การเสด็จสวรรคตของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร นับเป็นการสูญเสียที่ยากจะทำใจของพสกนิกรชาวไทย เนื่องจาก 70 ปีที่ทรงครองราชย์ พระองค์ทรงงานเพื่อประโยชน์สุขของพสกนิกรมาโดยตลอด
การนี้สถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ จึงได้นำรายการพิเศษ ตลอดจนละครเทิดพระเกียรติมาออกอากาศ เพื่อให้คนไทยได้ซาบซึ้งกับ
พระราชจริยวัตร พระราชกรณียกิจ รวมถึง “คำพ่อสอน” อีกครั้ง
โดย ช่องเวิร์คพอยท์ หมายเลข 23 นำละครเทิดพระเกียรติชุด “พ่อ” ที่ถ่ายทำเมื่อปี 2542 เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ มาให้ชมทุกวันในเวลา 09.30 น. และ 20.30 น.
สำหรับละครชุดนี้ถือเป็นละครโทรทัศน์เรื่องแรกๆ ที่เสนอเรื่องราวคนทั่วไป ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจในการสู้ชีวิตจากคำสอนของพระองค์ โดยทีมเขียนบท กลุ่มกระดาษพ่อดินสอแม่ และ ประภาส ชลศรานนท์ ต้องอ่านหนังสือจำนวนมาก และไปพูดคุยกับเจ้าหน้าที่มูลนิธิชัยพัฒนา เพื่อนำข้อมูลโครงการพระราชดำริ พระบรมราโชวาท และพระราชนิพนธ์ต่างๆ มาประกอบ ถ่ายทอดเป็น 6 เรื่องราวผ่านฝีมือพระเอก 6 คน
เรื่องแรก “วัคซีน” นำแสดงโดย สรพงษ์ ชาตรี กับบท “หมอเลิศ” ผอ.โรงพยาบาลในถิ่นทุรกันดารที่ต้องต่อสู้กับโรคเรื้อนที่กำลังระบาดอย่างไม่ย่อท้อ เพราะเคยตามเสด็จฯเมื่อครั้งยังเป็นนักเรียนแพทย์ และได้เห็นการทรงงานและพระวิริยะของพระองค์
เรื่องที่ 2 “เพลงของพ่อ” ที่ นพพล โกมารชุน แสดงเป็น “สม” นักดนตรีวงลูกทุ่งที่ชีวิตล้มเหลวทั้งการงาน และความสัมพันธ์กับลูกชาย แต่สุดท้ายก็กลับมายืนขึ้นได้อีกครั้ง เพราะพระบรมฉายาลักษณ์ที่กำลังทรงดนตรี และเพลงพระราชนิพนธ์
เรื่องที่ 3 “ชีวิตที่พอเพียง” ศรัณยู วงษ์กระจ่าง รับบท “ชูชีพ” นักธุรกิจที่ขยายงานอย่างไม่ดูกำลังตัวเองจนพบกับการล้มครืนของเศรษฐกิจ ทว่ากลับมามีชีวิตงดงามอีกครั้งด้วยแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง
เรื่องที่ 4 “ถั่วแดงหลวง” ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง แสดงเป็น “ยอธะยี” ม้งหนุ่มที่หาญกล้าต่อกรกับการรังแกของนายทุน วิธีตาต่อตาฟันต่อฟันของเขาเกือบนำไปสู่โศกนาฏกรรมระหว่างชาวเขาและชาวเมือง แต่แล้วถั่วแดงที่ในหลวงพระราชทานให้กับชาวไทยภูเขาได้ทำให้ความสงบสุขคืนมาอีกครั้ง
เรื่องที่ 5 “เทียนขี้ผึ้ง” ได้ พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง รับบท “แสน” แท็กซี่ผู้ต่อสู้กับวิกฤตชีวิตที่ถาโถม เขาพยายามหล่อเทียนพรรษาตามคำแนะนำของญาติมิตรเพื่อเป็นเคล็ดในการรักษาอาการประหลาดของลูกชาย และยิ่งเมื่อรู้ว่าแม้แต่เทียนพรรษาของในหลวงยังหล่อเองในสวนจิตรฯ เขาจึงเริ่มเรียนรู้การทำเทียน และเรียนรู้การเลี้ยงผึ้งไปพร้อมๆ กับปรัชญาชีวิตบทสำคัญจากพระราชจริยวัตรของในหลวง
ปิดท้ายด้วยเรื่อง “ความฝันอันสูงสุด” ที่ วิลลี่ แมคอินทอช แสดงเป็น “เมทิศ” นักบินหนุ่มทหารของพระราชาที่ต้องแสดงความกล้าหาญด้วยการยอมรับผิดในเหตุเครื่องบินตก และเมื่อได้ฟังเพลงพระราชนิพนธ์ รวมถึงเข้าไปรับรู้โครงการฝนหลวง เขาก็เข้าใจถึงพระราชปณิธานอันยิ่งใหญ่ที่จะต่อสู้กับศัตรูที่น่ากลัวที่สุดของประเทศ นั่นคือ ความยากแค้นของประชาชน
ส่วน น้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์ ตอนพิเศษ ของค่าย บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น ผู้จัด หน่อง-อรุโณชา ภาณุพันธุ์ และผู้กำกับ บำเพ็ญ ชำนิบรรณการ ตั้งใจถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของพระองค์ที่ทรงงานเพื่อปวงชนชาวไทย รวมถึงสอดแทรกเรื่องหน้าที่ของประชาชนผ่านละครที่เขียนบทขึ้นมาใหม่
ด้วยผู้จัดว่า “หน้าที่ของประชาชนทุกคน เป็นความรับผิดชอบ ต้องสร้างจิตสำนึก เป็นสิ่งที่อยากให้รู้ว่าไม่ใช่หน้าที่ของคนใดคนหนึ่ง แต่ทุกคนต้องช่วยกัน เพื่อให้บ้านตัวเองน่าอยู่ อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะทะเลาะกัน ต้องช่วยเหลือกัน”
แถมงานนี้ยังพิเศษตรงที่เป็นการรวมรุ่นนักแสดงตั้งแต่ ม.6/16 ร้ายบริสุทธิ์ เมื่อ 15 ปีก่อน จนถึงน้องใหม่ฯ รุ่นปัจจุบัน เช่น แม๊กกี้-ภราดร ทวีวัฒนสมบูรณ์, เอ้-ศตวรรษ เมทะนี, แอม-ธัญวิสิฎฐ์ เสียงหวาน, จ๊ะจ๋า-พริมรตา เดชอุดม, บุ๊คกี้-พิมพลอย ปัจชัยโย ฯลฯ
โดยจะเผยแพร่ทาง ช่อง 3 เวลา 09.15 น.ในวันเสาร์แรกที่รายการต่างๆ ออกอากาศได้ตามปกติ
ขณะที่ ช่องวัน 31 ได้จัดทำรายการพิเศษ “หัวใจเดียวกัน” ที่จะนำความซาบซึ้งและความประทับใจของชาวไทยที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาบอกเล่า ออกอากาศทุกวันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 21.30 น.
สำหรับรูปแบบจะเป็นการเชิญศิลปิน-ดารามาพูดคุย, รวบรวมพระราชกรณียกิจ หรือนำเรื่องราวดีๆ ที่ส่งต่อกันทางโซเชียลเน็ตเวิร์กมาเสนอ เพื่อให้เรื่องเหล่านี้เป็นพลังใจให้พี่น้องชาวไทยก้าวต่อไปอย่างเข้มแข็ง ซึ่ง แฟรงค์-ภคชนก์ โวอ่อนศรี และ เดียร์-ลิลลี่ แม็คกร๊าธ รับหน้าที่พิธีกร
ด้าน พีพีทีวี เอชดี ช่อง 36 แม้จะไม่ได้มีรายการหรือละครเทิดพระเกียรติ เช่นช่องอื่นๆ แต่ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.00, 16.00 และ 21.30 น. ก็หยิบละครที่สร้างจากบทประพันธ์ทรงคุณค่าของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช อย่าง “สี่แผ่นดิน” เมื่อปี 2546 ที่กำกับการแสดงโดย หม่อมน้อย-ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล มาให้ชมกัน เพื่อจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับโบราณราชประเพณีไทย ศิลปวัฒนธรรมล้ำค่า ตลอดจนวิถีชีวิตของผู้คนที่อยู่อย่างร่มเย็นภายใต้พระบรมโพธิสมภาร
ที่สำคัญยังจะได้เห็นถึงความจงรักภักดีของคนไทยที่มีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยตั้งแต่ครั้งอดีต ผ่านเรื่องราวของ “แม่พลอย” หญิงผู้ประสบพบพานเรื่องราวต่างๆ ยาวนานถึง 4 แผ่นดิน
โดยได้นักแสดงมากฝีมือมาร่วมถ่ายทอด ไม่ว่าจะเป็น ตุ้ย-ธีรภัทร์ สัจจกุล, อุ้ม-สิริยากร พุกกะเวส, นิรุตติ์ ศิริจรรยา, ชาคริต แย้มนาม, ฟลุค-เกริกพล มัสยวานิช, นุ้ย-สุจิรา อรุณพิพัฒน์ ฯลฯ
ทั้งนี้ ตุ้ย-ธีรภัทร ผู้รับบท “คุณเปรม” ข้าราชบริพารผู้จงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ บอกด้วยความดีใจที่ “สี่แผ่นดิน” ได้กลับมาฉายใหม่อีกครั้งว่า “สิ่งที่สอดแทรกอยู่ในนั้นล้วนเป็นประวัติศาสตร์ ขนบธรรมเนียม ประเพณีการแต่งกาย รวมถึงวิธีการพูด วิธีคิดของตัวละครที่สะท้อนถึงผู้คนในยุคสมัยนั้นจริงๆ”
“สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ สาระ เเง่คิดต่างๆ ที่ผู้ประพันธ์และผู้กำกับฯ ถ่ายทอดภาพและเสียงที่สะท้อนมุมมองความรัก และเทิดทูนในสถาบันพระมหากษัตริย์ และความจงรักภักดีต่อ แผ่นดิน ของเรา ผมเชื่อว่าผู้ชมจะได้ อิ่มใจ ไปกับอรรถรสที่จะได้รับ”
และอิ่มเอมไปกับสิ่งที่ “พระมหากษัตริย์ไทย” ทรงมอบไว้ให้เรา