| ผู้เขียน | น้ำแข็งเปล่า |
|---|
สงครามสองเผ่าพันธุ์ระหว่างแวมไพร์และไลแคน ระอุขึ้นอีกครั้งใน Underworld: Blood Wars มหาสงครามล้างพันธุ์อสูร ที่ได้ผู้กำกับหญิง แอนนา ฟอร์สเตอร์ นั่งแท่นดูแลความมันส์ในภาคที่ 5 นี้ และยังได้ เคท เบคคินเซล มารับบทเดิม
เรื่องราวในภาคนี้ดำเนินต่อเนื่องจากครั้งก่อน “อีฟ” เด็กสาวครึ่งแวมไพร์ครึ่งไลแคน ลูกของ “เซลีน” ยังคงถูกไล่ล่าจากพวกไลแคนเพื่อการทดลอง ขณะเดียวกันเธอเองก็ยังถูกไล่ล่าจากฝ่ายแวมไพร์ด้วยข้อหาทรยศ แต่แล้วกลับเกิดเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้เซลีนต้องร่วมมือกับ “เดวิด” เพื่อช่วยเหลือเผ่าพันธุ์แวมไพร์ให้รอดพ้นจากการโจมตีของไลแคน และเพื่อยุติสงครามสองเผ่าพันธุ์ที่มีมา
แม้ว่าภาคที่ 4 จะออกฉายตั้งแต่ปี 2012 แต่ช่วงเริ่มต้นหนังมีการเล่าเท้าความถึงเรื่องราวในภาคก่อนๆ ทำให้ผู้ชมได้รื้อฟื้นความทรงจำ และมีเวลาทำความเข้าใจเหตุการณ์ แต่ถึงแม้ว่าจะไม่เคยดูภาคก่อนๆ มาเลย ก็ยังคงสนุกสนานและเข้าใจเนื้อเรื่องได้ไม่ยากนัก ด้วยเนื้อหาที่ไม่ได้มีความซับซ้อน และการเล่าเรื่องแบบตรงไปตรงมา ซึ่งจุดอ่อนก็คือทำให้สามารถเดาทางล่วงหน้าได้ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป
การลำดับเรื่องราวก็มีความต่อเนื่อง อาจมีบ้างในบางประเด็นที่ผู้กำกับอาจใส่เพิ่มเข้ามาใหม่ และชวนให้สงสัยถึงความเชื่อมโยงอยู่เนืองๆ แต่เพราะเรื่องราวที่ชวนให้ตื่นเต้นและลุ้นระทึกตลอดเวลาจึงทำให้มองข้ามในจุดนี้ ทำให้ดูได้เพลินๆ ตลอดทั้งเรื่อง
การต่อสู้ในครั้งนี้ก็นับว่าดุเดือด ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้แบบมือเปล่า หรือการต่อสู้กันด้วยอาวุธทันสมัยนานาชนิดที่จัดเต็มใส่กันแบบไม่มียั้ง แม้หลายๆ ฉากจะดูไม่แตกต่างไปจากพล็อตเดิมๆ แต่ก็ได้ตื่นตาตื่นใจกับฉากการต่อสู้ท่ามกลางหิมะขาวโพลนที่ดูแปลกตา
ครั้งนี้ เคท เบคคินเซล ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ทั้งฝีมือการแสดงที่เข้าขั้น และความฟิตของร่างกายที่แม้อายุจะอยู่หลัก 4 แล้ว แต่ยังดูเป๊ะทั้งร่าง แถมลีลาการต่อสู้ของเธอก็ดูดีไม่เบา ด้าน ธีโอ เจมส์ ในภาคนี้ ด้วยบทบาทที่มากขึ้นก็ทำให้เห็นเสน่ห์ในตัวเขาได้ชัดเจน
แล้วเรื่องราวก็จบลงในแบบที่ความสนุกยังคงค้างคา เป็นความรู้สึกที่อยากให้ภาคต่อไปมาในเร็ววัน
