พชร์ไม่หวั่นเจอดราม่าศัลยกรรม ลั่นด่ามาด่ากลับ เล่าเคยเอารูปกงยูไปเป็นต้นแบบ
บินไปอัพหน้าไกลถึงเกาหลี สำหรับ ผู้กำกับคนดัง พชร์ อานนท์ ที่ล่าสุดมาร่วมงาน Cool Kids Project 2022 ที่เซ็นทรัลพลาซ่า พระราม 9 โดยงานนี้เจ้าตัวได้เผยว่า ผ่านมา 25 วันแล้ว ซึ่งตอนนี้หน้าก็กำลังเข้าที่ดีขึ้นเรื่อยๆ
ตอนนี้หน้าที่ไปทำมาดีขึ้นกี่เปอร์เซ็นต์แล้ว
“25 วันแล้ว ก็เริ่มจะเข้าที่แล้ว แต่ส่วนใหญ่ทำศัลยกรรมต้องประมาณ 3-4 เดือน ตาก็เริ่มลดแล้ว ไม่ค่อยบวมเท่าไหร่ แต่จมูกยังบวมอยู่เพราะจมูกทุบเยอะ รอบนี้ผมทำครึ่งหน้าบนครับ พอเดือนกันยายนจะทำครึ่งหน้าล่าง ทำคอ เพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งดูคอ คอยังเหี่ยวอยู่เพราะเราเคยอ้วน พอผอมมันเลยย่น เพราะฉะนั้นอย่ามาว่าเรื่องคอจะโดนด่า”
“ที่จะไปทำคอหมอนัดไว้ตั้งนานแล้ว แต่กลัวเราไม่ไหวถ้าทำพร้อมกันหมดเลยเราก็ตาย ตอนทำไม่เป็นไรหรอกแต่ตอนหายมันจะไม่ไหว มันจะเจ็บ เราก็รอทำทีละครึ่งหน้า เดือนกันยายนจะดึงคอ ก็แล้วแต่หมอจะทำอะไรก็ทำเลย”
ค่าใช้จ่ายเยอะมั้ย
“มันก็ทำไปเรื่อยๆ นะ เพราะว่าหน้าก็หน้าเรา เงินก็เงินเรา เราจะต้องไปแคร์คนอื่นทำไม ใครอยากบูลลี่ก็บูลลี่ จริงๆ พวกที่บูลลี่เขาก็พูดถูกนะว่าคนนี้ไปศัลยกรรมมา ก็เราศัลยกรรมจริงๆ มันไม่ได้บูลลี่หรอก ก็เขาบอกเราไปศัลยกรรมมา อย่างมีคนตัวดำ แล้วมีคนบอกว่าคนนี้ตัวดำ ก็เขาดำจริงๆ ที่เราพูดเพราะว่าเมื่อก่อนมันไม่มีคำว่าบูลลี่ไง แต่ตอนนี้อะไรนิดๆ หน่อยๆ ก็บูลลี่ฉันๆ เราว่ามันไม่ใช่นะ เมื่อก่อนคนเตี้ย เขาบอกคนนี้เตี้ย มาสมัยนี้โอ้ย…บูลลี่ เธอก็เตี้ยอยู่แล้ว อันนี้เราพูดกันตรงๆ”
มีเรฟเฟอเรน ไปให้คุณหมอมั้ย
“เมื่อก่อนมีเรฟเฟอเรนซ์แล้วออกมาไม่ดี แต่ตอนนี้ไม่มีเรฟเฟอเรนซ์แล้วออกมาดี ตอนแรกๆ ทำหน้าเอาเรฟเฟอเรนซ์กงยู (พระเอกเกาหลี) ไป พอออกมาจมูกสั้นนิดนึงก็เลยไม่เอาเรฟเฟอเรนซ์แล้ว”
พอไปทำแล้วมันเพิ่มความมั่นใจให้เราขนาดไหน
“มันก็โอเคนะ เราก็เด็กลง แล้วที่ตอนนั้นที่ไปทำไม่ใช่อยากเป็นกงยูนะ จมูกกงยูเขาสวยไง เราก็บอกเอาจมูกแบบนี้ แต่พอทำแล้วหน้าเราไม่ดีเท่าเค้าไง (หัวเราะ) เราก็ได้กรงขังไป เฝ้าบ้านไปเป็นเดือน รอบนี้หมดไปเกือบล้านครับ แต่ยังไม่รวมช่วงล่าง แค่ครึ่งบนก่อน”
ดราม่าพี่พชร์สกัดหมดเลย
“ไม่ได้ปล่อยให้ใครมาด่าง่ายๆ อยู่แล้ว มาด่าเรา คุณก็ระวังตัวละกัน อย่างเราโพสต์รูปหน้า ก็มีคนบอกทำไมคอเหี่ยว เราให้ดูหน้าเพราะไปศัลยกรรมหน้า ไม่ได้ไปศัลยกรรมคอ อย่ามาดูคอสิ ดูหน้าไปก่อน คอค่อยมาดูตอนหลัง”
จะเปิดหน้าให้ทุกคนได้ดูเมื่อไหร่
“ก็รอให้มันเข้าที่ก่อน เดี๋ยวพวกปากไม่ดีก็มาด่าอีก ทำทำไมเสียเงิน หน้าก็ไม่เห็นดีขึ้นเลย ก็หน้ามันยังบวมอยู่ มันมีคนแบบนี้ไง สมัยนี้ถ้าเรียบร้อยอยู่ไม่ได้เพราะคนในโซเชียลปากจัดกว่าเรา มันด่ามาก็ต้องด่ากลับ”
พอเจอแบบนี้รู้สึกเสียเซลฟ์มั้ย
“ไม่เสียเซลฟ์เลย เราอยู่มากี่ปีแล้วจะมาเสียเซลฟ์ได้ยังไง คิดจะด่าใครไปด่าให้มันถูกคนหน่อย อย่างเราด่าไม่ได้ อย่างลูกเกด (ลูกเกด เมทินี) ก็ด่าไม่ได้ เพราะเจอสวนกลับ ยุคนี้ด่ามาด่ากลับ ไม่กลัว คนที่ดังๆ อยู่ในโซเชียลตอนนี้ก็ด่าเก่งทั้งนั้นเลยนะ ไม่บั่นทอนเพราะชินแล้ว โดนมาตลอดแต่ก็ยังยืนหยัดและอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ ก็เลยไม่สนใจ ก่อนที่คุณจะมาด่า ทำหน้าตาให้ดีเท่าเราก่อน (หัวเราะ) ก็มีบล็อกนะเพราะรำคาญ พูดภาษาคนไม่รู้เรื่องอะไรแบบนี้”
มีดราม่าเยอะมากเลย ทั้งทำฟรี เป็นโรค เยอะแยะเลย
“มันดราม่าผิดคนแล้ว เราไม่ได้สนใจ มันเงินเรา หมอก็ทำดีเราก็ต้องบอกว่าโรงพยาบาลนี้ทำดี แล้วถ้าเป็นเอดส์เขาไม่ทำศัลยกรรมให้ ทั้งที่เกาหลีและที่ประเทศไทยเหมือนกัน เขาตรวจเลือดก่อนทำ เพราะฉะนั้นอย่าไปสนใจ อยู่ในสังคมยุคนี้ก็ต้องด่ามาด่ากลับ ปากต้องไว เรียบร้อยเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้”
ทำมากี่รอบแล้ว
“ประมาณ 4 รอบ จมูก 4 รอบ แต่อย่างอื่น 5 รอบ (หัวเราะ) ก็ทำไปเรื่อยๆ ทำจนกว่าเราจะดี แต่มันก็ดีแล้วนะ ตาก็แบ๊วเลย ทำให้คนที่มันด่าเราตรอมใจตาย ให้มันอิจฉาเราจนตรอมใจตาย อยากทำจะตายแต่ไม่มีเงินก็ให้มันตรอมใจตายไปเลย แต่ไม่ฟ้องหรอกไร้สาระ ฟ้องไปก็ไม่ได้อะไร พอฟ้องก็มาขอโทษ เราก็ต้องยอมอีกเพราะว่าไปเรียกเงินมัน ไม่ต้องถึงล้านหรอก แค่หลักแสน หรือ 5 หมื่นมันยังไม่มีให้เราเลย จะไปฟ้องให้เสียเวลาทำไม”
มีเงินสำหรับเอาไว้ทำศัลยกรรมขนาดไหน
“ก็มีพอตัวนะ มันแล้วแต่อารมณ์ อยากทำก็ทำ ไม่อยากทำก็ไม่ทำ”
มีลิมิตให้ตัวเอง หรือตั้งงบให้ตัวเองมั้ย ว่าปีนี้จะทำเท่านี้
“ไม่มีเพราะเราไม่รู้ว่าถ้าทำตรงนี้มันเท่าไหร่ แต่เราก็มีเงินทำอย่างอื่นด้วย ไม่ใช่ทำแต่ศัลยกรรม ไม่ได้เสพติดศัลยกรรมหรอก แต่ทำให้มันดูดีแค่นั้นแหละ บางทีตามันตกเราก็ทำให้ตามันเชิด”
