‘เอ้ก’ภูมิใจได้เกิดในรัชกาลที่ 9 ‘กัปตัน’เผยเป็นบุญของชีวิตครั้งหนึ่งเคยถวายงาน-กราบแทบพระบาท

เป็นอีกหนึ่งนักแสดงที่มีโอกาสได้ถวายงานแก่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช แบบใกล้ชิด เลยสร้างความภาคภูมิใจให้แก่นักแสดงหนุ่ม กัปตัน ภูธเนศ หงษ์มานพ เป็นอย่างมาก ซึ่งเมื่อวานนี้ (3 พ.ย. 2559) หนุ่ม กัปตัน และภรรยาสาว เอ้ก บุษกร หงษ์มานพ ได้มาร่วมถ่ายรายการพิเศษ “สดุดี คีตราชา” และละครเทิดพระเกียรติ “เราเกิดในรัชกาลที่ 9 เดอะซีรีส์” กัปตันเลยถือโอกาสเผยถึงความประทับใจมาว่า ตนเคยมีโอกาสได้ถวายงานหน้าพระที่นั่ง เมื่อปี 2547 และถวายงานอีกครั้ง ในปี 2550 ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนภาคภูมิใจและยังจำความรู้สึกวันนั้นได้อย่างแม่นยำ

“ไม่เคยคิดว่าในชีวิตนักแสดงคนหนึ่งจะมีโอกาสได้เห็นพระองค์ท่าน ชีวิตนี้ผมได้กราบพระบาทพระองค์ท่าน ซึ่งนั่นทำให้ผมคิดว่าตั้งแต่วันนั้นถึงผมจะตายผมก็ไม่เสียดายชีวิตแล้ว

“พระองค์ท่านเป็นพระมหากษัตริย์ที่ห่วงใยประชาชนเป็นอย่างมาก ขนาดนักแสดง ซึ่งเป็นตัวประกอบได้มีโอกาสเข้าไปถวายงานพระองค์ท่านยังตรัสถามเลยว่าทานข้าวหรือยัง พอผมได้เห็นผมก็เลยรู้สึกว่าเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่มาก” กัปตันกล่าว

และว่า รู้สึกภูมิใจที่ได้เกิดบนแผ่นดินไทยในรัชกาลที่ 9 จากนี้จะขอน้อมนำคำสอนของพระองค์มาเป็นหลักในการดำเนินชีวิต และจะทำความดีเป็นแบบอย่างให้แก่คนรุ่นหลังเพื่อให้สิ่งที่ท่านสอนคงอยู่ตลอดไป

Advertisement

“ผมคิดว่าพระองค์ท่านทำให้พวกเราทุกคน แต่ท่านไม่เคยหวังให้ใครมาทำอะไรให้กลับ พระองค์ท่านแค่ต้องการให้ประชาชนของพระองค์ท่านรักกัน อย่างน้อยเราน้อมนำคำสอนของพระองค์ท่าน ที่ท่านพยายามทำให้ดูเป็นแบบอย่างมาตลอด 70 ปี เราแค่ดำเนินรอยตาม ผมเชื่อว่ามันน่าจะเกิดสิ่งที่ดี และเป็นมงคลกับตัวเราเอง”

“ถ้าหากท่านมองลงมาก็คงจะมีความสุข สิ่งที่ท่านเคยสอนไว้ มันไม่ได้ใช้ได้แค่ในปัจจุบัน ต่อให้ผ่านไปอีกสิบปีหนึ่งร้อยปีพันปี ทุกอย่างก็คงเป็นจริงเหมือนอย่างนี้ ผมจะบอกกับตัวเองว่า ชีวิตนี้เรามีบุญมากเหลือเกินที่วันหนึ่งเรามีโอกาสได้กราบพระบาทพระองค์ท่านและได้ถวายงาน ซึ่งมันทำให้ผมคิดว่าต่อไปในอนาคต ถึงท่านจะไม่อยู่แล้วแต่ผมก็จะทำให้เป็นแบบอย่างแก่คนรุ่นหลัง ผมจะเข้มแข็งและอดทนในการทำความดี ทำในสิ่งที่ถูกต้อง เพื่อให้สิ่งที่ท่านสอนคงอยู่ตลอดไป”

ทั้งนี้ เอ้ก บุษกร ก็ได้เผยถึงความรู้สึกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้รู้ว่า ที่ผ่านมาเรามีบารมีของท่านคอยปกป้องคุ้มครองอยู่โดยที่เราไม่ได้รู้ตัวมาก่อน ซึ่งตนรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้เกิดในรัชสมัยของพระองค์ แม้ไม่มีโอกาสเข้าเฝ้าใกล้ชิด

Advertisement

“หนูสงสัยมาตั้งแต่เด็กว่าท่านเป็นถึงพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ ท่านทรงมีทุกอย่างหากต้องการอะไรก็คงหาได้ แต่ทําไมท่านต้องมาทำอะไรให้เหนื่อยขนาดนี้ หนูเลยรู้สึกว่าที่ผ่านมาไม่มีสิ่งไหนเลยที่ท่านทำเพื่อตัวเอง ทุกอย่างท่านทำเพื่อพวกเราทุกคน แล้วอย่างหนึ่งที่หนูยึดมากก็คือเรื่องของความพอเพียง ถึงหนูจะเป็นเพียงแค่นักแสดงแต่หนูก็ไม่เคยลืมตัวว่าเราคือใคร หนูจะอยู่กับความเป็นจริง”

“ถึงแม้วันนี้ท่านไม่อยู่แล้ว หนูก็อยากจะทำอะไรสักอย่าง รู้ว่าบางทีท่านอาจจะไม่ได้เห็นหรอก แต่อย่างน้อยก็อยากให้คนอื่นได้รู้ว่า เรารักท่านมากแค่ไหน พวกเราทุกคนรักท่านมากแค่ไหน” เอ้กกล่าวทิ้งท้าย 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image