นก สินจัย เปิดใจ ‘ยังไงก็ต้องเล่น’ รักแห่งสยาม ชอบทำงานกับคนใหม่ๆ มาริโอ้-มะเดี่ยว เผยจุดปลี่ยนและครั้งแรกของชีวิต

‘มะเดี่ยว-มาริโอ้-พิช-นก’ เล่าเบื้องหลัง ความประทับใจจาก ‘รักแห่งสยาม’

เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม ที่บริเวณ Block I สยามสแควร์ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ ซึ่งกรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์ ร่วมกับสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย หอภาพยนตร์ Thai Film Archive สมาคมหนังกลางแปลง และ Better Bangkok จัดงานเทศกาลภาพยนตร์ ภายใต้ชื่อ ‘กรุงเทพกลางแปลง’ โดยในวันนี้ฉายภาพยนตร์เรื่อง ‘รักแห่งสยาม’ (อ่านข่าว ฟ้า พรหมศร ควงแฟน ปูธงสีรุ้งรอชม ‘รักแห่งสยาม’ ดันสมรสเท่าเทียม ในกรุงเทพกลางแปลง)

บรรยากาศเมื่อเวลา 19.12 น. มีการพูดคุยกับ มะเดี่ยว ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล, มาริโอ้ เมาเร่อ, พิช วิชญ์วิสิฐ หิรัญวงษ์กุล และนก สินจัย เปล่งพานิช ผู้กำกับและนักแสดงนำจากภาพยนตร์เรื่อง ‘รักแห่งสยาม’

มะเดี่ยว ชูเกียรติ เล่าว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้เปลี่ยนชีวิตการทำงานของตน เพราะถ้าไม่มีหนังเรื่องนี้คงเป็นผู้กำกับหนังสยองขวัญ เพราะคนจดจำว่าเรากำกับเรื่อง 13 เกมสยอง พอได้ทำเรื่องรักแห่งสยามคนก็จดจำเราในภาพของคนทำหนังโรแมนติก-ดราม่า มันพาให้ไปเจอกับอะไรหลายๆ อย่าง พาน้องๆ นักแสดงไปเจอจุดที่เปลี่ยนแปลงชีวิต ได้ทำงานกับนักแสดงเก่งๆ ได้พาวงออกัสไปแสดงในหลายๆ ที่มาก และได้รู้จักกับแฟนๆ ที่สนับสนุนเรามาตั้งแต่วันแรกที่หนังเข้าฉายจนถึงทุกวันนี้ก็ยังพูดคุยกัน รู้สึกว่าการทำหนังเรื่องนี้มันทำให้เรารู้จักคนดีๆ

Advertisement

ด้าน นก สินจัย เล่าว่า ต้องขอบคุณมะเดี่ยว เพราะโดยส่วนตัวยังไม่เคยรู้จักกันมาก่อนและไม่เคยเห็นผลงาน ซึ่งก็ได้มาเจอกันและได้อ่านบท ตนเป็นคนที่ชอบทำงานกับคนใหม่ๆ อยู่แล้ว เมื่อได้อ่านบทสัมภาษณ์ของมะเดี่ยวจึงรู้สึกว่าอยากทำงานด้วย ตอนอ่านบทแล้วรู้สึกเลยว่าไม่น่าพลาด หนังวัยรุ่นหรือหนังครอบครัวเล็กๆ แบบนี้ไม่เคยมีใครได้ทำเลย น้อยมากๆ นานๆ ทีถึงจะได้ทำ เมื่อมีคนจะให้ทำและมีผู้กำกับติดต่อมา เราไม่เล่นไม่ได้ อย่างไรก็ต้องเล่น

 มาริโอ้ เล่าว่า ตนไม่เคยแสดงภาพยนตร์มาก่อน เคยแต่ไปแคสโฆษณามาหลายที่ แต่ไม่ค่อยได้ พอได้มาเจอกับมะเดี่ยวก็ได้มาลองแคสกับนก สินจัย และได้เล่นหนังเรื่องนี้

ในส่วนของ พิช วิชญ์วิสิฐ มะเดี่ยว เป็นผู้เล่าว่า ไปเปิดออดิชั่นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพราะบทของ มิว จะต้องร้องเพลง เล่นดนตรี และแสดงได้ ซึ่งที่โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย ค่อนข้างมีพื้นฐานด้านดนตรี จึงเลือกไปเปิดออดิชั่นที่โรงเรียนนี้

Advertisement

มะเดี่ยวเล่าต่อว่า ตอนนั้นรู้สึกว่า มาริโอ้มีเคมีที่เข้ากับนก สินจัย ซึ่งเหมือนแม่ลูกกินจริงๆ ต้องขอบคุณนก สินจัยที่มาช่วยต่อบทให้มาริโอ้ในตอนแคสติ้ง

“การทำหนังเรื่องนี้ได้สอนอะไรหลายๆ อย่าง ตัวเราเองไม่ใช่คนที่จะรับมือกับการมีชื่อเสียงได้ เพราะเราก็เป็นตัวของตัวเองสูง การได้เจอกับอะไรหลายๆ อย่างทำให้เรารู้สึกถึงความสูงสุดและมีต่ำ มีการเรียนรู้ที่จะปรับเปลี่ยนทัศนคติ ปรับตัวเองให้เข้ากับคนอื่นๆ ได้ เราโตขึ้นมากๆ จากตอนที่ยังไม่ได้มีชื่อเสียง สิ่งเหล่านี้ทำให้เราได้เจอกับทุกคน ทั้งแฟนๆ ที่สนับสนุนเรา ผู้ใหญ่ที่เขาเอ็นดูเรา พอผ่านมาถึงจุดนี้เราก็คิดว่าเราก็ประสบความสำเร็จแล้ว” มะเดี่ยวเล่า

ต่อมาเวลา 20.33 น. เริ่มฉายภาพยนตร์เรื่อง ‘รักแห่งสยาม’

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image