‘กอล์ฟ – ขวัญ’ รวมใจแจกอาหาร-น้ำดื่ม ‘เอ ไชยา’ ขอเป็นศิลปินทีดี กตัญญูต่อแผ่นดิน

มาร่วมทำดีด้วยการอาสาแจกอาหารและน้ำดื่มที่บริเวณพระบรมมหาราชวังกันอย่างต่อเนื่อง สำหรับ กอล์ฟ – พิชญะ นิธิไพศาลกุล และ ขวัญ – อุษามณี ไวทยานนท์ โดยกอล์ฟ ให้สัมภาษณ์ว่า อะไรที่ทำได้เล็กๆ น้อยๆ ก็อยากมาช่วยทำ ซึ่งตนดีใจที่ได้เกิดบนแผ่นดินนี้

“ตอนนี้ท่านได้พักผ่อนอยู่บนฟากฟ้า ณ ตอนนี้เป็นหน้าที่ของพวกเราที่จะต้องทำตามคำสอนที่ท่านสอนไว้กว่า 70 ปี ขอให้พลังของพวกเราทำให้ประเทศของเราเจริญขึ้น ครั้งนี้เราได้เห็นการรวมพลังของทุกคน หลังจากนี้เราก็อยากให้เป็นแบบนี้ตลอดไป ไม่ใช่ทำแค่วันนี้วันเดียว ถ้าผมขอพรได้ก็อยากให้คนไทยรักกันอย่างทุกวันนี้ ซึมซับสิ่งเหล่านี้ให้อยู่ในจิตใจของเรา และเดินหน้าต่อไปครับ ส่วนถ้าให้บอกต่อความดีของท่านสู่รุ่นลูกรุ่นหลาน คงมีอะไรให้บอกต่อเยอะเลย แต่สิ่งนึงที่อยากบอกคือเราสองคนภูมิใจที่ได้เกิดในแผ่นดินนี้”

ด้านขวัญ กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นประชาชนชาวไทยด้วยกัน มีอะไรเราก็ช่วยกัน เพราะครั้งนึงในชีวิตที่เราเกิดในสมัยรัชกาลนี้ เป็นสิ่งที่ติดตราตรึงใจ ตั้งแต่เกิดมาก็รักท่านไปแล้ว ซึมซับและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่มีต่อพสกนิกรชาวไทยทุกคน ไม่ว่าจะโดยตรงหรือทางอ้อม

“จริงๆ คำสอนของท่านทุกคำทุกประโยคมีความหมายสำหรับคนในชาติทุกชนชั้น ขวัญเองก็ยึดหลักความสมถะและพอเพียง เพราะในหลวงท่านก็ใช้ชีวิตเหมือนชื่อที่สมเด็จย่าตั้งให้คือคำว่า ‘ดิน’ เราก็อยู่ให้เหมือนดินเพราะดินจะอยู่ได้ทุกแห่งทุกหน แต่ดินจะทำให้ที่ที่เราอยู่เจริญงอกงาม อย่างเราเป็นนักแสดงมีชื่อเสียง เราก็ใช้ความมีชื่อเสียงนี้ไปสร้างคุณประโยชน์ให้กับที่ไหนก็ตามที่เรามีโอกาสได้ทำ เราควรจะรับผิดชอบหน้าที่ของเราให้เต็มที่ อย่างในหลวงท่านก็ไม่ได้รับผิดชอบเพียงหน้าที่เดียว แต่ท่านรับผิดชอบต่อประชาชนชาวไทยในทุกส่วน ถ้าเรารักท่านเราก็ควรจะแบ่งเบาให้ท่านมองลงมาแล้วรู้สึกภูมิใจ ว่ามีการเปลี่ยนแปลงกับทุกคนในสิ่งที่ท่านสอน อยากให้ทุกคนรักษาความดี เหมือนอย่างวันนี้ตลอดไป อย่างที่ท่านเคยบอกว่าเสียใจได้แต่อย่าละเลยหน้าที่ เรากลับมาพัฒนาตัวเองให้เป็นไปในทางที่ดีขึ้นดีกว่า”

Advertisement

20161018173925_IMG_0217

ขณะที่ เอ – ไชยา มิตรชัย นักร้อง และลิเกชื่อดัง ที่เดินทางมาสักการะพระบรมศพเป็นครั้งแรก กล่าวว่า ตั้งใจมาถวายสักการะพระบรมศพ หลังจากเดินทางไปร้องเพลงที่อ่างทอง ส่วนตัวได้มีโอกาสถวายงานรับใช้ครั้งหนึ่งตอนท่านประชวรอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราช โดยการร่วมแสดงและร้องเพลงถวาย ซึ่งปกติแล้วตนจะไปเล่นลิเกอยู่ที่วัดโบสถ์น้อย ตรงสะพานอรุณอัมรินทร์ เพราะจำได้ว่าถ้ามีการแสดงลิเกตอนกลางคืนจะได้ยินเสียงถึงโรงพยาบาลก็

“ซึ่งพ่อผมจะบอกอยู่เสมอว่าให้ผมตั้งใจเล่น ถึงแม้ท่านจะได้ยินหรือไม่ได้ยินก็แล้วแต่ แต่ในเมื่อท่านประชวรอยู่ ก็ให้เรานึกเสมอว่าเรากำลังแสดงลิเกถวายท่าน” เอ กล่าว

และว่า ตั้งแต่ยังเล็กๆ จะเห็นข่าวพระราชกรณียกิจอยู่ทุกวันและจะจำได้ติดตา และก็เห็นว่าที่บ้านจะเปิดอยู่ทุกวันจนเวลาสิบๆ ปี ก็ยังเห็นพระองค์ทรงงานอยู่ตลอดเวลาและพอทราบข่าวว่าท่านสวรรคตก็รู้สึกเสียใจอย่างที่สุด
“ที่สุดเลยครับ (เสียงสั่น) ผมก็เหมือนกับคนไทยทุกคนครับ เหมือนดวงใจทุกดวงที่สูญเสียพลังยิ่งใหญ่ ผมเคยขึ้นเวทีที่ท้องสนามหลวงในวันพ่อแห่งชาติ เคยร้องเพลงองค์เดียวในโลก เพลงล้าเกล้าเผ่าไทย แต่ความรู้สึกตอนนั้นกับวันนี้มันต่างกันโดยสิ้นเชิง เพราะไม่มีภาพนั้นให้เราได้เห็นอีกแล้วครับ แต่ผมเชื่อว่าท่านยังอยู่ในใจของผมเสมอ และเชื่อว่ายังอยู่ในใจคนไทยตราบนานเท่านาน”

เอ ยังบอกอีกว่า “ผมเคยได้ยินพระองค์ท่านตรัสไว้ว่า สิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือเรื่องของการทำงาน ผมรู้สึกว่าจะเป็นโอวาทในวันพ่อสักปีหนึ่ง ท่านบอกให้เรารู้สึกสนุกกับงานที่เราทำ และเราก็จะไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ซึ่งคำสอนพวกนี้ยังก้องอยู่ในหูผม และผมก็สอนน้องๆ ทุกคนที่อยู่ในคณะด้วย”

“ผมอยากให้ทุกคนเข้มแข็งนะครับ มีพระราชดำรัสที่บอกว่า วันที่ท่านสูญเสียสมเด็จย่า แม่เคยบอกว่าไม่อยากให้ร้องไห้ แสดงว่าสมเด็จท่านสอนให้พระองค์ท่านเข้มแข็ง ก็เหมือนกับพวกเราครับ และที่ผมปลาบปลื้มใจอีกอย่างก็คือพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ท่านพยุงกันและประคองกัน ซึ่งเราเห็นและเราก็ต้องเข้มแข็ง ผมคิดว่าเราสูญเสียพระองค์ท่านไป แต่ท่านฝากคุณงามความดีไว้กับเราเยอะมากมาย อยากให้ทุกคนเอาเป็นแบบอย่าง อยากให้ทุกคนมีกำลังใจ และอยากให้ทุกคนร่วมกันทำความดี เพราะในวันที่พระองค์ยังมีพระชนม์ชีพอยู่ ทุกคนต่างก็บอกว่าอยากทำดีเพื่อพ่อ ซึ่งวันนี้ผมได้เห็นน้ำใจของทุกๆ คนที่มาในท้องสนามหลวง มาช่วยกันคนละไม้คนละมือ ตั้งใจจะทำความดีเพื่อพ่อ ตรงนี้มันเป็นภาพที่ผมเห็นแล้วยังชื่นใจเลยครับ ถึงแม้เราจะไม่มีพระองค์อยู่ แต่ท่านก็ยังสถิตย์อยู่ในดวงใจของเราทุกๆ คนด้วยคุณงามความดี รวมถึงพระบรมราโชวาทและคำสอนต่างๆ ที่ท่านได้สอนเอาไว้ ผมอยากให้ทุกคนยึดนำเป็นแบบแผนและนำไปปฏิบัติ ซึ่งผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่ขอปฏิญาณตนว่า ลมหายใจที่เหลืออยู่ จะขอเป็นศิลปินที่ดี และขอกตัญญูต่อแผ่นดินนี้ ผมอยากทำเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับทุกๆ คนครับ” เอ กล่าวในที่สุด

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image