เล่าเรื่องหนัง : ซีรีส์อมตะคลาสสิก Breaking Bad ครองใจคนดูตลอดกาล

เล่าเรื่องหนัง : ซีรีส์อมตะคลาสสิก Breaking Bad ครองใจคนดูตลอดกาล

 

ซีรีส์อมตะคลาสสิก Breaking Bad

ครองใจคนดูตลอดกาล

Advertisement

สําหรับใครที่อยากดูซีรีส์คุณภาพไม่เน้นทันกระแสให้ต้องไปนั่งคุยกับใครให้รู้เรื่อง และไม่หวั่นใจในความเครียดขรึมและความนิ่งของเรื่อง แต่ดูไปเรื่อยๆ จะพบว่านี่เป็นซีรีส์ที่สร้างประสบการณ์ที่ดีในการเข้าใจมนุษย์เรื่องหนึ่ง ขอแนะนำหนึ่งในซีรีส์ที่ดีที่สุดตลอดกาล “Breaking Bad”

ชื่อเสียงอิทธิฤทธิ์ของซีรีส์เรื่องนี้คือ ต้องดูผ่านให้ได้ซัก 2-3 ตอน จะทำให้พอตัดสินใจได้ว่าจะไปต่อหรือไม่ เพราะเนื้อหาของเรื่องมีความนิ่ง แต่บนความนิ่งเราก็รู้แก่ใจว่านี่เป็นโครงเรื่องที่ดีมาก ตัวละครหลักน่าสนใจ เพียงแต่มันอาจไม่ใช่ซีรีส์ที่ดูสนุกดึงดูดในทันที ว่ากันตามจริงต้องผ่านความยากลำบากใน 3 ตอนแรก หรือถึงขั้นต้องดูให้จบผ่านไป 1 ซีซั่นก็จะบอกได้ว่าซีรีส์นี้ตรงจริตคนดูหรือไม่

Advertisement

เล่ามาแบบนี้ทำไมการดูซีรีส์เรื่องนี้ถึงดูยากเย็นเหมือนจะทรมาน นั่นก็เพราะจังหวะเดินเรื่องที่นิ่งและมีความดราม่าอาชญากรรมจนดูเครียด แต่ด้วยเส้นเรื่องและการวางคาแร็กเตอร์ให้ตัวละครหลักออกมาได้เฉียบคม จนตัวละครเอกของเรื่อง “วอลเตอร์ ไวท์” กลายเป็นหนึ่งในตัวละครที่น่าจดจำ เมื่อชายวัยกลางคนตั้งคำถามกับตัวเองว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขาออกจากงานที่น่าเบื่อและกลายเป็นคนนอกกฎหมาย

เรื่องราวของ “วอลเตอร์” ครูสอนวิชาเคมีโรงเรียนมัธยมที่เจอมรสุมชีวิตกดดัน ทั้งความรับผิดชอบหารายได้ดูแลครอบครัว และยังเผชิญช่วงเวลาหมดไฟในอาชีพการงาน หนำซ้ำยังเพิ่งจะรู้ว่าตัวเองป่วยเป็นมะเร็งปอดระยะที่ 3 ดูเหมือนทั้งชีวิตและจิตใจอับเฉาจนหนทาง สุดท้าย “วอลเตอร์” เลือกเข้าสู่เส้นทางนักค้ายา ใช้ความเก่งกาจของนักเคมีระดับหัวกะทิมาเป็นนักปรุงยาไอซ์เพื่อหารายได้เสริมเก็บเงินให้มากที่สุดทิ้งไว้ให้ครอบครัว การกระโจนและตัดสินใจไปใช้ชีวิตอาชญากรรม โดยมีอาชีพครูและพ่อบ้านอ่อนโยนบังหน้า ค่อยๆ คลายเปลือกเนื้อแท้ให้เราเห็น “วอลเตอร์” ในด้านที่มืดที่สุดเข้าไปเรื่อยๆ และดูเหมือนว่าเขาจะเก่งฉกาจบนเส้นทางนี้มากด้วย

อีกหนึ่งตัวละครคู่หูกับ “วอลเตอร์” คือ “เจสซี่ พิงค์แมน” อดีตลูกศิษย์ที่อยู่ในวงการยาไอซ์ก่อนหน้า และต้องมาร่วมหัวจมท้ายกับอดีตครูแสนดีของตัวเอง โดยที่เขาก็ถลำลึกไปเรื่อยๆ จากเด็กวัยรุ่นที่แค่ทำตัวเหลวๆ ไปวันๆ จนชะตาชีวิตพลิกผันกู่ไม่กลับเช่นกัน

เส้นเรื่องของ Breaking Bad จึงเป็นการตามติดดูพัฒนาการตัวละครหลักคู่หู ครูกับศิษย์ ในบทบาทนักผลิตยาไอซ์ และบทบาทของ “วอลเตอร์” ในฐานะเจ้าพ่อค้ายาที่โหดเหี้ยมขึ้นเรื่อยๆ

ความสนุกของ Breaking Bad จึงเป็นการติดตามดูชีวิตของตัวละครที่ทั้งขัดแย้งและซับซ้อนในตัวเอง ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างช้าๆ ให้เห็นคู่หูอาชญากรที่ผ่านทั้งความเป็นความตาย การดีลกับแก๊งค้ายา และต่อสู้กลับเยี่ยงอาชญากรเช่นกัน พร้อมกับเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่าง “วอลเตอร์” กับ “เจสซี่” ที่มีมิติเทาๆ อย่างน่าติดตาม

ด้วยฉากหลักของเรื่องเกิดขึ้นในเมืองอัลบูเคอร์คี รัฐนิวเม็กซิโก ที่ให้ภาพแห้งแล้งทะเลทราย กับเรื่องราวที่ดาร์กขึ้นไปเรื่อยๆ ทุกซีซั่น และไม่ออกทะเล จนถึงบทสรุปสุดท้าย ซึ่งซีรีส์คุณภาพสนุกๆ หลายเรื่อง บางครั้งมักจะตกม้าตายตอนจบ แต่กรณีนี้ไม่ได้เกิดกับ Breaking Bad

เส้นแบ่งระหว่างความดีความชั่วที่พร่าเลือน และซับซ้อนไปเรื่อยๆ เข้ากันได้ดีกับความซับซ้อนทางจิตวิทยาของตัวละครหลักจากครูสอนเคมีขี้อาย มีชีวิตธรรมดา ค่อยๆ หลีกทางให้เราเห็นบุคลิกที่โหดเหี้ยมและเห็นแก่ตัวของ “วอลเตอร์” มากขึ้นเรื่อยๆ การพยายามแรกเริ่มที่จะเป็นฮีโร่ให้ครอบครัว แต่สุดท้ายก็กลายเป็นวีรบุรุษที่น่าสมเพช สิ้นหวัง และเป็นตัวละครสีเทาที่น่าจดจำในโลกการแสดง

รายการรางวัลของซีรีส์เรื่องนี้ยาวเป็นหางว่าว ความสำเร็จทั้งคุณภาพและการเป็นซีรีส์ยอดนิยม ทำให้ได้อานิสงส์มีการสร้างภาพยนตร์ตอนต่อจากซีรีส์ เรื่อง “EL Camino” ที่เล่าต่อถึงชีวิตของ “เจสซี่ พิงค์แมน” จากตอนจบของซีรีส์ และยังมีการสร้างซีรีส์ spin-off แยกมาอีกหนึ่งเรื่อง คือ “Better Call Saul” ซึ่งโฟกัสหยิบตัวละครหลักอีกคนจากซีรีส์คือ “ซอล กู๊ดแมน” ทนายความผู้ฉลาดหลักแหลมหนึ่งในหัวเรือของธุรกิจค้ายาของ “วอลเตอร์” โดยตอนต่อทั้งหมดยังคงคอนเซ็ปต์เดียวกันกับซีรีส์ Breaking Bad คือ การติดตามดูตัวละครหลักที่ชีวิตค่อยๆ พังทลายลงอย่างช้าๆ อย่างน่าเศร้า

โดยรวม “Breaking Bad” เป็นซีรีส์คลาสสิกระดับตำนานที่แม้จะออกอากาศจบไปหลายปีแล้ว แต่ยังคงมีคนดูผ่านสตรีมมิ่งทั่วโลกอย่างมากจนถึงปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม อย่างที่เล่าไว้ตอนต้นว่า ซีรีส์ชิ้นเยี่ยมเรื่องนี้ก็เกี่ยวกับกับรสนิยมคนดูเช่นกัน เพราะก็มีอีกจำนวนไม่น้อยที่สะท้อนว่าไม่เคยสนุกกับการดู Breaking Bad เลย

สำหรับผู้เขียนเป็นฝ่ายที่ไม่สนุกมาก่อนเช่นกัน จนเลิกดูไปนานนับปี ก่อนจะคิดว่าถึงเวลาที่ต้องลองกลับมาเปิดดูแบบไม่คาดหวังอะไรอีกครั้ง และก็พบว่าซีรีส์เรื่องนี้มีเส้นเรื่องที่สนุกและการแสดงที่ทรงพลังเป็นผลงานชิ้นเอก

ติสตู
(ภาพประกอบ Youtube Video / Internet)

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image