‘ไมค์’ ปลื้มเคมีปีศาจ ‘พีพี กฤษฏ์’ เล่าความขี้อ้อนของ ‘แม็กซ์เวลล์’ ช่วงนี้ติดกันมาก
กลับมามีผลงานในไทยอีกครั้งก็ฮือฮาไม่น้อย สำหรับ ไมค์ พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล ที่มาพระเอกมิวสิกวิดีโอเป็นครั้งแรกให้กับ พีพี กฤษฏ์ อำนวยเดชกร ในเพลง ‘ลังเล’ ที่ขึ้นแท่นเป็นเพลงมาแรงในไทยไปแล้ว โดยงานนี้ ไมค์ได้เล่าถึงที่มาในการได้ร่วมงานกับพีพีว่า เป็นเพราะรู้จักกับ เบล สุพล พัวศิริรักษ์ จึงได้รับการชักชวนมา
แต่ถามว่าตัดสินใจรับงานนี้เลยทันทีไหม ไมค์ก็ว่า โดยส่วนตัวติดตามและชื่นชมผลงานของพีพีมาอยู่แล้ว แต่ปัจจัยหลักคงเป็นเรื่องของ
“คิวตารางการจัดงานว่ามันเป็นไปได้แค่ไหน”
ซึ่งพอเวลามันตรงกันพอดี “ก็เลยไปให้ได้ครับ”
“เรากลับไทยพอดี แล้วน้องก็เป็นคนเก่งมากด้วย ไหนๆ กลับมารอบนี้ เราก็มีโอกาสก็ร่วมงานกันสักหน่อย” ไมค์ว่า
การต้องมาเจอหน้ากันครั้งแรกและต้องเข้าฉากด้วยกัน แต่ก็โชคดีที่ได้มีการเวิร์กช็อปกันก่อนที่จะถ่ายทำ
“ก็ค่อนข้างที่จะคุ้นชินกันมากขึ้น แต่ถ้าไม่มีเวิร์กช็อปมาก่อนล่วงหน้าก็ไม่รู้ว่าในกองผมจะเล่นได้มากน้อยแค่ไหน”
รวมถึง “พีพีคือเขาขี้แกล้งครับ”
“เขาเป็นคนที่อัธยาศัยดีเข้าถึงง่ายแล้วก็น่ารัก”
นั่นเลยทำให้การทำงานร่วมกันเป็นไปได้ราบรื่นมากขึ้น
แต่ในส่วนของการทำงานนั้น ไมค์ ก็ออกปากชมว่า “เขาจริงจังนะครับ แล้วก็มีความโปรเฟสชั่นแนล เก่งมากๆ ด้วย”
“เวลาทำงานผมเห็นบรรยากาศในการทำงานและคนรอบข้างก็คือทำงานด้วยรอยยิ้มทั้งงานและความสุขสนุกสนาน มันไม่ได้เป็นการทำงานที่รู้สึกเครียด มันเป็นการทำงานที่คนรอบข้างรู้สึกผ่อนคลาย”
และเมื่อเอ็มวีได้ออกมาก็ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจนมีคำชมว่า ไมค์-พีพี มี ‘เคมีปีศาจ’
แต่จะหมายความอย่างไร ไมค์ก็ว่า “อันนี้ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเคมีปีศาจคืออะไร น่าจะเป็นศัพท์ใหม่”
กับการเริ่มต้นปีด้วยผลงานในไทย ไมค์ก็แอบแย้มๆ ว่าปีนี้แฟน ชาวไทยจะได้เห็นผลงานของตนมากขึ้น
“จริงๆ แพลนของไมค์ปีนี้ว่าจะมีทำงานที่ไทยมากขึ้นตอนนี้ ด้วยความที่หลายๆ อย่างมันก็เริ่มเปิดแล้วการเดินทางมันก็ค่อนข้างง่ายขึ้นก็เลยคิดว่าในปีนี้อาจจะกลับมาทำงานที่ไทยมากขึ้นด้วย”
รวมถึง “เหตุผลด้วยเรื่องส่วนตัวบางเรื่องด้วย ที่อยากจะมาจัดการแล้วก็หลายๆ อย่างตรงนี้เลยคิดว่าในปีนี้คงจะอยู่ไทยมากขึ้นครับ”
ซึ่งก็มีงานติดต่อเข้ามาเยอะไม่น้อย แต่เจ้าตัวบอกว่าตอนนี้ยังอยู่ในส่วนของความคิดว่าอยากทำอะไรบ้าง
“จริงๆ ผมก็ไม่ได้กลับไทยมานานก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไร ก็คิดฟุ้งไปก่อน”
“ก็มีคุยเพลงอะไรไว้หลายอย่าง ละคร ซีรีส์ หนัง หรืออะไร ก็มีคุยไว้ แต่ตอนนี้ก็ยังไม่รู้จริงๆ ว่าตัวเองอยากจะทำอะไรกันแน่”
“ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะแฟนๆ ที่เรียกร้องนี่แหละครับก็เลยกลับมาที่ไทยด้วยส่วนนึงครับผม”
ทั้งนี้ทั้งนั้นเลยต้องรอให้มันเป็นรูปเป็นร่างก่อนแล้วเดี๋ยวมาอัพเดตให้ฟังอีกครั้งนึง
กลับมาเมืองไทยครั้งล่าสุดเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่าน ได้เจอกับลูกชาย น้องแม็กซ์เวลล์ ซึ่งไมค์ก็เล่าพร้อมรอยยิ้มว่า
“ส่วนใหญ่ช่วงนี้แม็กซ์เวลล์ก็ค่อนข้างที่จะติดไมค์ครับ น้องโทรมาหาทุกวันเลยหลังเลิกเรียน”
ส่วนเหตุผลนั่นก็คือ “เพราะว่าเขาชวนเล่นเกม” เล่าพร้อมเสียงหัวเราะ
ความอ้อนของลูกชายที่ทำให้แดดดี้ไมค์ถึงกับยอมเปย์ “เขาก็จะมีวิธีตะล่อมของเขา เวลาเขาอยากจะได้อะไรในเกมก็จะมีวิธีพูดที่รู้ว่าพูดแบบนี้แดดดี้ให้แน่นอนครับ”
ซึ่งก็มีทั้งใจอ่อน และก็ต้องเข้าโหมดเตือนและสอนไปด้วยในตัว “ก็จะให้เป็นบางครั้ง แต่บางครั้งก็จะบอกว่าไม่ได้ เราใช้เงินเยอะแบบนี้ไม่ได้นะ”
โดยการยกสถานการณ์ในเกมมาเป็นตัวอย่าง
“อย่างเวลาเงินในเกมเขาหมด เราก็จะบอกว่าก็นี่ไงใช้ซื้อแต่ของที่ไม่จำเป็นใช่ไหมมันก็เลยหมด ดูแดดดี้สิตัวละครแดดดี้มีเงินเยอะเพราะว่าเก็บเอาไว้ค่อยๆ ใช้ค่อยๆ เก็บ อะไรแบบนี้ ก็จะสอนเขาในเกมด้วย”
กับการเล่นเกม หากใครจะเป็นห่วงว่าน้องแม็กซ์เวลล์จะติดเกมจนเกินไปหรือไม่ ไมค์ก็บอกว่าคอยสอดส่องใกล้ชิดอยู่แล้ว
“จริงๆ เขาก็คุมได้ดีอยู่แล้ว เพราะผมจะคอยเช็กเวลาพี่แม็กซ์ออนไลน์ในเกม ผมจะดูได้ว่าออนอยู่หรือเปล่า ถ้าสมมุติเขาออนไลน์อยู่แล้วมันดึกแล้วผมก็จะพิมพ์ไปถามว่าทำไมถึงยังไม่นอน”
การได้เห็นพัฒนาการของลูกชายในวัย 8 ขวบ รวมถึงได้ใช้เวลาด้วยกันอย่างดี ไมค์ก็ว่า
“แม็กซ์พัฒนาไปค่อนข้างไกลและเร็วด้วย ส่วนนึงจริงๆ ผมว่าเกมมีส่วนนะ”
พลางทำให้ย้อนคิดไปถึงตัวเองในอายุรุ่นราวคราวนั้น “ไม่น่าเชื่อว่าตอนนั้น 8 ขวบ เราทำอะไรอยู่”
ถือเป็นความภูมิใจและความสุขของแดดดี้ไมค์
