หนังสือของ’ในหลวง’ เล่มโปรดในดวงใจ’คนดัง’

เป็นที่ประจักษ์กันดีอยู่แล้วในหัวใจคนไทยว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีพระอัจฉริยภาพหลายด้าน หนึ่งในนั้น คือ พระปรีชาสามารถด้านภาษาและวรรณกรรม อันเห็นได้จากพระราชนิพนธ์ทั้ง 7 เล่ม ไม่ว่าจะ ระราชานุกิจรัชกาลที่ 8, เมื่อข้าพเจ้าจากสยามมาสู่สวิตเซอร์แลนด์, นายอินทร์ผู้ปิดทองหลังพระ, ติโต, พระมหาชนก, ทองแดง และ พระราชดำรัส

“เราประทับใจในทุกเรื่องของพระองค์เลยนะคะ” แพนเค้ก-เขมนิจ จามิกรณ์ เล่าให้ฟัง
ทว่า ในฐานะคนรักสุนัข จึงอาจจะชื่นชอบที่สุดกับเรื่อง “ทองแดง” ที่ทรงนิพนธ์ไว้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษในคราวเดียว แถมยังติดอันดับขายดีที่สุดของประเทศในปี พ.ศ.2545

“ท่านบอกเสมอว่า คุณทองแดงเป็นสุนัขทรงเลี้ยงที่เหมือนธรรมดาแต่ไม่ธรรมดา ในเรื่องราวที่ท่านเล่าจะเน้นในเรื่องข้อคิด ที่คนอ่านจะได้ทั้งในเรื่องของความกตัญญู คุณทองแดงเป็นสุนัขที่วันหนึ่งมีความสำคัญแล้ว แต่ก็ไม่ลืมผู้มีพระคุณ เราก็รู้สึกว่าแม้กระทั่งสุนัขเอง เรายังได้เห็นสิ่งน่ารักๆ จากตัวเขาเลย ท่านก็ได้หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาเป็นหัวใจสำคัญให้เราได้แง่คิดเรื่องความกตัญญู”

“แพนรู้สึกว่าเรื่องของความกตัญญูเป็นเรื่องหนึ่งที่สำคัญมาก และท่านมักจะย้ำเสมอในเรื่องของความกตัญญูรู้คุณผู้มีพระคุณ” เธอว่าพลางยิ้ม
แล้วย้อนให้ฟังว่า “เล่มนี้แพนได้อ่านครั้งแรกตอนสมัยเด็ก จำไม่ได้ว่าอายุเท่าไร แต่ว่าอ่านแล้วรู้สึกชอบเล่มนี้ทันที รวมถึงอะไรที่เกี่ยวกับคุณทองแดงในหลายๆ เรื่อง เราก็จะซื้อเก็บ มีอ่านเรื่องราวของคุณทองแดงเพิ่มเติม”

Advertisement
แพนเค้ก 1
แพนเค้ก-เขมนิจ จามิกรณ์

เช่นเดียวกับ พรีน เดอะสตาร์-รวิสรารัตน์ พิบูลภานุวัธน คนรักสุนัขที่ชอบเรื่อง “ทองแดง” เหมือนๆ กัน

“คุณทองแดงเป็นเรื่องราวของสุนัขทรงเลี้ยงของพระองค์ท่าน พอเราอ่านเรายิ่งเคารพพระองค์ท่านมากขึ้นไปอีก ถ้าเราดูในภาพที่แชร์ๆ กันตอนที่พระองค์ท่านอยู่กับสัตว์เลี้ยงก็จะดูอบอุ่น ดูไม่เหมือนกับที่เราเห็นท่านในอิริยาบถที่ท่านทรงงานหนักเลย ท่านผ่อนคลาย พูดแบบง่ายๆ คนละฟีลเลย”

“แล้วในหนังสือทองแดง ก็จะได้เห็นอิริยาบถแบบนี้ ซึ่งเราชอบเนื้อหาในหนังสือมาก ท่านเป็นกษัตริย์ที่มีความเมตตามาก ไม่ได้เมตตาแค่กับคน กับประชาชน พระองค์ท่านยังมีความเมตตาไปยังสัตว์เลี้ยง พระองค์ท่านดูแลคุณทองแดง รวมถึงสัตว์เลี้ยงอื่นๆ ที่ท่านทรงเลี้ยงได้ดีมาก พระองค์เอาใจใส่ พอพระองค์รับเลี้ยงคุณทองแดงแล้ว พระองค์ก็ไปศึกษา หาข้อมูลอย่างจริงจัง เกี่ยวกับสายพันธุ์ของคุณทองแดงมาอย่างดี ศึกษาว่าสายพันธุ์ของคุณทองแดงแบบนี้ น่าจะมีลักษณะนิสัยอย่างไร ชอบอะไร พระองค์ท่านเรียนรู้ที่จะอยู่กับคุณทองแดงจริงๆ”

Advertisement

“คือถ้าอย่างเราๆ เวลาเรารับเลี้ยงสุนัข หรือแมว เราก็จะใช้ความสงสาร หรือความเมตตา รับเลี้ยงมา แล้วก็ดูแลให้ความรัก แต่กับพระองค์ท่านคือ เลี้ยงคุณทองแดงก็ต้องศึกษาความเป็นมา พระองค์ละเอียดรอบคอบกับทุกๆ เรื่อง แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่คนมองว่าเป็นเรื่องเล็กๆ”

“หนังสือเล่มนี้ทำให้เห็นความอ่อนโยน ความเมตตาของพระองค์ท่าน ทำให้รู้ถึงความผูกพันระหว่างพระองค์ท่านกับคุณทองแดง ทำให้เรารู้สึกเคารพ และรักพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมากขึ้น”

พรีน เดอะสตาร์
พรีน เดอะสตาร์-รวิสรารัตน์ พิบูลภานุวัธน

ขณะที่ บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ชื่นชอบ “พระมหาชนก ฉบับการ์ตูน” ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้จัดพิมพ์ในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ เมื่อปี พ.ศ.2542 โดย ฿ชัย ราชวัตร฿ เป็นผู้วาดภาพการ์ตูนประกอบ หลังจากก่อนหน้านั้นพระองค์ทรงแปลมหาชนกชาดกเสร็จสมบูรณ์ ใน พ.ศ.2531 และออกจำหน่ายในปี 2539 ในโอกาสเฉลิมฉลองกาญจนาภิเษกแห่งรัชกาล

“เพราะอ่านง่าย การ์ตูนก็สวย” บุ๋มให้ความเห็น
ก่อนจะบอกถึงสิ่งสำคัญ “เราประทับใจเป็นพิเศษคือเรื่องของความเพียรพยายามของพระมหาชนก ความไม่ย่อท้อ เป็นเพราะพระมหาชนกมีความเพียรพยายามอย่างมาก นับเป็นตัวอย่างที่ดี”

“ทุกวันนี้เราทำความดีโดนคนด่าเยอะ เราก็ไม่ย่อท้อที่จะทำ เราอยากทำต่อไป ต้องใช้เวลาฝ่าฟัน ใช้ระยะเวลาเพื่อให้คนเกิดความเข้าใจในสิ่งที่เราทำ”

บุ๋ม ปนัดดา
บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี

ด้าน ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ อาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง ม.เกษตรศาสตร์ ขอยกให้ “สารานุกรมไทยฉบับเยาวชน” เป็นหนังสือเล่มโปรด เพราะแม้ไม่ใช่พระราชนิพนธ์ของในหลวง ร.9 แต่ก็เป็นหนึ่งในโครงการในพระราชดำริ

“ปกสีน้ำเงิน ตัวอักษรสีทอง จำได้ว่าอ่านจนยับยุ่ย” เขาอธิบายถึงหนังสือเล่มโปรด
ซึ่ง “ถ้าเกิดไม่มีสารานุกรมไทยฉบับเยาวชน ซึ่งเป็นโครงการในพระราชดำริ ก็ไม่มี ดร.ธรณ์ แล้วก็ไม่มีหลายต่อหลายท่าน ฉะนั้น ถามว่าหนังสือให้อะไร หนังสือให้คนครับ หนังสือให้คนคนนี้ล่ะครับ”

เพราะเขานั้นสนใจเรื่องธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมมาตั้งแต่เด็ก ถ้าราว 40 ปีก่อนไม่มีสารานุกรมไทยให้อ่าน ก็คงไม่มี ดร.ธรณ์อย่างวันนี้
“สิ่งที่เศร้าใจที่สุดของประเทศ ทุกประเทศก็คือ คนสนใจเเต่ไม่มีหนังสือให้อ่าน” เขาว่า

“แล้วในช่วงเมื่อ 40 ปีก่อนเนี่ย มีบันไดอยู่เพียงบันไดเดียวเท่านั้นที่เราจะไปต่อได้ มีทางเดินทางเดียว คือ ทางเดินของพระองค์ท่าน พระองค์ท่านเป็นคนสร้างบันไดไว้ให้เหล่านักศึกษาวิทยาศาสตร์ นักสิ่งแวดล้อม นักธรรมชาติวิทยา นักวิศวกรรม หรืออื่นๆ อีกมาก เพราะสารานุกรมไทย ไม่ได้พูดถึงธรรมชาติอย่างเดียว พูดถึงวิทยาการ พูดถึงนวัตกรรม พูดทุกสิ่งทุกอย่างที่เรากำลังพูดกันในคำว่า ไทยแลนด์ 4 จี ในวันนี้ เเละการอยู่อย่างยั่งยืน ฯลฯ สารานุกรมไทยฉบับเยาวชนได้พูดสิ่งเหล่านั้นไว้เเล้วเมื่อ 40 ปีก่อน”

“เเละสิ่งเหล่านั้นก็ทำให้เราโตขึ้นมา เติบโตขึ้นมาจนมาเป็นวันนี้”

วันที่เขากลายมาเป็นคนเขียนหนังสือเกี่ยวกับปลาและสัตว์ทะเลต่างๆ กว่า 4,000 หน้า ซึ่ง “ถ้าเกิดไม่มีพระองค์ พูดตามตรงนะ จ้างให้ก็ไม่เขียน สำหรับผม พระองค์เป็นแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ถ้าไม่มีพระองค์ผมก็ไม่รู้ว่าจะทำงานต่อหลายงานไปทำไม”

ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์
ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์

สำหรับ ชาครีย์นรทิพย์ เสวิกุล นักการทูตชำนาญการพิเศษ กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ที่ควบตำแหน่งนักเขียนเจ้าของหนังสือ กาแฟเก่าในแก้วใบใหม่ มี “นายอินทร์ผู้ปิดทองหลังพระ” เป็นเล่มโปรด

“จะเห็นว่าเรื่องความเพียรนี่ เป็นสิ่งหนึ่งที่พระองค์ท่านให้ความสำคัญอย่างมาก อันนึงที่สะท้อนได้ดี ก็คือพระองค์ใช้เวลาสามปีในการกว่าจะแปลเสร็จ”

นอกจากนี้ยังชื่นชอบเรื่อง “ติโต” ซึ่งให้ความรู้ด้านการต่างประเทศเป็นอย่างดี โดยเขาเชื่อว่าทั้งสองเล่มนี้ที่พระองค์ทรงเลือกแปล เพราะอยากสื่อสารบางสิ่งกับประชาชนไทย
“นายอินทร์หรืออินเทอร์เพดนี่เป็นสายลับ และทุกคนที่อยู่ในโครงข่ายของเขาทำงานอย่างลับๆ บางคนเสี่ยงชีวิต บางคนต้องเสียชีวิตในการปฏิบัติหน้าที่ ไม่เคยมีใครรู้มาก่อนว่าบุคคลเหล่านี้ คือ วีรบุรุษที่แท้จริงที่สามารถที่จะต้านภัยของฮิตเลอร์ ภัยของนาซีได้ บางคนตายไปอย่างนิรนาม”

“ผมคิดว่าหัวใจของหนังสือเล่มนี้ คือ เรื่องของการเสียสละเพื่อส่วนรวม การเสียสละ การยึดมั่นในความพยายามที่ต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพ เพื่อความยุติธรรม โดยไม่คำนึงถึงชื่อเสียง ลาภยศ หรือรางวัลใดๆ จะตามมา นั่นคือความเสียสละอันยิ่งใหญ่”

“ส่วนติโตก็ดี หลายคนมองว่าติโตเป็นคนคอมมิวนิสต์ นั่นก็ใช่ครับ แต่ในหลักก็คือ ติโตก็เป็นวีรบุรุษของยูโกสลาเวีย และที่สำคัญ ติโตเป็นผู้ยึดเหนี่ยวจิตใจของประเทศที่เต็มไปด้วยความแตกต่างทางสังคม วัฒนธรรม เชื้อชาติ และศาสนา ติโตบอกว่า เพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ ไม่ใช่ของชนเผ่าใดชนชาตินึง ต้องเป็นทั้งชาวเซิร์บ ชาวโครแอต ทั้งมุสลิม ทั้งคริสต์ นั่นคือผลประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติ”

“ผมคิดว่าสาเหตุที่พระองค์ท่านเลือกทั้งสองเล่มนี้มา ก็เพื่อที่จะให้เราได้ศึกษาได้เรียนรู้ว่า ความสำคัญที่สุดของการอยู่ร่วมกันในสังคม คือ การเสียสละ คือ ความสามัคคี และแนวทางของพระองค์ท่าน”

“ผมคิดว่าท่านทรงมีจิตวิญญาณของครู ท่านไม่ได้สอนให้เราอ่าน ก.ไก่ ข.ไข่ ค.ควาย ฅ.ฅน ท่านสอนให้เราอ่านและให้เราคิดตามสิ่งที่พระองค์ท่านได้มีพระมหากรุณาธิคุณได้นำเสนอ ทุกอย่างที่พระองค์ท่านได้ทรงประพันธ์ได้ทรงมอบให้พวกเรานี้เป็นแค่จุดเริ่มต้น เป็นแค่จุดที่เราสามารถที่จะต่อยอดไปได้ เป็นแค่จุดชี้นำให้เราสามารถที่จะศึกษา”

“ให้เราสามารถที่จะก้าวต่อไปในเส้นทางที่เปี่ยมไปด้วยความรู้นี้ได้”

ชาครีย์นรทิพย์ เสวิกุล
ชาครีย์นรทิพย์ เสวิกุล

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image