กว่าจะมาถึงจุดที่มีชื่อเสียงได้ขนาดนี้ ฮาย อาภาพร นครสวรรค์ เจ้าของผลงานเพลงฮิตสุดอมตะอย่าง เลิกแล้วค่ะ, ชอบไหม, น้องนอนไม่หลับ, อารมณ์เสีย และ เชพบ๊ะ ก็ได้ออกมาเปิดใจทั้งน้ำตาผ่านรายการ DNA TALK บุกคนต้นแบบ ทางช่องโมโน 29 กว่าจะมีวันนี้เริ่มต้นจากศูนย์ ก่อนจะมีทุกอย่างไม่ง่ายอย่างที่เห็น
โดยเธอเล่าว่าพื้นเพแล้วเป็นเด็กต่างจังหวัดคนหนึ่ง ที่หวังเข้ามาประสบความสำเร็จในกรุงเทพฯ เข้ามาแบบนักร้องบ้านนอกคนหนึ่ง และกว่าจะมามีเหมือนทุกวันนี้ได้ ฮายบอกไม่ได้หยุดพักเลย
“เราทำงานทุกวัน ผ่านอะไรมาเยอะมาก ความตายก็ผ่านมาแล้ว พวกอุปสรรคที่เราต้องก้าวผ่านมาทั้งร่างกายและจิตใจ จำได้ครั้งแรกที่กำเงินเข้ากรุงเทพฯ มีติดตัวมาแค่ 700 บาท เสื้อผ้าแค่ 3 ชุด เดินสายเป็นหางเครื่อง เป็นนักร้องคั่นเวลา ขายของอยู่หลังเวทีมีหัวการค้าตั้งแต่เด็ก”
กระทั่งมีคนเห็นแววก็ถูกชักชวนให้ไปใส่เสียง ฝึกร้องเพลงแปลงแล้วลองปล่อยเทปอัลบั้มแรก ก็ขายได้แสนตลับ ตอนนั้นฮายบอกว่าดีใจมาก หลังจากนั้นก็มีอัลบั้มที่สองที่สามเกิดขึ้นตามมา
“จนเราได้มาร้องคู่กับพี่ยิ่งยง ยอดบัวงาม ตอนนั้นเราขายได้เกือบล้านม้วน นั่นถึงเกิดเป็น อาภาพร นครสวรรค์ ตั้งแต่นั้นมา”
แต่แล้วก็มีเรื่องที่ทำให้เธอเกือบจะเลิกร้องเพลงไป จนถึงคราวที่พลิกชีวิต โดยฮายเล่าว่า
“ค่ายขอโบกมือลา ตอนเพลง เลิกแล้วค่ะ เพราะมีแต่คนเอาไปใช้เล่นโชว์ต่างๆ แต่ไม่มีใครรู้จักนักร้อง จนวันหนึ่งรายการทีวีเชิญเราไปสัมภาษณ์ แล้วติดรูปเราบนป้ายรวมนักร้องลูกทุ่งแห่งยุค แถวพระราม 9 ชีวิตตอนนั้นเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเลย”
จากที่ต้องนอนรองาน เป็นงานเข้ามาหาวันละเกือบ 10 งาน จนสามารถเก็บเงินโปะหนี้ได้ ซึ่งทุกวันนี้ ฮาย ในวัย 54 ปี ก็เคยถามตัวเองว่าอยากหยุดไหม เธอก็ให้คำตอบกับเรื่องนี้ว่า
“ถ้าไหวก็ยังอยากทำต่อ เวลาหันหน้าไปมองเห็นพี่น้องทุกคนยังไม่สบายเหมือนเรา เราก็ขอสร้างโอกาสให้เขาได้มีรากฐานให้ได้แบบเราก่อน รวยแค่ไหนยังไงเราก็ยังไม่หยุดช่วยเหลือคนรอบตัว ท้ายที่สุดพลังของเราก็มาจากผู้หญิงคนเดียว คือแม่วัย 80 ปี ที่เราทำทุกวันให้ผู้หญิงคนนี้มีความสุข เพราะผู้หญิงคนนี้เขาเป็นคนที่สร้างอาภาพรขึ้นมาค่ะ”
ติดตามชีวิตสุดแกร่งของ ฮาย อาภาพร ได้ในรายการ DNA TALK บุกคนต้นแบบ วันอาทิตย์ที่ 1 มกราคมนี้ เวลา 17.30 น. ทางช่อง MONO29
