คิดไว้ตั้งแต่ก่อนไปว่าถ้าไม่ดี-ก็กลับ
เพราะถ้าจะต้องนั่งนานกว่า 2 ชั่วโมง เพื่อ ‘ทน’ ฟัง คงร้าวใจ ส่วนที่คิดในทางร้าย เดาไปในทางลบ(ไว้ก่อน) นั้น ก็ด้วยเหตุว่าแม้นิ้วกลม – สราวุธ เฮ้งสวัสดิ์ จะโด่งดัง มีชื่อเสียงในทางของนักคิด นักเขียน หากไม่ใช่ ‘นักพูด’ นี่นา!
แต่ว่า ’10 ปี นิ้วกลม ทอล์กโชว์ไม่มีขา’ ที่จัดโดยบริษัท โต๊ะกลมโทรทัศน์ จำกัด ก็ทำให้ไม่ผิดหวัง
เพราะเมื่อผ่านด่านแรกของการทักทายผู้ชม ด้วยการสนทนาผ่านคอมพิวเตอร์สั้นๆและคำสารภาพว่า “ตื่นเต้นมาก” สิ่งที่เขาเตรียมการมาอย่างดี ทั้งส่วน ‘ทอล์ค’ และ ‘โชว์’ ของเขาก็ทำให้ผู้ชมที่นั่งอยู่ในโรงละครเคแบงค์ฯ สำราญใจ ไปพร้อมๆกับที่ต่อมความคิดถูกกระตุก
…
เขาเริ่มต้นด้วยการเล่าถึงคนรู้จัก ทั้งเบิ่ง – ทวีศักดิ์ อัครวงศ์ ที่เติบโตมาในครอบครัวนักดนตรีไทย ที่ปู่เตรียมความพร้อมให้ตั้งแต่ ทั้งการฝึกตีระนาดทุกวัน วันละหลายชั่วโมง ทั้งการให้กวนสารส้มในตุ่มน้ำ ด้วยวิธีการถือสารส้มก้อนใหญ่ไว้ในมือทั้ง 2 จาก จากนั้นก็ตีใส่น้ำ-ไม่ได้แกว่งวนเหมือนคนอื่นๆ จนสารส้มละลายหมด ด้วยเหตุผลแฝงที่อยากให้ฝึกความแข็งแรงของข้อมือ และก็ได้ผล เพราะทุกวันนี้เขากลายเป็นนักระนาดเอกของกรมศิลปากร
ขณะที่ ‘ปอนด์’ กับ ‘จ๋อม’ คนหนุ่ม 2 คนที่เขารู้จักที่เลือกทางผิด ไปอยู่ในแก๊งค์เด็กเกเรตอนเป็นวัยรุ่น หากด้วยความรักในเพลงแร็ป เขาก็หลุดออกจากวงจรนั้น และกลายมาเป็นแร็ปเปอร์ที่มีชื่อเสียงในปัจจุบัน
นั่นแสดงให้เห็นว่า สิ่งแวดล้อมไม่ใช่เหตุผลเดียวที่ทำให้เมล็ดพันธุ์งอกงาม #นิ้วกลมว่าไว้
ก่อนทั้ง 3 คนที่เขาพูดถึงจะเริ่มโชว์ร้องเพลงแร็ปโดยมีระนาดเอกเล่นผสมผสานอย่างกลมกลืน
10 ปีที่ผ่านมา นิ้วกลมบอกว่าเขาเดินทางไปในหลายๆแห่งของโลก ที่อยากนำมาแบ่งปัน เราๆจึงได้ฟังเรื่องของ ‘น้อยหน่า’ หญิงสาวที่มี ‘ก้อนหิน’ เป็นสัตว์เลี้ยง
ซึ่งต้องทำความเข้าใจตรงนี้ว่า ‘ก้อนหิน’ ก็คือก้อนหิน ไม่ใช่ชื่อของสัตว์ประเภทใดประเภทหนึ่ง ซึ่งเราๆอาจจะมองว่าแปลก แต่ถ้าเธอไปอยู่ในสังคมอินเดียนแดง ที่มองว่าทุกสิ่งทุกอย่างมีชีวิต เธอคงปกติที่สุด เขายังเล่าเรื่องตอนไปประเทศสเปนแล้วถูกพ่อของเด็กน้อยคนหนึ่งต่อว่าเพราะไปถ่ายภาพลูกของเขา ซึ่งแตกต่างนักจากตอนไปหมู่บ้านหนึ่งอินเดีย ที่ถ้าไม่ถ่าย พ่อของเด็กก็จะถามว่าลูกเขาไม่น่ารักหรือ
หรือวัฒนธรรมของชนเผ่าในแอฟริกาที่หากภรรยาไปหลับนอนกับชายอื่น และมาสารภาพกับสามีเป็นคนแรก ก่อนคนรับรู้ นอกจากเขาจะไม่โกรธแล้ว ยังจะชื่นชมว่าเธอซื่อสัตย์
ไม้บรรทัดของเรา คงใช้วัดคนอื่นไม่ได้ #นิ้วกลมสื่อสาร ผ่านการเล่าประกอบภาพ และมุขสอดแทรก
ความแตกต่างก็เป็นเรื่องที่ต้องยอมรับเช่นกัน
เขาพูดถึงเรื่องนี้ผ่านการแสดงของตัวละครใน 3 เจน ‘เอ๊กซ์’ พี่ใหญ่ที่เริ่มสูงวัย,’ลีวาย’ คนกลางและ ‘ส้มแซด’ น้องเล็ก ที่ร่วมเดินทางด้วยกันในรถคันเดียว แต่คิดต่าง ขัดแย้ง แยกทาง
หากสุดท้ายก็กลับมาร่วมโดยสารและเดินทางต่อไปด้วยกันได้
นิ้วกลมลงท้ายด้วยการเล่าว่า ก่อนจะมีทอล์คโชว์ครั้งนี้ เขามีคำถามกับตัวเองในวันที่ชีวิตเหมือนจะมีพร้อม งานที่ดี บ้านที่สวย แฟนที่สวยกว่า น่ารักด้วย แต่ทำไมเขาถึงไม่มีความสุข รวมถึงชีวิตจะไปยังไงต่อ?
หาคำตอบอยู่นาน หม่นเศร้าจนเพื่อนเริ่มเป็นห่วง จึงชวนไปขี่จักรยานระยะทางไกล-สิ่งที่ไม่เคยคิดจะทำ แต่เมื่อทำเพราะต้านคำชวนไม่ไหว เจอ 20 กว่ากิโลในเส้นทางแรกเข้าไป แต่ไม่กล้าถอดใจเพราะกลัวดูง่อย จึงได้แต่ปั่น พร้อมกับถามตัวเองไปตลอด นี่มาทำอะไรอยู่วะ?
กระทั่งได้พบความรู้สึกใหม่ เมื่อมาถึงเส้นชัย ความท้าทายที่ต้องเผชิญกับด่านที่ต้องฝ่าฝัน นั่นทำให้ชีวิตกลับมามีความหมายอีกครั้ง
นั่นเองที่เป็นเหตุให้ทอล์คโชว์นี้เกิดขึ้น และเขาก็สามารถก้าวผ่าน
“ขอให้มีพลังกับด่านที่กำลังเผชิญอยู่นะครับ” คือถ้อยความสุดท้ายที่เขา ‘ทอล์ก’ กับทุกคน
ที่ล้วนแล้วแต่ต้องเผชิญกับด่านของตัวเองทั้งสิ้น.