เพราะเป็นนักแต่งเพลงที่เขียนเพลงเกี่ยวกับ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร อาทิ ต้นไม้ของพ่อ, ของขวัญจากก้อนดิน, รูปที่มีทุกบ้าน ฯลฯ ดี้-นิติพงษ์ ห่อนาค จึงกลายเป็นบุคคลที่สื่อมวลชนหลายสำนัก ประชาชนหลายคน อยากสัมภาษณ์และพูดคุยถึงความรู้สึก
ซึ่งดี้-นิติพงษ์ได้โพสต์ข้อความในใจถึงคนไทยทุกคนผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว Nitipong Honark ว่า
“มีหลายท่าน ทั้งญาติมิตร ทั้งสื่อมวลชน ติดต่อขอสัมภาษณ์ฉันสำหรับความรู้สึกในช่วงนี้…
ด้วยเห็นว่าฉันแต่งเพลงเกี่ยวกับเบื้องสูงไว้หลายเพลง น่าจะมีคำพูดใดที่น่าสนใจ น่าค้นหา…
ฉันขอบอกเลยนะแม่ประไพ ว่าฉันไม่มีความสำคัญอะไรเลย เป็นพสกนิกรคนหนึ่งที่ไม่เคยได้ถวายงาน ไม่เคยใกล้ชิดพระยุคลบาทเกินไปกว่าเป็นบัณฑิตรับพระราชทานปริญญา…แถมรูปรับพระราชทานปริญญาก็ยังถูกไฟไหม้ไปพร้อมกับร้านถ่ายรูปเมื่อวันนั้น
ฉันแต่งเพลงต้นไม้ของพ่อ ของขวัญจากก้อนดิน รูปที่มีทุกบ้าน คำพ่อสอน ฯลฯ ก็แต่งจากความรู้สึกของพสกนิกรธรรมดาคนหนึ่งที่เป็นนักแต่งเพลง..ที่พอจะอธิบายความรู้สึกเข้าไปในเพลงได้..
มาสัมภาษณ์ฉัน…ก็ได้แค่คำพูดพื้นๆ ที่ไม่ได้ดีไปกว่าพี่น้องไทยคนอื่นๆ เลย…
สองวันมานี่ ฉันนั่งจมเก้าอี้ จ้องดูโทรทัศน์ ขอดูทุกอย่างที่เกี่ยวกับพระองค์ท่าน ไม่ลุกไปไหนทั้งสิ้น…โกรธตัวเองด้วย ว่าทำไมถึงเพิ่งจะมาใส่ใจในตอนนี้…
ฉันเห็นชาวเขา ชาวเหนือ ชาวอีสาน ชาวใต้ คนพิการ ที่ได้ใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาท ได้ทำงานโครงการพระราชดำริ มีเรื่องเล่า มีเรื่องราวมากมาย ฉันนั่งดูแล้ว ก็แอบอิจฉา…..
คนเหล่านั้นแหละ ควรที่จะได้ถูกสัมภาษณ์ เรื่องเล่าของพวกเขา มีมากมาย ฉันมีเพียงเสี้ยวเดียวของพวกเขาด้วยซ้ำ…..เรื่องของพวกเขากับพระองค์ท่าน มันน่าประทับใจกว่ามาก ได้ทั้งรอยยิ้มและน้ำตา…
อย่าให้เกียรติคนที่ได้ยินเรื่องราวมาแล้วเอามาแต่งเป็นเพลงได้ เอามาเล่าได้ เกินไปกว่าคนที่ได้ประสบ ได้เฝ้า ได้ถวายงาน เหน็ดเหนื่อยไปพร้อมพระองค์ท่าน…..เลยนะขอรับใต้เท้า..
…ส่วนช่วงเวลาอีกหลายวัน หลายเดือน หรือนับปี…จากนี้…
เราชาวไทย มาช่วยกันเปลี่ยนความรู้สึก ปลอบประโลมกันและกัน
อย่าตอกย้ำความเศร้าหมองต่อกันอีกเลย ฉันไม่คิดว่า พระองค์ท่านจะอยากให้เป็นแบบนี้นานจนเกินไป…
มันยากนะ…ทำใจยาก แต่ก็ต้องทำหน้าที่ต่อไป พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลต่อไปก็จะได้มีกำลังพระทัย พระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ซึ่งมีพระญาณวิถี ก็จะทรงเกษมสำราญพระทัย และปราศจากความกังวลห่วงใย
ส่วนมีอีกหลายท่าน ขอให้ฉันแต่งเพลงในเพลานี้…ฉันขอเถิด
ฉันยังอยู่ในช่วงวิญญาณแห้ง สมองกลวง…
คนสมองกลวงนี่…ไร้ค่ายิ่งกว่าคนสมองตัน…
มาร่วมกันรักษาวิญญาณ สติ สมอง ของผู้สูญเสียอย่างพวกเรากัน แล้วพัฒนาหน้าที่ สังคม ไปตามปกติโดยเร็วเถิด
ฉันเชื่อว่า…องค์เทพสมมุติที่มาประทับกับเรามาเจ็ดสิบปี ที่เพิ่งเสด็จกลับสู่สวรรค์…จะทรงพระสำราญมาก ถ้าเรากู้วิญญาณไทยกลับมาเดินไปข้างหน้าได้ตามแนวทางที่ทรงวางไว้..
อย่าให้เวลาหดหู่ของชาวเรา มันนานนักนะ…องค์พระรามาธิบดีที่เก้า เทพที่เรารักที่สุด จะทรงไม่สำราญพระราชหฤทัยเท่าที่ควรจะเป็น…”
ขอบคุณภาพจาก Nitipong Honark, ชวกิจ อินทร์พุก