The Lincoln Lawyer เมื่อต้องยืนหยัดสู้ให้คนผิด

The Lincoln Lawyer

เมื่อต้องยืนหยัดสู้ให้คนผิด

The Lincoln Lawyer สร้างจากนิยายดัง และยังเคยเป็นภาพยนตร์ที่รับบทโดยพระเอกฮอลลีวู้ด แมทธิว แมคคอนาเฮย์ ตั้งแต่ปี 2011 ผ่านมาสิบกว่าปี เรื่องราวดั้งเดิมที่มาจากนวนิยายกฎหมายที่เขียนโดย ไมเคิล คอนเนลลี่ ถูกนำมาสร้างอีกครั้งเป็นซีรีส์ 10 ตอน ในเน็ตฟลิกซ์

ชั่งใจว่าจะกดดูหรือจะกดผ่านไปก่อน เพราะยอมรับว่าในเวอร์ชั่นภาพยนตร์สร้างภาพจำในระดับที่คนดูชื่นชมภาพทนายความแสนเสน่ห์ เจ้าเล่ห์นิดๆ ปรากฏตัวบนรถยี่ห้อลินคอล์นจนเป็นภาพจำของ มิคกี้ ฮอลเลอร์ แสดงโดย “แมคคอนาเฮย์” ถูกผนึกติดกับคนดูในเวอร์ชั่นภาพยนตร์ไปแล้ว จึงเป็นเรื่องยากที่จะนำเอาหนังที่เข้มข้นและนักแสดงที่เป็นเจ้าของบทบาทที่เข้มแข็งกลับมาสร้างในแบบฉบับละครหลายตอน

Advertisement

แต่สุดท้ายก็อยากท้าทายเลยลองดูจนจบสรุปได้ว่าซีรีส์ทำได้น่าพอใจ ไม่ได้ดีเยี่ยม แต่ก็ไม่ได้แย่ ทุกอย่างอยู่ในมาตรฐาน ดังนั้นใครที่ชอบดูหนังหรือซีรีส์ที่ต่อสู้กันทางกฎหมายก็น่าจะดูได้ แม้ว่ากันตามจริงลีลาของ มานูเอล การ์เซีย-รัฟโฟ ที่มาสวมบทตัวละครหลักอย่าง มิคกี้ ทนายจำเลยจะดูไม่ป๋าไม่แบดบอยเท่า แมคคอนาเฮย์ แต่เนื้อเรื่องที่วางพล็อตให้พอลุ้นดูน่าติดตามได้อยู่ได้บ้าง เพียงแต่รวมๆ ไม่ได้เฉียบแหลมเฉียบคมหักมุมหักศอกอะไร

ช่วงต้นๆ ของซีรีส์น่าจะเป็นจุดที่วัดใจคนดูที่สุดแล้วว่าพร้อมจะไปต่อจนจบกับซีรีส์เรื่องนี้หรือไม่ เพราะช่วงแรกแอบผิดหวังกับตัวละคร มิคกี้ ฮอลเลอร์ เวอร์ชั่นซีรีส์ ที่ดูไม่เจ้าเสน่ห์มีมาดแอบร้ายๆ แต่ดันเจอเวอร์ชั่นที่นุ่มนวลกว่า แถมด้วยเรื่องราวช่วงต้นที่ดูดราม่าปัญหาครอบครัวเยอะกว่าเรื่องราวฆาตกรรม

ในเวอร์ชั่นซีรีส์ว่ากันตามตรงว่า เมื่อดูไปสักพัก ก็ทำให้เราอาจจะนึกย้อนกลับไปดูในแบบฉบับภาพยนตร์เพื่อทวนเรื่องกันอีกครั้ง เพราะในแบบของซีรีส์นี้เริ่มต้นให้ มิคกี้ ฮอลเลอร์ อยู่ระหว่างช่วงชีวิตผันผวน ติดยาเสพติด หย่ากับภรรยา และเขากำลังพยายามฟื้นคืนตัวเองกลับมาอีกครั้งผ่านคดีใหญ่ที่สังคมให้ความสนใจและเขาต้องหาทุกวิถีทางว่าความให้จำเลยพ้นผิด

ก็ต้องยอมรับว่าทั้งการแสดงของ มานูเอล การ์เซีย-รัฟโฟ และตัวซีรีส์เอง ยังหนีไม่พ้นเงาของตัวหนังเมื่อสิบปีก่อน ที่เฉียบคมและเข้มข้นกว่า

แต่ที่สุดถ้าผ่านช่วงติดตาและภาพจำจากเวอร์ชั่นหนังมาได้สัก 2 ตอน เรื่องราวเริ่มขยับเข้าที่เราก็เริ่มคุ้นเคยกับลีลาของทนายจำเลยเวอร์ชั่นนี้ก็ทำให้เนื้อเรื่องพอจะไปต่อได้ กับการผูกปมครั้งใหม่ที่ มิคกี้ ต้องไปช่วยว่าความให้จำเลยดัง นักธุรกิจพัฒนาเกมที่ถูกตั้งข้อหาฆ่าภรรยาและชู้รัก ซึ่งเรื่องราวก็ซ่อนเงื่อนว่าเขามารับช่วงคดีต่อจากเพื่อนทนายความรุ่นพี่ที่ถูกฆาตกรรม และอาจจะโยงใยเกี่ยวพันกับคดีใหญ่นี้ โดยเพื่อนทนายรุ่นพี่ได้เขียนพินัยกรรมยกสำนักงานทนายความให้กับ มิคกี้ และเขาต้องรับดูแลคดีต่างๆ ที่เหลือทั้งหมด หนึ่งในนั้นคือคดีที่สังคมให้ความสำคัญและมีความน่าเคลือบแคลงสงสัยอยู่หลายประเด็น

ซีรีส์ The Lincoln Lawyer มีวิธีเล่าอันหนึ่งที่มีเสียงจากนักวิจารณ์ ทั้งชอบกับไม่ชอบคละกัน นั่นคือการหาวิธีอธิบายความซับซ้อนและกลไกการพิจารณาคดี คำศัพท์ทางกฎหมาย รวมทั้งการทำงานของทนายจำเลยกับอัยการ ด้วยวิธีการสร้างช่วงเหมือนความฝันให้ตัวละครสองตัวนั่งพูดคุยเหมือนอธิบายปูความเข้าใจให้คนดูแบบวิชาว่าความพื้นฐาน ซึ่งก็ถือว่าทำให้คนดูเข้าใจรายละเอียดของเรื่องมากขึ้น แต่กับคอหนังซีรีส์กฎหมายที่ดูจนทะลุกับเรื่องเหล่านี้ก็คงจะรู้สึกแปร่งๆ และติดจะรำคาญบางช่วง

ทว่าด้านดีคือ วิธีเล่าแบบนี้ทำให้เข้าใจเหตุผลที่ มิคกี้ ตัดสินใจทำ เช่นรายละเอียดการเลือกลูกขุนที่ทำให้เนื้อเรื่องน่าติดตามมากขึ้น รวมทั้งการเล่าให้เห็นที่มาและมิติที่มากขึ้นว่าทำไมทนายเก่งๆ มีพรสวรรค์อย่าง มิคกี้ ถึงเลือกจะว่าความยืนอยู่ในฝั่งทนายจำเลยเท่านั้น ซึ่งเราจะได้เห็นความลุ่มหลงของเขาต่อวิชาชีพทนายความที่จะมีความสุขทุกครั้งที่สามารถคลี่คลายคดีหรือปมประเด็นน่าสงสัยต่างๆ ลงได้

นอกจากนี้ ซีรีส์ยังขยายอีกมุมที่ทำให้เห็นมโนสำนึกของทนายจำเลยอย่างเขาผ่านความเชื่อที่ว่า “ปล่อยคนผิดนับพันยังดีกว่าทอดทิ้งผู้บริสุทธิ์เพียงคนเดียวให้ถูกจองจำในคุก”

ความที่หนังหรือซีรีส์กฎหมายไม่เคยตกยุคสมัย เสน่ห์ของเรื่องราวในห้องพิจารณาคดี การไล่ล่าหาความจริง ลีลาการพูดโน้มน้าวซักถามพยานของอัยการและจำเลยในเรื่อง ยังเป็นจุดขายสำคัญที่ทำให้เรื่องราวทำนองนี้ยังเป็นที่ชื่นชอบของคนดูจำนวนไม่น้อย และนั่นก็เป็นจุดที่ทำให้ The Lincoln Lawyer ไม่ได้เป็นซีรีส์ที่แย่อะไร ขณะที่นักวิจารณ์ในต่างประเทศก็มีทั้งที่สับเละ กับที่มองว่าพอดูได้ในระดับกลางๆ ส่วนตัวพบว่าซีรีส์เรื่องนี้สามารถดูได้เพลินๆ มีจังหวะบางช่วงชวนติดตามวางปมให้อยากรู้อยากสงสัย เห็นแทคติคการว่าความในศาล ซึ่งก็พอจะทำให้ดูสนุกได้อยู่

แม้จะไม่ใช่ซีรีส์ที่มีบทเข้มข้นยอดเยี่ยมอะไรนัก และจุดอ่อนของนักแสดง “มิคกี้” เวอร์ชั่นนี้ที่ดูไม่สตรอง ไม่สามารถสร้างคาแร็กเตอร์ตัวละครที่มีเส้นพร่าเลือนทางจริยธรรมได้เท่าเวอร์ชั่นภาพยนตร์ แต่ในระดับซีรีส์แล้วถือว่ามีโอกาสไปได้ต่อในซีซั่นหน้า

ภาพประกอบ Youtube Video / Netflix

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image