แม้จะไปเอาจริงเอาจังกับการทำสวนผลไม้ที่จังหวัดจันทบุรี แต่กระนั้น ชาคริต แย้มนาม ก็ยังไม่ทิ้งงานในวงการบันเทิง โดยเขาให้สัมภาษณ์ในงานบวงสรวง CLUB FRIDAY THE SERIES 14 LOVE&BELIEF เช้าวันนี้ (11 สิงหาคม) ที่อาคารจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ว่า ทุกวันนี้ยังรับงานเหมือนเดิมทุกอย่าง เพราะงานในวงการคืองานที่รัก ขณะที่งานเกษตรก็เป็นงานที่มีความสุข และตั้งใจทำไว้ให้ลูก
“สวนทุเรียนได้อย่างที่ตั้งใจไว้ ก็พัฒนาต่อไปเรื่อยๆ และหวังว่าจะดีขึ้นในทุกปี ทำไว้ให้ลูกแหละ เป็นความสุขด้วย มันเหมือนได้กลับบ้าน ได้ไปชาร์จพลัง ได้ทำอะไรทิ้งไว้ที่มันเป็นของเขาจริงๆ”
ส่วนที่มีคนยกให้เป็น ‘เสี่ย’ ชาคริตบอกว่ายังไม่ใช่ ยังไม่ได้เป็น
“มันมีอะไรให้เรียนรู้ใหม่ทุกวัน ก็เจอกับปัญหา เจอกับภัยธรรมชาติที่เราก็ต้องมาเรียนรู้ใหม่ ว่าเพลี้ยมีกี่ชนิด รามีกี่ชนิด ดินฟ้าอากาศปีนี้ก็มาเจออะไรแปลกๆ ก็ต้องมาเรียนรู้กันใหม่อีกว่าจะต้องคอยกำจัดอะไรยังไง”
“ผมยังเรียกว่าเป็นมือใหม่อยู่ แต่ก็ทำเต็มที่ โชคดีที่มีครูที่ดีคือญาติๆ ฝั่งภรรยา”
สำหรับทุเรียนที่ปลูกชาคริตบอกว่ามีส่งขายทั้งในประเทศ และต่างประเทศคือที่จีน และประเทศอื่นๆ
และแม้จะมีข่าวว่าจีนเริ่มปลูกทุเรียนเองได้แล้ว ชาคริตก็ว่า “เราก็ต้องเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ของเรา เชื่อมั่นในดินของเรา ในผลผลิตของเรา”
“แต่เราก็เตรียมพร้อมแหละ ถ้าหากวันนึงราคาอาจจะมีขึ้นมีลง ก็เอาเป็นอยู่ได้ พอเพียง”
ชาคริตยังบอกด้วยว่า ในส่วนของสวนภรรยาเขาจะเป็นคนดูแล ขณะที่เขาเองนอกจากงานในวงการ ก็ยังมีธุรกิจร้านอาหาร ร้านขายแซลมอน
“ทุกอย่างเราทำด้วยกัน” ชาคริตบอก
สำหรับสวนที่ทำอยู่ชาคริตบอกว่าตอนนี้มีพื้นที่กว่า 100 ไร่
ชาคริตยังบอกด้วยว่า สำหรับเขางานในวงการเป็นเรื่องของความรัก ขณะที่งานอื่นๆ ก็เป็นเรื่องที่ชอบ
“เป็นความรักของผมที่มีต่องานศิลปะการแสดง คือสิ่งที่ชอบ ไม่ว่าจะเป็นพิธีกร ในเรื่องของอาหารที่เราชอบจนกลายเป็นธุรกิจ ผมว่ามันไม่จำเป็นต้องทิ้งอย่างใดอย่างหนึ่งหรือเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง มันไปด้วยกันได้อะไรก็ได้ที่เราแบ่งเวลาได้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการจัดสรรเวลา เรามีน้องๆ ผู้ช่วย มีหุ้นส่วนที่ดี ก็สามารถจัดสรรไป”
เรื่องรายได้ที่มีคนมองว่าตัวเลขจากการทำธุรกิจน่าจะมากกว่าจากงานในวงการ ชาคริตก็บอก เขามองในมุมของความรักและแพสชั่น
“คนชอบมาถาม ว่าผมจะออกจากวงการแล้วเหรอ เพราะเห็นไปทำอะไรเยอะแยะ ไม่ออกครับ เต้นกินรำกินจนตายครับ เล่นจนเป็นพ่อเป็นปู่ เพราะมันคือความสุข คือศิลปะที่เรารัก เป็นความสุขที่เราได้เติบโตมากับกองถ่าย ได้ขัดเกลาในเรื่องของศิลปะการแสดง มันคงจะอยู่กับเราไปตลอดตราบใดที่ยังมีคนให้งาน ยังจ้าง ยังเชื่อมั่นในตัวเราอยู่ ก็จะทำให้เต็มที่ครับ”
ในด้านของ ‘น้องโพธิ์’ ลูกชาย ชาคริตบอกว่า ไม่กี่วันก่อนเพิ่งจะถาม ว่าโตขึ้นจะเป็นพระเอกหรือเป็นอะไร และได้คำตอบว่า จะเป็นตลก
“เขารักลุงเจี๊ยบ (เจี๊ยบ เชิญยิ้ม) ลุงอู๊ด (อู๊ด เป็นต่อ) มาก ทำตามทุกอย่าง แต่ตอนนี้เริ่มมีลุงเต๋า สมชาย รักลุงเต๋ามาก ร้องเพลงบอดี้การ์ดทั้งวัน แม่เปิดให้ฟัง พอได้ไปเจอลุงเต๋าทีนี้ติดงอมแงม ร้องเพลงลุงเต๋า ไม่ว่าจะเข้าห้องน้ำ นั่งอึ ตื่นเช้ามาก็ร้อง นั่งรถไปก็ร้อง ร้องได้ทุกเพลงด้วย บางเพลงพ่อยังร้องไม่ได้เลย” ชาคริตเล่าพลางยิ้ม
