราไม่สบายใจ พออยู่กรุงเทพฯ ไม่ได้มีงาน เราก็เดินทางไปทำบุญ ไปต่างจังหวัด จริงๆ ไปมาหลายที่ ก่อนหน้านั้นไปจังหวัดอื่นจนพอมาโคราชก็รู้สึกสบายใจที่จะอยู่ตรงนั้น มีเพื่อนคนรู้จักให้การต้อนรับดูแลอย่างดีจากชาวโคราช ก็เลยตัดสินใจอยู่ตรงนั้น พออยู่แล้วมันมีช่องทางทำมาหากิน นกมีรายได้ มีงานที่นั่น พอช่วงนึงเราได้กลับมาถ่ายละคร ก็ปิดกล้องไปแล้ว ถ่ายเสร็จไปแล้ว มีช่วงนึงไปๆ มาๆ ตอนนี้กลับกรุงเทพฯ แล้วค่ะ”

“ส่วนประเด็นมือปืน ต้องบอกก่อนว่าตอนแรก ช่วงแรกๆ ที่มีข่าวตั้งแต่ปีที่แล้ว เราก็ไปปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่งที่ชัยภูมิ นกไปเจอจีพีเอส ติดอยู่ใต้ท้องรถโดยบังเอิญ คือตอนแรกเหมือนเราทำของหล่น แล้วเป็นรถเก๋งเตี้ยๆ เราคลานไปเก็บ เราเห็นอะไรวะอยู่ตรงท้ายรถ ประหลาดๆ เป็นกล่องสี่เหลี่ยม เราก็หยิบออกมาแล้วไปถามเขา เขาบอกว่าเป็นจีพีเอส คำถามคือใครเอาพีจีเอสมาติดรถเรา เราไม่ได้ติดเองแน่นอน เราก็ปรึกษา ตร.ที่มาปฏิบัติธรรมด้วยกัน เขาแนะนำให้ไปแจ้งความ ลงบันทึกประจำวัน เราก็เกิดความไม่สบายใจเนอะ เพราะเราไม่รู้หรอกเรื่องมือปืน แต่เรารู้ว่ามีใครสักคนติดจีพีเอสเรา ก็ลงบันทึกประจำวันเพื่อความสบายใจ และใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาทค่ะ มีการระมัดระวังตัวเป็นปกติ”

ส่วนคนที่มาติดเป็นใคร เธอบอกว่าไม่รู้

“เอางี้ดีกว่า นกไปปฏิบัติธรรมอยู่เดือนนึงที่วัดนั้น อยู่มาประมาณอาทิตย์นึงเพิ่งเจอจีพีเอส คุยกับ ตร.ท่านนี้ผ่านไปประมาณ 3-4 วัน หลายวัน เราก็จะเอาจีพีเอสอันนี้ไปแจ้งความ คุณพี่ ตร.ก็บอกว่าให้เอาไปวางไว้ที่เดิมที่เราเจอ แล้วถ่ายรูปเพื่อเป็นหลักฐานว่าเราเจอตรงนี้ ระหว่างถือจีพีเอส และคลานไปใต้รถเพื่อวางไว้ที่เดิมเพื่อถ่ายรูป เจออีกอันค่ะ แล้วใครมันจะพยายามขนาดนั้น ในเมื่อเราอยู่ปฏิบัติธรรมในวัดในป่า”

“เรื่องนี้เป็นหน้าที่เจ้าหน้าที่ ตร. เขาไปสืบว่าเป็นซิมใคร มีรอยนิ้วมือใครมั้ย ซึ่งมัน 2 ครั้งแล้ว คงไม่หวังดีแล้ว เพราะไม่งั้นคงไม่พยายามสองครั้ง”

“เราไม่ได้ปรักปรำใคร แต่การโดนสองครั้งที่เราเจอ มันทำให้เราไม่สบายใจ เราใช้ชีวิตก็ต้องไม่ประมาท”

ส่วนกรณีเอฟซีฝั่งโน้นมาอยู่กับคุณและอาบี บอกวิญญาณนักแสดงเข้าร่างเขา มาอยู่ในฝันเขา บอกว่าจะตามฆ่าคุณ พยายามเอาตัวเขาไปเป็นพวกให้ได้ ถ้าเป็นพวกเมื่อไหร่คุณถูกจับทันที และพยายามบอกว่าคุณต้องช่วยเขา ปลุกเขาตลอด อย่าให้วิญญาณนักแสดงคนนั้นมาเรียกเขา คุณก็ต้องนั่งเฝ้าเขา จริงมั้ย?

“ถามกลับพี่หนุ่ม พี่หนุ่มว่ามันเป็นจริงได้มั้ย มันเป็นไปได้เหรอ (หัวเราะ) ไม่มีเหตุการณ์แบบนี้ค่ะ คือเอาเป็นว่าที่นกไปอยู่โคราช หนึ่งในแก๊งทำบุญคือน้องคนนี้ด้วย และมีทีมอื่นๆ อีกหลายคน พี่ๆ อสม. ผู้นำชุมชน เป็นแก๊งใหญ่ที่เราทำโรงทาน ถุงยังชีพค่ะ”

กรณีที่เกิดทั้งหมด มีการลือกันถึงขั้นที่ว่ามีการบอกให้คุณถ่ายอุจจาระใส่ถุง แล้วบอกให้เอามาให้เขา เพื่อเขาจะไปปานักแสดงคนนั้นในฝัน เพื่อไม่ให้มาวุ่นวายกับคุณ คุณเคยทำมั้ย?

“นกว่ามันไร้สาระมาก” บอกพลางหัวเราะ

ถ้ามีหลักฐานล่ะ เช่น การที่คุณพูดคุยกับคนคนนั้นถึงเรื่องนี้ ถ้าหลุดออกมาจะทำยังไง?

“ถ้าเราพูดคุย อาจเป็นการคุยเล่นกัน เราคิดว่ามันไร้สาระมาก เราอาจคุยกันเล่นๆ ตลกๆ ก็ได้”

“พูดเล่นอาจมี เหมือนเป็นการพูดไร้สาระเล่นกันมากกว่า แหม พูดไปเดี๋ยวก็เป็นคดี บางทีเราโกรธใครเราก็อยากเอาไปขว้างใส่เขา (หัวเราะ)”

“นกว่าเป็นความเข้าใจผิดมากกว่า ที่เอาสิ่งที่พูดเล่นไปคิดเป็นจริงเป็นจัง ถ้าปาจริงก็โดนแจ้งความจับสิคะ”

วันนี้คุณมากับคุณแม่ ที่เขาบอกนกหายไปจากแม่ จริงมั้ย?

แม่รัตนา “ปกติเราอยู่กันคนละมุมอยู่แล้ว เพราะงานเขาเป็นงานนักแสดง งานแม่เป็นงานสวนทุเรียน ต้องแยกกันอยู่ อยู่แล้ว อยู่กันคนละมุม แต่เราก็โทรคุยกันตลอดว่าเป็นยังไงบ้าง”

เรื่องที่ลูกสาวแม่กลัวถูกคนตามฆ่า?

“ถ้าปัญหาตรงนี้ อย่างที่เขาบอกต้องระวังตัวมันก็ถูก มันไม่ได้แปลกค่ะ เขาก็ระวังตัวของเขาอยู่ เรื่องการหายตัว คือเราอยู่คนละจังหวัด เมื่อก่อนอยู่ด้วยกัน แต่ปี’54 น้ำท่วมแม่กลับไปทำสวนทุเรียน เรื่องคุย เราคุยกันอยู่แล้ว ไม่ได้ห่างหายไปไหน”

“ติดต่อกันตลอด ไม่ว่าจะวันสำคัญหรือไม่สำคัญเราติดต่อกันตลอด คุยกันตลอด”

คดีคุณจั๊กจั่น ตอนนี้โอกาสเจรจาเป็นไง?

ทนาย “ก็มีโอกาสเมื่อ 27 ที่ผ่านมา ได้ไกล่เกลี่ยกัน ได้เจอผู้รับมอบอำนาจอีกฝั่ง เป็นนิมิตหมายที่ดี รอแค่ดีเทลแค่บางส่วน ศาลนัดอีกที 5 เม.ย. ซึ่งคาดว่าน่าจะไกล่เกลี่ยจบด้วยดี มีการยอมหรือเยียวยาก็ว่ากันไป แล้วมีการถอนฟ้องไม่ดำเนินคดีกัน”

คุณอยากให้จบ?

นก “อยากให้จบสิคะ”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image